Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 491

ตอนที่ 491 ปณิธานยิ่งใหญ่

สามารถกล่าวว่าลำบากก็แสดงให้เห็นว่าสามารถต่อเรือได้จริง หวังทงได้ยินแล้วก็ยิ้มรีบถามว่า

“มีความลำบากอันใด รีบกล่าวมา!”

ช่างที่กล่าวนั้นอายุราว 50 กว่า แต่ผู้ที่ใช้ชีวิตตากแดดตากลมบนริมทะเลมาตลอดชีวิต ก็ย่อมแลดูแก่กว่าอายุ ช่างผู้นั้นกล่าวถึงความลำบากเสร็จก็เอาแต่จ้องมองหวังทง

จะว่าไป หวังทงเป็นนายกองพันองครักษ์เสื้อแพร บรรดาช่างเป็นแค่คนธรรมดา ยังเป็นคนที่แอบต่อเรือผิดกฎหมาย หากต่อเรือออกมาไม่ได้ หวังทงโมโหขึ้นมาก็ย่อมไม่สนใจเหตุผล ทุกคนได้แต่จบสิ้นกัน ดีไม่ดีต้องมีความผิดติดตัว ช่างต่อเรือจึงได้กล่าวเช่นนี้ มีหลายส่วนเป็นจริงไม่มีเท็จ แต่ก็เหมือนมีการลองหยั่งเชิงอยู่บ้าง

ได้ยินหวังทงถามกลับ ช่างเรือก็อดไม่ได้ต้องถอนหายใจโล่งอก หันไปสบตากับบรรดาช่างที่มาด้วยกัน กล่าวว่า

“เมื่อครู่นายท่านได้ลงไปท้องเรือชั้นล่างสุดพร้อมพวกเรา ได้เห็นกระดูกมังกรหรือไม่?”

เมื่อครู่ตอนลงไปท้องเรือ ยังลงไปถึงชั้นล่างสุดอย่างตั้งใจ มุดเข้าไปดูกัน จึงได้เห็นไชท่อนไม้ใหญ่แกนเรือจากหน้าเรือยันท้ายเรือ หวังทงพยักหน้า นายช่างผู้นั้นจึงได้กล่าวต่อว่า

“โครงเรือพวกนี้ก็เหมือนกระดูกสุกรกระดูกแพะต่อกันขึ้นเป็นโครง แต่หากพลิกกลับมาดู ก็จะเห็นว่าต่อโครงอยู่บนกระดูกมังกร ไม่มีกระดูกมังกรนี้แล้ว เรือทั้งลำก็จะต่อขึ้นโครงไม่ได้ เรือใหญ่เช่นนี้ กระดูกมังกรก็ต้องเป็นท่อนใหญ่มาก ตอนนี้ใต้หล้าเรานอกจากที่ยูนนานและกุ้ยโจวที่มีไม้เช่นนี้แล้ว ที่อื่นมีที่ไหนกัน ดังนั้นเรือที่ข้าน้อยจะต่อจึงมีความลำบากอยู่ แต่หากต้องการต่อลำเล็กหน่อย ย่อมไม่ยากอันใด”

ช่างเรือกล่าวจบ ก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสริมความต่อว่า

“ใช้ไม้หลายท่อนมาต่อกันเป็นท่อนใหญ่ใช่ว่าไม่ได้ แต่เรือออกทะเลผจญคลื่นลมแรง อย่างไรก็ควรจะแน่นหนาไว้ก่อนจะดีกว่า”

ในความเป็นจริงนั้น เรือที่สร้างในกวางตุ้งก็ใช้ไม้หลายท่อนมาต่อกันเป็นกระดูกมังกร และก็พอใช้การได้ดีไม่น้อย แต่ช่างที่ซานตงไม่เข้าใจเทคนิคพวกนี้

ไม่มีไม้ ความลำบากนี้ก็เป็นจริงดังว่า หวังทงคิดแล้วก็กล่าวว่า

“ทุกท่านตามข้ามา”

บรรดาช่างต่อเรือไม่รู้ว่าให้ไปไหน ในใจรู้สึกหวาดหวั่น แต่ก็ตามหวังทงลงจากเรือไป แต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปในทิศทางที่มา หากไปทางริมทะเล

เดินไปไม่ไกล ก็เห็นพื้นที่โล่ง ด้านนอกใช้ไม้ต่อเป็นเพิงหยาบๆ ยังมีโรงม้าและรถอยู่ด้านนอกไม่น้อย

ทางนั้นพอเห็นหวังทงนำคนมาด้วย ก็ดูแลก็รีบปรี่เข้ามาทักทาย นำหวังทงกับบรรดาช่างเข้าไป

พอเข้าไปเป็นพื้นที่กว้างขวาง บรรดาช่างรู้แล้วว่าหวังทงพาพวกเขามาที่นี่เพื่อดูอะไร ไม้ท่อนใหญ่ๆ เดิมๆ วางอยู่กลางพื้นที่กว้าง มีหลายคนนำไม้วัดเข้าไปวัดกันดู มีพ่อค้ากำลังต่อรองราคากันอยู่

หวังทงยิ้มกล่าวว่า

“ไม้เช่นนี้ใหญ่พอหรือไม่?”

ช่างใหญ่ที่บอกว่ามีความลำบากไม่รับคำ หากกลับเดินเข้าไปใกล้ คนด้านหลังหันมาขออภัยก่อนจะรีบตามไป บรรดาคนงานโรงไม้จะเข้าไปห้าม แต่พอมองไปทางหวังทงก็หยุดเคลื่อนไหว

บรรดาช่างต่อเรือล้อมวงดูไม้พลางดมไปด้วย ถึงกับมีคนขอยืมค้อนไปทุบดู หวังทงยืนอมยิ้มอยู่ ไม่เข้าไปขวาง

หวังทงยินดีที่ได้เห็นช่างชำนาญการทำงานกันเช่นนี้ งานที่พวกเขาจะทำมีแววสัมฤทธิ์ผล ดูมีหลักการ เช่นนั้นก็ย่อมสร้างผลสำเร็จไม่หยุด กลับกัน พวกบัณฑิตเรียนหนังสือวันๆ เอาแต่คุยหลักการปราชญ์เมธี หลักการคุณธรรมใหญ่โตอะไรเทือกนั้น ล้วนเป็นวาจาว่างเปล่า ไม่มีคุณค่าอันใด ช่างน่ารังเกียจ

อยู่ที่นั่นอยู่นาน ช่างหลายคนก็กลับมาอยู่หน้าหวังทง คนหนึ่งกล่าวว่า

“นายท่าน ไม้พวกนี้ขนย้ายมาทางทะเลกระมัง?”

เห็นหวังทงพยักหน้า บรรดาช่างก็ดีใจ นายช่างใหญ่กล่าวว่า

“การต่อเรือ ไม้ต้องผ่านการแช่อยู่ในน้ำทะเลมาระยะหนึ่งจึงจะใช้การได้ เห็นไม้เมื่อครู่แล้ว มีกลิ่นอายทะเล เนื้อไม้แน่นหนาดี ย่อมแช่ในน้ำทะเลมา นายท่าน ไม้พวกนี้จากทางใต้ขนมาที่นี่ทางทะเล ใช้จ่ายไม่น้อยกระมัง!”

หวังทงส่ายหน้ายิ้มกล่าวว่า

“จะมาจากทางใต้ได้อย่างไรกัน เจ้าคิดว่าทำงเหลียวโจวไม่มีไม้ใหญ่งั้นหรือ?”

เมื่อกล่าวเช่นนี้ บรรดาช่างต่างก็เข้าใจในทันที พากันหัวเราะดัง เป็นการตัดไม้ใหญ่นอกด่านในป่าลำ และปล่อยให้ล่องมาตามแม่น้ำก่อนออกสู่ทะเลมาเทียนจินขาย เป็นเรื่องที่หวังทงรู้สึกภาคภูมิใจในตอนนี้ การแลกเปลี่ยนสิ่งที่มีและไม่มีกันและกัน สินค้าไม่ได้ราคาในพื้นที่เอามาขายที่นี่ได้ราคาสูง นับเป็นหลักสำคัญของการค้า

ได้เห็นไม้ใหญ่สร้างประโยชน์ให้ตน ในใจหวังทงก็รู้สึกยินดียิ่ง จึงได้เอ่ยถามต่อว่า

“พวกเจ้าว่า ไม้ใหญ่พวกนี้พอใช้ไหม?”

“พอขอรับๆ !”

บรรดาช่างรีบพากันพยักหน้า หวังทงอารมณ์ดี นำคนออกจากโรงไม้ไป ยกมือชี้ไปที่ว่างรกร้างริมท้องทะเลและแม่น้ำทะเลกล่าวว่า

“วันหน้าที่แห่งนี้จะเป็นท่าเรือ โกดังและร้านค้า เป็นที่รุ่งเรืองที่สุดของใต้หล้า แต่เทียนจินตอนนี้ไม่มีเรือทะเลเป็นของตนเอง ไปค้าขายก็ไม่ค่อยสะดวก ดังนั้นข้าจึงต้องสร้างโรงต่อเรือที่นี่สักแห่งหนึ่ง”

อารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ หวังทงน้ำเสียงก็ยิ่งดังขึ้น

“เทียนจินไม่ขาดแคลนเงินทอง เทียนจินไม่ขาดแคลนแรงงาน มีแต่ช่างต่อเรือที่ขาด ตอนนี้พวกเจ้ามากันที่นี่ เทียนจินเราจะต่อเรือใหญ่เอง สร้างเรือที่ใหญ่ที่สุดในใต้หล้านี้!”

กล่าวถึงตรงนี้หวังทงก็หันหน้าไปกล่าวกับบรรดาช่างต่อเรือว่า

“เทียนจินแสนรุ่งเรืองนี้พวกเจ้าก็เห็นแล้ เทียนจินมีเงินทอง ข้าเองก็มีเงิน ขอเพียงพวกเจ้าต่อเรือใหญ่ขึ้นมาได้ พวกเจ้าก็จะร่ำรวย ถึงตอนนั้นพวกเจ้าย่อมมีตำแหน่งทางการติดตัวกันไป ที่เทียนจินนี้ ขอเพียงพวกเจ้าตั้งใจทำงาน ย่อมมีพร้อมทุกสิ่งในชีวิต!”

การเป็นช่างต่อเรือ สามารถต่อเรือใหญ่ขึ้นมาได้ เป็นการพิสูจน์ว่าตนเองมีความสามารถ ย่อมยินดีทำ นับประสาอันใดกับการที่หวังทงมีค่าตอบแทนสูงให้เช่นนี้

พวกเขาคิดเล็กน้อยก็เข้าใจ ครั้งนี้พวกเขาหลายคนมาก่อนผู้ใด หากตั้งใจทำให้ดี ผู้ดูแลการต่อเรือหลักในวันหน้าย่อมเป็นพวกเขา

อาชีพต่อเรือที่ซานตงทำได้แค่ให้พอมีพอกินสบาย แต่ที่เทียนจินสามารถสร้างโอกาสร่ำรวยใหญ่ได้ จะให้ไม่หวั่นไหวได้อย่างไร บรรดาช่างต่อเรือก้ย่อมยินดี แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งต้องวางแผนให้รอบคอบ

บรรดาช่างต่อเรื่อต้องสร้างโครงเรือ แบ่งงานกันทำ ตรวจสอบความก้าวหน้า ยังต้องดูเรือไม้ที่จะมาต่อ อีกหลายเรื่องตามมา แม้ว่าไม่เคยเรียนหนังสือ แต่ก็มีความคิดรอบคอบ มีมุมมองภาพกว้าง หวังทงกล่าวจบก็มองไปทางพวกเขา ทุกคนก็พอวางแผนในใจได้แล้ว

ช่างทั้ง 5 สบตากัน ช่างอายุมากที่สุดเป็นคนคำนับก่อน จากนั้นกล่าวอย่างเป็นการเป็นงานว่า

“นายท่านให้ความสำคัญเช่นนี้ พวกข้าน้อยก็จะทำให้สุดความสามารถ แต่เร่งร้อนไม่ได้ เพียงพวกข้าน้อยห้าคนก็ไม่พอ นายท่านเรียกตัวข้าน้อยมาที่นี่ ย่อมสามารถหาคนมากกว่านี้มาเพิ่มได้ ข้าน้อยมาจากเติงโจว ไหลโจวและชิงโจว ที่นั่นมีช่างไม่น้อย ขอใต้เท้าเมตตา ให้ข้าน้อยกลับไปซานตงสักครา ย่อมนำช่างจำนวนมากมาทำงานที่นี่ได้”

นี่เป็นการวางแผนของผู้มีประสบการณ์ หวังทงพยักหน้า อีกคนกล่าวต่อว่า

“เทียนจินและซานคงแม้ว่าใกล้ แต่หากต้องทำงานหนัก เกรงว่าไม่มีเวลากลับบ้าน ข้าน้อยกลับไปครานี้ก็จะพาครอบครัวมาด้วย คนที่ตามมาอื่นๆ คงเป็นเช่นนี้เช่นกัน ถึงตอนนั้นยังต้องขอให้ใต้เท้าจัดหาที่อยู่ให้ด้วย”

ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเป็นรูปเป็นร่างเช่นนี้ หวังทงยิ่งฟังก็ยิ่งดีใจ กล่าวว่า

“ได้เลย ได้เลย หากพวกท่านมา ก็จะหาพื้นที่ให้พวกท่านเฉพาะได้พักอาศัย คิดการให้พร้อม คิดแผนออกมา ทุกอย่างตามนั้น เงินทองและกำลังคนตามแต่พวกท่านต้องการ รีบจัดการให้เร็วที่สุดจะดีมาก!”

บรรดาช่างต่างก้มกายคำนับรับคำสั่ง

*************

“หาเรือนให้ครอบครัวตระกูลอู๋อยู่เดี่ยวไป แต่ไม่ให้พวกเขาออกไปข้างนอก คนอื่นที่เหลือก็ให้ดูแลให้ดี ให้หาคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องและคนในครอบครัวตระกูลอู๋ออกไปได้ ให้อู๋เหล่าเอ้อร์เขียนจดหมายถึงอู๋ต้า หาช่างเรือมาได้มากเท่าไร พวกเขาพี่น้องและครอบครัวก็จะยิ่งได้ประโยชน์มาก ถึงตอนนั้นความผิดที่เป็นโจรก็จะได้ลบล้างไปด้วย”

พอกลับถึงจวน หวังทงรู้สึกพึงพอใจกับการทำงานครั้งนี้ของอู๋ต้า ต้องฝากวาจาไปสักหน่อย ให้พวกเขาตั้งใจทำต่อไป ให้พวกเขาได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งความสำเร็จ

เมื่อคิดถึงพี่น้องตระกูลอู๋ ก็ย่อมคิดถึงต่งช่วงสี่ ตอนนี้แม้ว่าจะเล่นอุบายแบบการเมือง ทำเป็นถ่วงเวลากับหวังทง หวังทงสั่งการอีกทางไป ก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเรียกคนเข้ามากล่าวว่า

“ส่งจดหมายไปทางนายกองพันต่ง ช่างต่อเรือ ลูกเรือ หากเขาเชิญมาไม่ได้ หรือว่าจับกุมมาไม่ได้งั้นหรือ ครั้งนี้ไปจี่หนาน ก็ไปยิงจดหมายปักไว้ ให้คนตระกูลอู๋เขียนจดหมายแทนเรา คิดว่าพอข้ามแม่น้ำได้ก็จะรื้อสะพานทิ้งงั้นหรือ ช่างกล้าคิด!”

คนรับคำสั่งยิ้มรับคำ หันกายออกไป หวังทงนั่งลงกล่าวต่อว่า

“ต้าไห่ ลองคิดคำนวณร้านค้าตระกูลต่ง ดูว่ามีการค้าใดในเทียนจินเกี่ยวข้องกับต่งช่วงสี่หรือไม่ นอกจากร้านหลูไห่แล้ว ย่อมมีร้านอื่นอีก หากยังจะบิดพริ้วต่อไป จะกินรวบร้านพวกนี้มาทีเดียว”

ซุนต้าไห่รับคำสั่ง ก่อนจะยิ้มกล่าวว่า

“เมื่อก่อนคิดว่าสองตระกูลแย่งผู้หญิงกัน ที่แท้นังผู้หญิงนี่เป็นเมียน้อยอู๋ต้า แต่เพราะต่งช่วงสี่อยากได้กิจการตระกูลอู๋ จนตอนหลังเป็นตระกูลอู๋ที่คิดแย่งชิงกิจการตระกูลต่ง สองตระกูลเพื่อแย่งชิงเงินทองถึงกับหาเหตุมาวกวนกันเช่นนี้ได้”

หวังทงส่ายหน้า ยิ้มกล่าวว่า

“ช่างพวกเขา อย่างไรก็ต้องทำงานให้เราให้ได้”

**************

วันที่ 5 เดือนสิบ ชาวบ้านยากจนที่บริเวณสบแม่น้ำใกล้โรงช่างของหวังทงก็เริ่มก่อสร้างบ้านเรือนขึ้นเพื่อให้บรรดาช่างได้พักอาศัยกันด้วย ทั้งพื้นที่เริ่มลงมือขุดท่อระบำยน้ำ สร้างบ่อน้ำ และจัดการทำลายสิ่งสกปรกเกะกะในบริเวณโดยรอบให้หมดไป

ไม่ว่าหวังทงทำเช่นนี้ด้วยเหตุผลเช่นไร แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการกุศลใหญ่ คนในเมืองและนอกเมืองเทียนจินต่างสรรเสริญยกย่องกันไม่ขาดสาย บรรดาคหบดีก็ยอมออกเงินช่วยกัน วัดวาอารามหลายแห่งก็ออกมาช่วยแรง แม้แต่บรรดาบัณฑิตก็ยังเขียนบทความสรรเสริญความดี เป็นภาพที่หาได้ยาก

ในวันนี้ คำสั่งแต่งตั้งหัวหน้าสองกองพันที่เทียนจินอย่างเป็นทางการจากเมืองหลวงก็มาถึงเทียนจิน……

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!