Skip to content

องครักษ์เสื้อแพร 632

ตอนที่ 632 จู่โจมด่านเถี่ยเหมิน

“เดิมข้ายังระแวงว่าเสิ่นหวั่งจะวางกับดักไว้ แต่ในเมื่อเขามานำทาง ดูท่าแล้วคงไม่มีเรื่องคิดไม่ซื่อ!”

หวังทงโอบเสาเรือมองออกไปไกล ข้างๆ มีทหารอารักขาอยู่สองสามนาย ได้ยินหวังทงกล่าวเช่นนี้ ทังซานข้างๆ ก็ตอบว่า

“เสิ่นหวั่งหลายวันนี้อยู่แต่ห้องใต้ท้องเรือ นอกจากกินข้าวและนอนแล้ว ก็เหมือนคนเป็นตัวประกันที่สบายใจปกติ แต่ข้าน้อยก็เคยเดินเรือมาทางนี้ เรือด้านหน้าก็ไม่ได้นำทางผิด”

พูดถึงเรื่องนำทาง เสิ่นหวั่งย่อมไม่อาจนำอยู่หน้าเรือ หากมีเรือกวางตุ้งสามลำนำอยู่ด้านหน้า เป็นเรือของราชาไตรธารานั่นเอง

“ใต้เท้า แม้ว่าโจรสลัดวางกำลังลอบกัดอยู่บนท้องทะเล ข้าน้อยก็มั่นใจว่าจัดการพวกมันถึงบาดเจ็บล้มตายได้แน่”

สำเนียงแปร่งๆ แต่ก็ยังมีสำเนียงทางการแบบเทียนจินอยู่ เป็นหูอัน หัวหน้าเรือกวางบิน เขากล่าวอย่างมั่นใจ หวังทงยิ้มพยักหน้า หันไปมองรอบทิศ

ให้เรือกวางบินเป็นเรือรบหลัก อีกสามลำเล็กกว่าหน่อยก็ให้ล้อมรอบไว้ ด้านนอกยังมีเรือเล็กของทหารกวางตุ้งอีก 70 กว่าลำ จำนวนเรือนับว่าไม่น้อย ได้เปรียบที่กำลังปืนใหญ่อานุภาพแรง เรือรบใหญ่รวมสี่ลำ รวมกันแล้วก็มีปืนใหญ่ราว 160 กระบอก ขบวนเรือรบกวางตุ้งนั้นก็พอมีเรือลำใหญ่บ้าง บนเรือนอกจากทหารเรือแล้ว ยังมีทหารกองกำลังหู่เวยอีกห้ากองร้อย

“ใต้เท้า ไม่ไกลจากด่านเถี่ยเหมินแล้ว ข้าน้อยกลับไปเตรียมตัวก่อน ขอตัวก่อนขอรับ”

นายกองเรือกวางตุ้ง นายกองม่ายก้มคำนับหวังทงกล่าวขึ้น หวังทงพยักหน้ารับคำ นายกองม่ายนำบันไดเรือมาพาดลงไป พอลงเรือเล็กได้ก็พายไปหาเรือรบตน

นายกองม่ายลงเรือไป ถานเจียงก็กระซิบว่า

“นายกองม่ายพาครอบครัวมาอยู่เทียนจินเราแล้ว คนในบังคับบัญชาก็เช่นกัน ความเมตตาใต้เท้าได้ผลดีจริง”

“เทียนจินรุ่งเรืองร่ำรวยเพียงนี้ แม้ว่าไม่ใช่บ้านเกิด แต่พวกเขาย่อมรู้ดีว่าที่ใดดีที่ใดไม่ดี กลับไปอย่าลืมบอกให้ซุนต้าไห่ไปดูแลหน่อย หากนายทหารกวางตุ้งที่มาป้องกันเทียนจินต้องการย้ายมาเทียนจิน ค่าใช้จ่ายทุกอย่างพวกเรารับผิดชอบ มาแล้วก็ต้องจัดที่อยู่ให้ดี”

ถานเจียงรับคำ หวังทงตบกาบเรือ ก่อนจะเดินเข้าห้องด้านในเรือไป ส่ายหน้ากล่าวว่า

“เดิมคิดว่าปีนี้จะได้นั่งเรือที่เทียนจินเราต่อเอง ไม่คิดว่ายังต้องมานั่งเรือกวางบินนี่”

การต่อเรือนั้นต้องใช้ไม้ใหญ่ หากไม้ใหญ่ต้องแช่ในน้ำทะเลให้ไม่เปลี่ยนรูปและไม่ผุเน่าเสียก่อน ไม่ใช่ว่าตัวไม้มาก็นำมาใช้ได้เลย ต้องผ่านการจัดการรอบหนึ่งก่อน เมืองเหลียวโจวมีไม้ใหญ่ไม่น้อยที่ตัดเสร็จก็ต้องกองไว้หลายปี ยังไม่มีประโยชน์ใช้สอยใด คิดไม่ถึงว่าขุนพลซุนโส่วเหลียนทำการค้ากับเทียนจินก็ขนมาหมด

เพราะกองไว้หลายปี ยังแช่น้ำมาตลอดเส้นทางมาเทียนจิน ก็นับว่าจัดการไม้ในระดับหนึ่งแล้ว หลังจากตรวจสอบไม้พวกนี้ พบว่าจัดการอีกเล็กน้อยก็สามารถนำมาใช้กับเรือได้

แต่ไม้ใหญ่ถูกหลายที่ซื้อไป โรงต่อเรือก็ขาดแคลน ตอนนี้คิดจะหาไม้เก่าก็ไม่ง่ายนัก ได้แต่เลือกไม้ใหญ่ชิ้นใหม่เอามาจัดการต่อที่โรงต่อเรือ ทุกคนคำนวณแล้ว อย่างน้อยก็ต้องอีกสามปีจึงจะเริ่มต่อเรือใหม่ได้

นอกจากเรือ ‘เจิ้นไห่’ เรือเทียนจินยังต่อเรือรบติดปืนใหญ่ ‘ติ้งไห่’ กับ ‘ผิงไห่’ อีกสองลำ เรือสองลำนี้มีขนาดใกล้เคียงกับเรือเจิ้นไห่ แต่ปืนใหญ่มากกว่าเรือเจิ้นไห่ มีถึง 40 กระบอก นอกจากบนดาดฟ้าเรือจะมีปืนใหญ่กระสุนหนึ่งชั่ง 10 กระบอกแล้วยังมีปืนใหญ่กระสุนหนักสามชั่ง 10 กระบอก ปืนใหญ่กระสุนหนักหกชั่ง 15 กระบอกและปืนใหญ่กระสุนหนักสิบชั่ง 5 กระบอก

ปืนใหญ่กระสุนสิบชั่งตอนนี้ยังสามารถสร้างได้แต่ปากกระบอกใหญ่ เดินทางทางบกไม่สะดวก แต่วางไว้บนเรือนั้นไม่ลำบากต่อการเคลื่อนย้าย

จากเทียนจินไปด่านเถี่ยเหมินที่จี่หนาน ใช้เวลาน้อยกว่าที่หวังทงคิดหนึ่งวัน เรือนำทางสามลำด้านหน้าส่งคนมาส่งข่าว บอกว่าด้านหน้าอีกครึ่งวันก็จะเป็นด่านเถี่ยเหมินแล้ว

*************

ฉลามดำซาต้าเฉิงตัวจริงไม่ได้ดูเลวร้ายดังฉายา ดูแลก็เหมือนชาวประมงบ้านนอกหน้ำตาซื่อ หัวหน้าโจรสลัดที่อื่นสวมผ้าแพรต่วนวางท่าอวดบารมี หากเขายังคงสวมชุดผ้ากระสอบผ้าป่านธรรมดา ดูแล้วท่าทางซื่อๆ

แต่คนที่ไม่สะดุดตาเช่นนี้ ผู้ใดก็ไม่กล้าดูแคลน ปีนั้นซาต้าเฉิงสู้กับพวกโจรสลัดวัวโค่ว เขาคาบดาบโดดขึ้นเรืออีกฝ่าย สังหารไปได้ถึง 15 ศพ การรบครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงให้เขาอย่างมาก

ชาวทะเลมีคำกล่าวว่า ติดตามเสิ่นหวั่งร่ำรวย ติดตามกู้เหล่าหู่สะใจ ติดตามซาต้าเฉิงไม่ต้องรองรับอารมณ์ ซาต้าเฉิงดีต่อทุกคน ได้เงินทองอันใดมา ทุกคนแบ่งกันเสมอภาค ดังนั้นลูกน้องซาต้าเฉิงจึงจงรักภักดี ยามต้องต่อสู้ก็ย่อมสู้ไม่ถอย

ซาต้าเฉิงยามนี้กำลังหารืออยู่ในห้องหนึ่งที่ด่านเถี่ยเหมิน ด่านเถี่ยเหมินเหมือนกับที่ผิงฮู่ ไม่มีเรือการค้าผ่านไปมาสักเท่าไร โจรสลัดซานตงปล้นสินค้ามาจากไหลโจวหรือเติงโจวก็จะมาขายที่นี่ เพราะเมืองจี่หนานกับเมืองตงชางเป็นสองเมืองที่ร่ำรวยที่สุดของซานตง สินค้าขายออกได้ง่าย

แต่ตอนนี้แม้แต่การค้าพวกนี้ก็หายาก เดิมยังหากินบนท้องทะเลได้ด้วยการไปเป็นลูกเรือของเรือการค้าพวกนั้น ไม่เพียงแต่ไม่อันตราย หากยังมีเงินเดือนดี ตอนนี้การค้าทางทะเลก็รุ่งเรืองอยู่

“เดิมพวกเรายังพอมีเส้นสายทางนี้ แต่คนพวกนี้ตอนนี้ไม่ทำการค้าแล้ว เมื่อวานถามไป บอกว่าไม่รับสินค้ามีราคาสูง รับสินค้าพื้นเมืองไปขายที่เทียนจินยังได้มากกว่า”

ได้ยินลูกน้องรายงาน ซาต้าเฉิงก็อึ้งไป ถามอย่างงงๆ ว่า

“เหตุใดกัน? แม้แต่กำไรของโจรยังไม่ได้กำไรเท่าไปทำการค้าที่เทียนจินหรือ?”

การค้าของโจรมีความเสี่ยง แต่ราคาต่ำรับมาขาย กำไรย่อมได้มาก ไม่เช่นนั้นผู้ใดจะเสี่ยงทำการค้านี้ ได้ยินซาต้าเฉิงถาม ลูกน้องก็แค่นเสียงหัวเราะกล่าวว่า

“ตอนนี้จะมีเรือสินค้ามีค่าอันใดผ่านมาทางนี้ เรือทะเลใหญ่ก็ล้วนขึ้นธงร้านประกันภัย หากแตะต้องเข้า ไม่ต้องพูดถึงเทียนจิน คนของเสิ่นหวั่งคงได้มาหาถึงที่ก่อน เสิ่นหวั่งไม่มา ก็ทางการมาหาถึงที่ ดูพวกวานรทะเลที่เกาหลีสิ จุดจบอย่างไร ทุกคนล้วนเห็นกันอยู่!”

วานรทะเลถูกเรือรบจากเทียนจินไปหาถึงที่ ถูกกวาดล้างเรียบ คนก็ไม่รู้หายตัวไปไหน ข่าวนี้แพร่ไปทั่งท้องทะเล ทุกคนล้วนรู้ดี

ซาต้าเฉิงส่ายหน้ากล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า

“ไปบอกพวกเขา พวกเราครั้งนี้ไม่ได้มาขายของโจร ให้พวกเขารับสินค้าประเทศวัวไปขาย ทำการค้าพวกเราร่วมกันร่ำรวยด้วยกัน……”

กล่าวไม่ทันจบ น้ำเสียงซาต้าเฉิงอยู่ๆ ก็รุนแรงขึ้น กล่าวว่า

“นัดหมายพี่น้องเราให้ดี ผู้ใดก็ห้ามลงมือกับเรือเทียนจิน หากหาเรื่องจนภัยมา ข้าจะจับมัดฆ่าโยนลงทะเลไปเลี้ยงปลา”

“พี่ใหญ่วางใจ พวกเรารู้ว่าอะไรควรไม่ควร ควบคุมลูกน้องเราดีแล้ว คงไม่ทำเรื่องนอกคำสั่ง แต่พวกปลาบินที่ตามมา อันนั้นจัดการไม่ได้จริงๆ”

ซาต้าเฉิงขมวดคิ้ว ตบโต๊ะดังสบถว่า

“จัดการไม่ได้ก็ไล่พวกมันไป ด่านเถี่ยเหมินเป็นเพื้นที่ของเรา……”

กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงเอะอะด้านนอกดังมา พวกซาต้าเฉิงไม่ได้หารือกันในห้องลึกลับอันใด ก็คือห้องพังๆ ที่หมู่บ้านชาวประมงนี่เอง ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านนอก ก็รีบลุกขึ้น กระชับอาวุธในมือพร้อม มีคนรีบร้อนผลักประตูออกไปตะโกนถามว่า

“เกิดเรื่องอะไรกัน?”

“พี่ใหญ่ ข้างนอกนั่นมีเรือมามากมายหลายลำ มีเรือกวางตุ้ง แล้วยังมีเรือรบแบบพวกฟะรังคี”

ในห้องเงียบกริบ ทุกคนสบตากัน ซาต้าเฉิงกล่าวต่อ หากน้ำเสียงแหบพร่าว่า

“ทัพเรือเทียนจินในที่สุดก็มา……”

“ไอ้พวกปลาบินมันคิดชักใบเรือหนี พี่ใหญ่เอาไงดี?”

ด้านนอกมีคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเสียงดังโครมคราม ในห้องได้ยินแล้วก็พากันด่าทอ ซาต้าเฉิงถูมือไปมา ก่อนจะกล่าวเสียงแหบพร่าว่า

“พวกปลาบินก็แค่เรือ 30 กว่าลำ หาช่องทางหนีได้ พวกเรือมากเพียงนี้ แม้หนีออกไป ก็เกรงว่าคงต้องสูญเสียไปกว่าครึ่ง……”

**************

“ยกธงสัญญาณ ให้เจิ้นไห่กับผิงไห่มาร่วมเป็นสามลำเรียงแถวหน้ากระดานกับเรือกวางบิน ขนาบเรือกวางบิน เรือกวางบินให้เดินหน้าต่อไป!!”

หูอันตะโกนดังอยู่บนเรือ ทหารรีบปฏิบัติตามคำสั่ง ลูกเรือรีบปฏิบัติการวุ่นวายกันอยู่บนเรือ ตอนนี้มองเห็นเรือเล็กและใหญ่ต่างจอดกันอยู่ริมฝั่ง

เรือปืนใหญ่สี่ลำเรียงหน้ากระดานไปกับชายฝั่ง ค่อยๆ เรียงเป็นแนวขวาง พวกหวังทงก็ยืนอยู่เหนือหอบนเรือ มองหูอันสั่งการ เห็นเรือเริ่มเรียงเป็นแถวตรงหน้ากระดานแล้ว ก่อนจะเริ่มลดใบเรือลง หูอันตะโกนดังว่า

“แจ้งให้เรือทุกรำเตรียมยิงปืนใหญ่ ส่งธงสัญญาณให้นายกองม่ายเตรียมตัว ……”

บนดาดฟ้าเรือมีลูกเรือรีบวิ่งลงไป มีคนเลิกผ้าคลุมปืนใหญ่ออก เริ่มบรรจุกระสุนดินปืน หวังทงมองไปบนชายฝั่งด้วยความสบายใจ ยิ้มกล่าวว่า

“หากข้าอยู่บนฝั่ง ข้าจะบอกทุกคนขึ้นฝั่งไปให้หมดแล้ว…… ยังมีพวกโง่ออกทะเลอีกด้วย ……”

“ใต้เท้า จัดการอย่างไร!!”

“ย่อมจมเรือพวกมัน ให้คนบนฝั่งรู้จักความร้ายกาจของเรา”

เรือออกทะเลมามีเพียงเจ็ดลำ เป็นเรือกวางตุ้งหัวเรือสีแดง เรือพวกนี้บนฝั่งลำใหญ่ ขนาดราว 500 เคอ หากบนทะเลลมแรง เรือพวกนี้กางใบจนพองลมเต็ม เพิ่มความเร็วเข้าไปอีก

ทว่า เรือเจ็ดลำนี้เทียบกับขบวนเรือเทียนจินแล้ว ก็ช่างไม่เจียมตัว ได้ยินหวังทงสั่งการ หูอันก็รับคำสั่งไปปฏิบัติ เรือกวางบินชักใบเรือขึ้น ตัวเรือค่อยๆ เคลื่อนที่ ตามมาด้วยเรือเจิ้นไห่

เรือรบสี่ลำปิดทางออกทะเลพอดี ทางนี้เหมือนเปิดทางเล็กให้เรือเจ็ดลำลอดออกไป เรือพวกนั้นชักใบเรือเต็มที่ มาถึงอย่างรวดเร็ว ยามนี้เรือรบสี่ลำเทียนจินก็หันทิศทางเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองฝั่งเรียงหน้ากระดาน ระยะห่างพอควร

“ยิง!!!”

หูอันบนหอเรือตะโกนสั่ง เสียงปืนใหญ่บนดาดฟ้าเรือก็ดังสนั่น หวังทงรีบคว้ารั้งกันเรือให้มั่น เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วคุ้งน้ำ ตัวเรือโคลงไปด้านข้างเล็กน้อย ควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เรือรบสี่ลำระดมยิง……

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!