ตอนที่ 473 ใช้ทุกยุทธวิธีปิดร้าน
“ขนมเปี๊ยะนึ่งของวัดต้าเปยเราเหตุใดจึงได้ขาวเช่นนี้ หอมเช่นนี้ ก็เพราะใช้ผงฟูจากร้านสามธาราอย่างไรเล่า!!”
“ประสกท่านกล่าวอันใดฤา บอกว่าเมื่อก่อนขนมเปี๊ยะนึ่งก็ทั้งขาวและหอม ขอบคุณประสกที่ชม แต่เรื่องของเราเราย่อมรู้เอง ผู้ออกบวชย่อมไม่โกหก เมื่อก่อนซื้อผงฟูร้านหย่งเซิ่ง ขนมเปี๊ยะนึ่งมีกลิ่นแปลกๆ หลายครั้งลองแก้ไขแล้วก็ไม่ดีขึ้น แต่พอใช้ผงฟูจากร้านสามธารา ประสกท่านมาลองชิมดู”
ประตูเมืองตะวันตกที่เมืองเทียนจิน ประตูนี้ใกล้กับแม่น้ำทะเลและคลองส่งน้ำที่สุด และก็เป็นประตูที่มีคนผ่านไปมามากที่สุด ที่ประตูเมืองยังสร้างเพิงไว้แห่งหนึ่ง มีพระนักบวชทำพิธีกรรมอยู่ที่นั่น มองดูเหมือนว่าขอพร ยังมีพระศีรษะโตใบหูกว้างแจกขนมเปี๊ยะนึ่งอยู่บนถนน
ขนมเปี๊ยะนึ่งชิ้นเล็ก เท่ากำปั้นเท่านั้น แต่แป้งขาว ผู้คนผ่านไปมาก็ล้วนอยากชิมสักคำ นับประสาอันใดกับไส้ขนมที่มีชื่อเสียงมากของวัดต้าเปยทางประตูเมืองตะวันตกของเทียนจินแห่งนี้
เมื่อก่อนคนยากคนจนอยากจะกินไส้ขนมของวัดนี้ก็ไม่มีทางได้กิน มีเพียงประสกที่เดินทางไปบริจาคเงินให้กับวัดเท่านั้น จึงได้มีลาภปาก
วันนี้บรรดาพระออกมาแจกด้วยตนเอง ช่างแปลกจริง อะไรจริง แต่ขนมเปี๊ยะก็หอมหวานและดูขาวราวหิมะ พระกล่าวเองย่อมเป็นที่เชื่อถือของชาวบ้านหลายส่วน มีเหตุผลน่าเชื่อถือ ทุกคนย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อ
ในเมืองเทียนจินนั้นยิ่งต่างจากปกติ ร้านขนมเปี๊ยะนึ่งหลายร้าน วันนี้เปลี่ยนธงผืนใหม่ ด้านบนมีคำว่าผงฟูร้านสามธารา……
เดินมาตลอดทาง แม้ว่าความรู้สึกช้า แต่ก็เกรงว่าในใจอย่างไรก็ต้องคิด รู้ว่าผงฟูร้านสามธาราย่อมดีกว่าของร้านหย่งเซิ่ง พวกไม่รู้เรื่องรู้ราว วันหน้าก็ต้องเดินไปซื้อที่ร้านสามธารา
ส่วนเรื่องว่าผงฟูร้านสามธาราล้างหนังได้สะอาดกว่า แม้ว่าไม่มีคนเคยลอง แต่คนแรกที่พูดเช่นนี้ก็ย่อมเป็นร้านสามธารา ทำให้คนรู้สึกเชื่อถือกันไปก่อนแล้ว
นอกจากร้านหนังที่รู้เรื่องหนังดีแล้ว ผู้ใดจะรู้ว่าหนังปีนี้ดีหรือปีที่แล้วดี แต่พอมีร้านหนึ่งพูดเช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกว่ามีเหตุผล สำหรับผู้ที่รู้เรื่องหนังดีแล้วย่อมรู้ พ่อค้าใดให้ส่วนแบ่งจากการซื้อมากกว่า พ่อค้าก็ย่อมเห็นราคาเป็นสำคัญในการเทียบสินค้า
ร้านหย่งเซิ่งลดราคาดึงลูกค้ากลับมา มาถึงวันนี้ก็ไม่เห็นลูกค้าแม้สักคน ไม่เพียงเท่านี้ หลังวันที่ลดราคาเป็นต้นมา ลูกค้าที่เคยมาซื้อก็มาเยือนอีกครั้ง แต่ไม่ใช่ว่ามาซื้อ หากมาเพื่อคืน
“ร้านพวกเจ้าต้องอธิบายมาให้ชัดเจน มิเช่นนั้นข้าไม่ยอมไปไหนแน่!!”
คนผู้หนึ่งท่าทางเหมือนเถ้าแก่กำลังตวาดเสียงดังลั่นอยู่ในร้าน หากเป็นยามปกติ คนงานร้านหย่งเซิ่งก็ย่อมส่งลูกน้องในร้านมาไล่ โยนออกไปนอกถนน
แต่ตอนนี้ในร้านนอกร้านเต็มไปด้วยคนหลายสิบคน สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น คนมากย่อมจัดการไม่ง่าย ได้แต่อธิบายละมุนละม่อม แต่เถ้าแก่นั่นก็ไม่ยอม ยังคงตะเบ็งเสียงดังลั่นว่า
“เมื่อวานซื้อผงฟูร้านเจ้ากลับไป ตอนนวดแป้งจึงได้พบว่า ผงฟูหนึ่งชั่ง 7 ส่วนเป็นดินทรายขาว ดีที่ยังไม่ได้ให้ลูกค้ากินไป หากกินไป ร้านค้าคงต้องปิดไปแล้ว”
พอได้ยินเช่นนี้ คนงานในร้านทุกคนล้วนรู้สึกโมโห มีคนงานผู้หนึ่งเดินออกมาหน้าร้านตะโกนดังว่า
“เหลวไหลสิ้นดี ร้านหย่งเซิ่งการค้าใหญ่เพียงใด จะมาโกงสินค้าเจ้าเล็กน้อยนี่หรือ เจ้าควรรู้ว่านี่เป็นกิจการผู้ใด อย่าได้สร้างเรื่องมาหลอกผู้อื่น ระวังจะจับส่งทางการ!!”
คนงานผู้นั้นกล่าวจบ ก็ถูกคนด้านหลังดึงกลับไป มารดามันสิจับส่งทางการ ตอนนี้พื้นที่เทียนจิน ทางการที่ไหนจะไม่เข้าข้างร้านหย่งเซิ่ง หากเมื่อพูดออกไปก็เหมือนสาดน้ำออกไป คิดเสียใจก็สายไปเสียแล้ว คนงานผู้นี้กล่าวเช่นนี้ คนที่มาเอาเรื่องหลายสิบคนหน้าร้านก็เริ่มตะโกนดังว่า “ไปพบทางการกันๆ ขอให้นายท่านองครักษ์เสื้อแพรมาตัดสิน!!”
พบทางการก็พบสิ ทุกคนในร้านหย่งเซิ่งต่างพากันโมโห เมื่อก่อนตอนมาจากซานซี ข้างในผงฟูนั้นมีทรายหนึ่งส่วน พวกเราอย่างมากก็เติมอีกหนึ่งส่วน ไหนเลยจะเติมเจ็ดส่วน นี่ไม่ใช่หาเรื่องใส่ความแล้วจะเรียกว่าอะไร นายกองพันองครักษ์เสื้อแพรแม้ไม่เข้าข้างเรา แต่อย่างไรก็ย่อมต้องมีเหตุผล
*************
“ใต้เท้า ใต้เท้า นี่มันไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้องขอรับ!!”
“มีอันใดไม่ถูกต้องกัน สินค้าไม่ใช่ว่าขนมาจากโกดังร้านเจ้าหรอกหรือ ดินทรายขาวผสมในผงฟูนี่ก็ไม่น้อย ผู้ใดบ้างมองไม่ออกกัน!!”
มีเรื่องเอะอะจนต้องเชิญองครักษ์เสื้อแพรมา ทุกคนเลือกคนไปโกดังด้านหลังขนกระสอบผ้าบรรจุผงฟูออกมากระสอบหนึ่ง สุ่มเปิดออกห่อหนึ่ง ปรากฎว่าทำเอาทุกคนตาค้างกันไปหมด
นี่ไม่ใช่เรื่องว่าผงฟูผสมทรายแล้ว หากเห็นชัดๆ ว่าเป็นทรายผสมผงฟูมากกว่า หากดูจากสีในห่อแล้ว ตอนขายให้ลูกค้า คงต้องผสมผงฟูเพิ่มอีกหน่อย
ทุกคนได้เห็นก็ตะลึงค้างกันไป ก่อนจะตามมาด้วยความโมโห ตะโกนด่าดังขึ้นว่า
“ร้านสามธาราลดราคายังเป็นสินค้าคุณภาพเดิม ร้านหย่งเซิ่งพวกเจ้าเหตุใดจึงบัดซบเพียงนี้ ผสมทรายมากเพียงนี้ พวกเจ้ามียางอายหรือไม่”
บรรดาคนงานร้านหย่งเซิ่งที่ท่าทางเอาเรื่องพวกนั้นก่อนหน้ายามนี้ก็ไม่รู้จะกล่าวอันใดดี ตอนนี้อย่างไรก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบได้ ตั้งแต่พ่อบ้านชิวมา หลายเรื่องในร้านทุกคนก็ไม่แน่ในนัก ผู้ใดจะรู้ว่าผงฟูนี้แท้จริงแล้วเกิดเรื่องใดกันแน่
ลูกค้าด่าทอเสียงดัง คนงานก็นิ่งค้างราวไก่ไม้ องครักษ์เสื้อแพรที่ถูกตามมาก็ต้องการตรวจสอบให้กระจ่าง
ตอนนี้นายกองพันองครักษ์เสื้อแพรเทียนจิน ตามระบบกองกำลังก็มีถึงพันกว่านาย หากตอนนี้แม้ไม่นับกองกำลังหู่เวย ก็เกือบสี่พันแล้ว
สี่พันคนทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ภาษีและตรวจจับภาษี แต่ละแห่งต้องเข้าตรวจสอบ และยังต้องจดบัญชี ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่รับเงินเดือน อยู่ในระบบขององครักษ์เสื้อแพร
เจ้าหน้าที่ระดับล่างสุดขององครักษ์เสื้อแพรปกติก็เรียกว่าหัวหน้าหน่วยหรือไม่ก็พลทหาร แต่ที่เทียนจินนี้ไม่เหมือนกัน ทหารค่ายหนึ่งถึงค่ายยี่สิบเรียกว่า ‘นายทหาร’ ที่เหลือที่ปฏิบัติหน้าที่จะเรียกว่า ‘เจ้าพนักงาน’
“ใต้เท้าหวังเรามีกฏระเบียบ ร้านเจ้ารู้กระมัง ทุกร้านได้ส่งเจ้าพนักงานมาประกาศไว้แล้ว ขายของปลอม โกงตาชั่ง หากตรวจพบเป็นจริง จะจัดการเช่นไร? พวกเจ้ารู้กระมัง!!”
เจ้าพนักงานผู้หนึ่งถามเสียงเยียบเน็น ร้านหย่งเซิ่งแรกเริ่มยังคิดว่าเรื่องที่เกิดเป็นเรื่องเล็ก คนงานหลายคนสามารถรับมือได้ ตอนนี้ได้แต่ส่งหลงจู๊ออกมารับมือ หลงจู๊ตอนนี้ได้แต่ยิ้มแห้งๆ กล่าวว่า
“ใต้เท้า ใต้เท้า ร้านหย่งเซิ่งเรากิจการใหญ่โต ย่อมไม่โกงลูกค้าเป็นแน่ ปลอมหนึ่งปรับสิบ พวกเรายอมแล้ว พวกเรายอมชดใช้ก็ได้ แต่ขอทุกท่านอย่าได้ป่าวประกาศไปข้างนอก จะต้องมีเหตุผิดพลาดที่ใดสักที่หนึ่งเป็นแน่!!”
“ขายสินค้าปลอมให้พวกเรา โกดังยังมีสินค้าปลอม ยังจะผิดพลาดอันใดกันอีก หากไม่ใช่ว่าเชิญทางการมา พวกเจ้าจะยอมรับหรือ!!”
เมื่อได้คืบไหนเลยจะยอมลดราวาศอก พวกลูกค้าที่ตามกันมาก็พากันตะโกนอย่างเดือดดาล สีหน้าหลงจู๊อยากจะร้องไห้ กล่าวว่า
“โกดังปกติก็ใส่กุญแจไว้ นอกจากคนเฝ้าสองสามคน คนอื่นไม่อาจเข้าไปได้ จะว่าไป ร้านหย่งเซิ่งใหญ่เพียงนี้ ขายปลีกได้กำไรเท่าไรกัน ไยต้องทำเรื่องเช่นนี้ด้วย!!”
กล่าวเช่นนี้ก็เหมือนปัดภาระเกินไป แต่ก็สามารถอธิบายได้ ลูกค้าที่ตามกันมาแม้ว่าจะโมโห หากก็ยอมรับคำอธิบาย แต่การกล่าวเช่นนี้กลับทำให้อีกผู้หนึ่งเดือดดาลแทน ผู้นั้นท่าทางแบบชาวบ้าน ร่างกายเตี้ยล่ำ ได้ยินเช่นนี้ ก็ขว้างซองแดงในมือทิ้ง ตวาดด่าเสียงดังว่า
“ข้าเมื่อคืนวานกลับไปถูกนางยักษ์ที่บ้านด่าทั้งคืน ล้วนเป็นเพราะผงฟูพวกเจ้าก่อเรื่องให้ข้า ยังบอกว่าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้ ผงฟูห่อนี้คืออะไร หรือว่าพวกเรามาใส่ความพวกเจ้ากัน!!”
ดูออกว่าความเดือดดาลเกินจะควบคุมแล้ว เดินเข้าไปกระชากห่อผงฟูที่กองอยู่ลงพื้น คนงานร้านหย่งเซิ่งคิดจะเข้ามาห้ามปราม แม้ว่าโกดังจะเล็ก แต่เจ้าพนักงานและลูกค้าก็ตั้งใจเหมือนไม่ตั้งใจปิดทางไว้ คนงานร้านก็ไม่ร้อนใจ
ก็แค่ผงฟูที่ขายราคาสูง หากเดิมก็เป็นแค่ของราคาถูก
แต่นาทีถัดมาก็ทำเอาทุกคนตาค้าง ลูกค้าที่เข้าไปกระชากห่อผงฟูได้แต่ยืนเซ่ออยู่กับที่ เจ้าพนักงานพากันกำด้ามดาบแน่น
ห่อผงฟูที่ร่วงอยู่ที่พื้น บางห่อเป็นผงฟู หากมีบางห่อเปิดเป็นรูกว้างมาก ด้านในที่เป็นคันธนูและลูกธนู ยังมีขวานและดาบโผล่ออกมา
ชาวบ้านอาจครอบครองขวานและดาบได้ แต่ไม่อาจครอบครองธนู นี่เป็นอาวุธสำคัญทางการทหาร ชาวบ้านมีไว้ครอบครองย่อมมีโทษหนัก เจ้าพนักงานเคร่งเครียดทันที คนงานและหลงจู๊ร้านหย่งเซิ่งพากันตาค้าง ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“ยังจะยืนอึ้งอยู่ทำไม คนไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด!! รีบไปแจ้งทางการ!!”
เจ้าพนักงานตะโกนดัง ทำให้ทุกคนได้สติคืนมา ชาวบ้านที่มาคืนสินค้าด้วยอารมณ์เดือดดาลพอได้เห็นอาวุธพวกนี้ ผู้ใดจะกล้าอยู่กันต่อ พอเสียงตะโกนดังขึ้น ก็รีบเผ่นกันออกนอกร้านไปทันที พริบตาเดียวก็หายไปกันเกลี้ยง
คนงานที่ร้านยังไม่ทันได้สติคืนมา ได้แค่มองตาค้างนิ่งไม่ไหวติง
ผงฟูร้านสามธาราขายดี ร้านหย่งเซิ่งมีคนมาคืนสินค้าและด่าทอยกใหญ่ มีคนมามุงดูกันไม่น้อย รอจนเจ้าพนักงานมาถึง ก็เริ่มมีคนมากมายมาออดูมากขึ้น
ทุกคนเดาว่าข้างในต้องเกิดเรื่องใดขึ้น พากันชะเง้อคอมอง เห็นเพียงแค่ด้านในมีคนวิ่งออกมา ตะโกนเสียงดังว่า
“ร้านหย่งเซิ่งซ่อนธนูไว้ รีบไปแจ้งทางการ รีบไปแจ้งทางการ!!”
พอได้ยินเช่นนี้ คนมุงทั้งหลายก็รีบสลายตัวทันที รอให้ทหารมาถึง พวกคนมุงก็ย่อมถูกจับไปใช้แรงงาน แค่มามุงดูไยต้องรับทุกข์เช่นนั้นด้วย
ตามหลักทหารค่ายที่ใกล้ที่สุดมาที่นี่ก็ต้องหนึ่งก้านธูป แต่พอผู้คนสลายตัวไป ก็มีกองกำลังทหารมาถึง น่าเสียดายที่ไม่ทันมีคนสังเกตว่า คนที่ไปตามนั้นเหตุใดจึงตามมาได้เร็วเพียงนี้
บ่ายวันที่ 5 เดือนเจ็ด ชื่อเสียงร้านหย่งเซิ่งก็ฉาวโฉ่ ขายของไม่ดีหลอกลวงชาวบ้าน แอบซ่อนอาวุธสงคราม คิดก่อการร้าย มีสองเรื่องนี้ ชาวบ้านที่ไหนจะอยากมาค้าขายด้วย
และหลายวันมานี้ ทุกวันก็มีรถม้าลากป้ายไปตามถนน คนหลากหลายพากันตะโกนประกาศดัง ยังมีลดราคาส่งเสริมการขาย ผู้ใดจะไม่รู้ว่าร้านสามธาราและร้านอื่นๆ ในเครือมีสินค้าดีราคาถูก ผู้ใดจะอยากไปซื้อร้านอื่นกัน
ร้านหย่งเซิ่งไม่อาจทำการค้าต่อได้อีกต่อไป……