Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 423

ตอนที่ 423 ออกเดินทาง

จางซื่อเฉียง ซุนต้าไห่และหยางซือเฉินอยู่คุ้มกันเทียนจิน ทหารทิ้งไว้ครึ่งหนึ่ง ให้กำลังห้าร้อยของสำนักนาวาสุคนธ์ภายใต้การดูแลของพานหมิงกับหน่วยรักษาความปลอดภัยในบังคับบัญชาของเด็กหนุ่มจากลานฝึกหู่เวยคอยดูแลปกป้องเทียนจิน

พื้นที่การค้าริมแม่น้ำทะละเป็นพื้นที่สำคัญ หวังทงทิ้งกองกำลังหู่เวย 5 กองร้อยเอาไว้ เดิมกององครักษ์เสื้อแพรกับกองกำลังหู่เวยก็ฝึกซ้อมร่วมกันอยู่แล้ว

ตั้งแต่แรกกองหนี่งจนถึงกองที่ยี่สิบ รวมเป็น 20 กองร้อย รายชื่อที่คนนอกรู้กัน กองร้อยค่าย 1 -5 เป็นกององครักษ์เสื้อแพร กองร้อยค่าย 6 ถึง 20 เป็นกองกำลังหู่เวย หากการสั่งการ แต่ละกองย่อมเป็นหนึ่งเดียว พร้อมถูกจัดการไปตามสถานการณ์

แน่นอนว่าตั้งแต่สร้างกองกำลังมา ค่ายหนึ่งถึงค่ายยี่สิบก็จัดลำดับตามความเก่งกล้าสามารถ ครั้งนี้กองร้อยค่ายที่ 16 ถึง 20ถูกทิ้งไว้ ก็ย่อมอยากไปอยู่ แต่วินัยกองทัพไม่อาจไม่ปฏิบัติ

ต้องบอกก่อนว่า ในยามนี้ให้เคลื่อนกองกำลัง หวังทงย่อมหาเหตุผลมาปฏิเสธได้ยาก เส้นทางน้ำถูกตัด เทียนจินโดยรอบเป็นทะเล ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะมีคนแล่นเรือมาโจมตี ยิ่งไปกว่านั้น ซุนจื้อปินที่เฝ้าระวังอยู่ทางตะวันออกก็สามารถข่มขวัญศัตรูปกป้องพื้นที่การค้าริมแม่น้ำทะเลได้

พวกตระกูลถาน เด็กหนุ่มจากลานฝึกหู่เวย โรงบ้านภายใต้การนำของชื่อเฮยก็ร่วมทัพไปเหนือด้วยกัน

พวกชื่อเฮยเดิมเป็นชาวมองโกลที่หลบหนีมาอาศัยบนแผ่นดินหมิง มีความคุ้นเคยกับทุ่งหญ้าดี การไปฝึกซ้อมที่เมืองเซวียนฝู่ ว่ากันว่าต้องออกจากป้อมจางเจียโข่ว ไปค้างแรมบนทุ่งหญ้าอีกหลายวัน คนพวกนี้ใช้การได้ พวกถามเจียงเองก็เคยติดตามถานกวนไปจี้โจวหลายครั้ง ก็เป็นพวกมีประสบการณ์มาก

สำหรับเด็กหนุ่มจากลานฝึกหู่เวย ครั้งนี้นับเป็นโอกาสเรียนรู้ที่ดีของพวกเขา ย่อมต้องพาไปด้วย และแต่ละคนยังได้สิทธินำคนสิบคนจากหน่วยรักษาความปลอดภัย ไปทางเหนือด้วยกัน

ตามปกติกองกำลังเคลื่อนพล ทหารสามพัน ก็ย่อมต้องมีราษฎรราว 500 ช่วยขนเสบียง ขุนพลคุมสถานการณ์เช่นนี้ได้ก็ย่อมได้รับเสียงชื่อชมว่าเข้มงวดกวดขัน วินัยทหารเข้มแข็ง

แต่หวังทงกลับไม่เหมือนกัน เขาใช้เพียงคน 250 จากสำนักนาวาสุคนธ์ จากนั้นก็คัดมาอีก 60 จากโรงตีเหล็ก ในนี้ยังมี 40 คนเป็นชาวต่างชาติ

ใช้กำลังคนน้อยมากจริง ๆ อวี๋จี้หย่งแห่งกองตรวจการกับซุนจื้อปินล้วนเป็นพวกมีประสบการณ์ พได้เห็นหวังทงจัดการเช่นนี้ก็ค่อนข้างไม่เห็นด้วย พวกเขาแอบคุยกันเองว่า อย่างไรก็เป็นเด็กหนุ่ม ไม่รู้เรื่องความสำคัญของการจัดทัพ เห็นการทหารเป็นเรื่องล้อเล่นไปได้

***********

วันที่ 29 เดือนสิบสองตามปฏิทินจันทรคติ แม้ว่าแต่ละครอบครัวในเทียนจินจะกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมฉลองปีใหม่ แต่ก็รู้ว่าหวังทงจะนำกำลังออกไปซ้อมรบที่เทียนจิน พวกสายสัมพันธ์ดีก็จะมาส่ง สายสัมพันธ์ห่างไกลก็มาดูความคึกคักหน่อยก็ดี

พวกที่มาดูความคึกคักรู้สึกว่าคุ้มค่าในการเดินทางไป กองกำลังหู่เวยแสนยานุภาพเกรียงไกร ทุกคนรู้ดี ปกติก็เห็นได้บ่อยในเมืองและนอกเมืองเทียนจิน ไม่น่าแปลกอันใด แต่ครั้งนี้ได้เห็นของใหม่

มินานายกองพันหวังจึงชาวบ้านแรงดีไปด้วยมากมาย ที่แท้นำรถไปมากมายเพียงนี้ น่าจะร่วมร้อยคันได้ แต่ละคันก็มีสัตว์เทียมอยู่ถึงสี่ตัว รถใหญ่สี่ล้อ ดูแล้วน่าจะยาวกว่ารถใหญ่ทั่วไปอีกครึ่งหนึ่ง ต้องบรรทุกของได้ไม่น้อยเป็นแน่

ที่ยิ่งแตกต่างก็คือ รอบรถสี่ทิสล้วนเป็นแผ่นไม้สูงเท่าคนเรียงแน่น เสบียงและอาวุธยุทโธปกรณ์ข้างในกองสูงท่วม

ประชาชนที่มามุงดู ยังมีพ่อค้าที่มาส่งก็มองออก รถใหญ่เช่นนี้นี้สามารถบรรทุกของได้มากกว่ารถที่ใช้ในปัจจุบันได้มากขึ้นอีกหนึ่งเท่า และใช้สัตว์ลากหลายตัว ยามนี้ทุกคนในเทียนจินล้วนกลัดกลุ้มว่าจะไปขนสินค้าจากเมืองหลวงมาอย่างไร หากไม่ใช้สัตว์ลาก

รถคันใหญ่ที่แปลกใหม่นี้ต้องเป็นใต้เท้าหวังสั่งให้โรงตีเหล็กสร้างขึ้นมาแน่ รอใต้เท้าหวังกลับมาค่อยถาม หรือไม่อีกสองสามวังก็ลองไปสอบถามดูก่อน

ทหารเดินเท้าสามพันเรียงเป็นแถวแต่ละค่าย หม่าซานเปียวนำกองพลม้า 200 นายอยู่ด้านขวา พลม้าภารกิจหนักมาก จะต้องนำไปสำรวจพื้นที่ข้างหน้าก่อน และยังต้องสืบข่าวรอบทิศ แม้ว่ายังอยู่ในเขตแผ่นดินหมิง แต่เมื่อซ้อมรบ เช่นนี้ก็ต้องปฏิบัติการพิถีพิถัน

คนตระกูลถาน กับเด็กหนุ่มจากลานฝึก ยังมีพวกโรงบ้านของชื่อเฮย ล้วนล้อมอยู่รอบกายหวังทง นับเป็นนายทหารคนสนิท นายกองไช่หนานก็ขี่ม้าอยู่ข้างๆ

เด็ก ๆ ที่มามุงดูกันพบเรื่องแปลกใหม่สองเรื่อง หนึ่งก็คือกลางขบวนมีรถใหญ่หนึ่งคัน เหมือนเป็นห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง บนรถมีไม้ฝารอบไม่พอ บนไม้ฝายังมีแผ่นไม้ปิด บนแผ่นไม้ยังมีพรมปูทับ ไม้ฝาสี่ทิศยังมีหน้าต่าง การเดินทางนี้ย่อมสะดวกสบายมาก เรื่องที่สองที่แปลกใหม่ก็คือ มีชาวต่างชาติตาสีฟ้าผิวขาวมากมาย บ้างก็เดินอยู่ข้างรถ เห็นก็ดูออกว่าเป็นช่างฝีมือ ที่น่าสนใจที่สุดก็คือทหารต่างชาติในชุดสีน้ำตาล สวมหมวกเหล็ก น่าจะ 20 นาย ถูกกองกำลังหู่เวยหนีบไว้หว่างกลาง

รูปลักษณ์ของทหารต่างชาติผมแดงเหล่านี้ แม้กระทั่งอาวุธที่ใช้ก็แตกต่างจากทหารหมิง เด็กจับจ้องด้วยความอยากรู้อยากเห็น บางครั้งทหารโปรตุเกสก็หันหน้ามาดู เด็กๆ ก็รีบร้อนลั่นวิ่งหนี สักพักก็ล้อมวงกันเข้ามาใหม่ สนุกสนานยิ่ง

************

“พี่หวัง ข้ามาจากทางนั้น ได้ยินพวกบ่นกันว่า ท่านเดินทัพอย่างกับออกไปท่องเที่ยว ยังเอารถใหญ่ไปให้ตัวเองนั่งด้วย”

หลี่หู่โถวขี่ม้าหัวเราะร่ากล่าวขึ้น สามารถติดตามออกฝึกซ้อมครั้งนี้ หลี่หู่โถวกับพวกซุนซิงล้วนตื่นเต้นอย่างมาก เขาเองรู้ถึงประโยชน์ของรถใหญ่ที่เหมือนห้องนั้นดี การกล่าวเช่นนี้ก็เพียงแค่เย้าแหย่เล่น ตามคาด พอหู่โถวพูดจบ ไช่หนานก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มขัดเขิน ประสานมือกล่าวว่า

“เรื่องของข้า กลับทำให้ใต้เท้าถูกป้ายสีให้ร้าย”

“นายกองไช่สุขภาพอ่อนแอ ไม่อาจอยู่ร่วมกระโจมกับพวกหยาบกระด้างอย่างเราได้ อย่างไรก็เป็นการออกปฏิบัติการครั้งแรกของกองกำลังหู่เวย นายกองไช่ก็ช่วยบันทึกเรื่องราวตลาดเส้นทางทั้งหมดให้ละเอียดที่สุด เตรียมไว้รอถวาย รถบ้านนี้ก็เพื่อการนี้ ไม่ต้องคิดมากเพียงนั้น”

หวังทงโบกมือยิ้มกล่าว ไช่หนานพยักหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ หวังทเอื้อมมือลูบม้า กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นักว่า

“ก็แค่ซ้อมๆ ยังต้องยุ่งยากเพียงนนี้ ออกเดินทางเลยก็ได้ ยังต้องดูฤกษ์ยามอีก เมื่อวานข้าไปกล่าวอำลากับใต้เท้าอวี๋ ใต้เท้าอวี๋ไม่เห็นอันใดในเรื่องนี้ กล่าวเพียงว่ ออกไปเดินเล่นก็ดี ดีกว่าอยู่ใรบ้านมาก พวกเจ้าดูสิ ใต้เท้าอวี๋กล่าวเช่นนี้ พวกเรากลับรอบคอบเช่นนี้”

ถานเจียงข้างๆ ยิ้มกล่าวว่า

“นายท่าน พวกเราไม่เชื่อ ทหารคนอื่นเชื่อ ไม่ปฏิบัติให้ครบถ้วน ถึงสนามรบจิตใจย่อมหวาดหวั่น ไม่อาจสงบสติได้ คอยแต่กังวล ใต้เท้าอวี๋นำทหารออกรบมานานหลายปี ขึ้นเหนือล่องใต้ ย่อมเห็นว่าเล็กน้อย ทหารของเราเคยออกไปปฏิบัติหน้าที่ไม่กี่ร้อย ที่เหลือก็ล้วนเป็นครั้งแรก ทุกอย่างรอบคอบเช่นนี้ดีแล้ว”

หวังทงพยักหน้า ตบท้ายทอยกล่าวว่า

“เรื่องขวัญกำลังใจ เรื่องนี้ข้ามองข้ามไปแล้วจริงๆ วันหน้าจะระวังให้มากแน่นอน”

หวังทงยอมรับความคิดเห็นที่ถูกต้องเสมอ ทำให้คนตระกูลถานที่อายุมากกว่าเขารู้สึกชื่นชม ขณะที่คุยกันนั้น ก็ได้ยินเสียงดังขึ้น จากนั้นฆ้องและกลองก็ตีขึ้นพร้อมกัน

เจ้าหน้าที่ขุนนางจากกองตรวจการและศาลชิงจวิน รวมทั้งบรรดาพ่อค้าก็มาคำนับพร้อมเพรียง อวยพรว่า

“ขอให้ใต้เท้าหวังไปครั้งนี้ ได้รับชัยชนะกลับมา!!”

ยิงปืนรัวกลอง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและบัณฏิตต่างก็มารอส่ง นี่เป็นธรรมเนียมการออกรบ หวังทงสร้างเทียนจินขึ้นมาด้วยสองมือจนรุ่งเรือง คนที่มาส่งไม่น้อยล้วนมาด้วยใจ

หวังทงยังทำตามธรรมเนียมอย่างที่สุด ค่อย ๆ บังคับม้าให้หันรอบทิศ ประสานมือคารวะ ผู้ใหญ่ต่างก็ก้มกายคำนับ ประชาชนไม่น้อยคุกเข่า เด็กๆ เอาแต่กระโดดโลดเต้นโบกมือให้กองทัพ เด็กหนุ่มไม่น้อยเห็นความเกรียงไกรของกองกำลังหู่เวยแล้วก็ชื่นชมมาก คิดว่ามีโอกาสจะต้องสมัครเข้าร่วมกองกำลัง

“วันนี้ 29 เดือนสิบสอง เสียงประทัดเสียงกลอง ราวกับฉลองปีใหม่แล้ว นายกองใช่ อย่าลืมนะคืนนี้แผ่นแป้งขาวย่างหมูแพะปลากุ้งต้องเตรียมพร้อม พี่น้องเราออกรบในวันปีใหม่ อาหารการกินต้องจัดอย่าให้บกพร่อง”

เดินไปไม่เท่าไร หวังทงก็ยิ้มกล่าวกับนายกองไช่ กลางวันออกเดินทางจากเทียนจิน ก่อนฟ้ามืดจะต้องตั้งค่าย อย่างมากก็เดินไปได้แค่ 15 ลี้ ไช่หนานได้สั่งการพ่อครัวให้เตรียมอาหารจากเทียนจินไว้แล้ว คืนนี้พอตั้งค่ายก็จะมีอาหารมาส่งถึงที่

“ใต้เท้าโปรดวางใจ เกี๊ยวห่อเสร็จแช่แข็งเสร็จแล้ว คืนพรุ่งนี้ก่อนปีใหม่ก็จะได้ให้ทุกคนได้กินกันร้อนๆ”

หวังทงพยักหน้าหันมองขบวนทัพ ล้วนเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ทุกคนล้วนสวมหนังแกะและเสื้อบุนวม เดินทางกันอย่างอบอุ่น อาจเพราะปีใหม่ไม่เคยได้ไปไหน การเดินทางครั้งนี้จึงรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ ทุกคนต่างร่าเริงเต็มที่ สีหน้าเคร่งขรึมเพียงกลุ่มเดียว ก็คือพวกทหารต่างชาติพวกนั้น

ทหารชาวโปรตุเกสสิบคนและมือชำนาญยิงปืนใหญ่บนเรือสิบคนถูกหวังทงพามาด้วย พวกเขาย่อมไม่ยินดีอันใด แต่ก็ตามมา แสดงให้เห็นว่าก็ไม่ได้แข็งกร้าวอันใด ตลอดทางให้พวกเขาค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับกองทัพก็แล้วกัน

*************

ตอนเย็นตั้งค่ายพักเสร็จ หม้อก็ต้มเนื้อหมูและแพะที่ฆ่าเรียบร้อย ยังมีพ่อครัวทอดปลาและแผ่นเปี๊ยะขาว กลิ่นหอมโชย ผู้คนทั้งค่ายต่างอยู่ในบรรยากาศแห่งความสุขและเสียงหัวเราะ

รถคันนั้นกันลมได้ ตรงกลางกว้างขวาง ตอนนี้แปดคนนั่งเบียดอยู่ด้านใน หวังทงชี้ไปที่แผนที่หยาบๆ แผ่นหนึ่งกล่าวว่า

“ไปตามแม่น้ำหยางเหอ สามวันก็น่าจะผ่านอู่ชิงไปได้ อำเภออู่ชิงไปถึงอำเภอหวงชุนยังต้องอีกสามวัน ระหว่างนี้น่าจะเดินทางอยู่ท่ามกลางพื้นที่รกร้างป่าเขา ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ครั้งนี้พวกเขาหลายคนก็เป็นครั้งแรก ใช้โอกาสนี้ฝึกดีๆ ให้ชำนาญ”

ทุกคนพยักหน้า หวังทงปรบมือกล่าวว่า

“การฝึกซ้อมนี้ไม่ว่าเบื้องบนคิดเช่นไร แต่ก็เป็นโอกาสอันดีของพวกเรา ขอให้ทุกคนเห็นคุณค่า!!”

ทุกคนในรถรับคำพร้อมเพรียง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version