№ 111 เยือนตระกูลกวนอีกครั้ง!
บ้านตระกูลกวนวันนี้แขกเหรื่อคึกคัก นอกจวนมีรถม้าจอดพักอยู่ไม่น้อย นั่นคือแขกที่ได้รับเชิญให้มาชมการประลองคัดเลือกนายน้อยของเหล่าคนรุ่นหลัง คนที่มาวันนี้ล้วนเป็นมิตรสหาย รวมถึงผู้นำตระกูลและลูกชายของตระกูลระดับเดียวกันที่มีพลังแท้จริงเกือบเทียบเท่ากัน
เมื่อเหลิ่งซวงควบรถม้ามาถึงประตูใหญ่จวนตระกูลกวน ก็ได้ยินเสียงแซ่ซ้องเริ่มต้นการประลองด้านในอยู่รางๆ นางหยุดรถม้าลง แล้วบอกกับสองท่านด้านในรถม้าว่า “คุณชาย คุณหนู มาถึงแล้วเจ้าค่ะ”
ม่านรถเลื่อนเปิด กวนสีหลิ่นโดดลงรถม้าก่อน จากนั้นค่อยยื่นมือ “เสี่ยวจิ่ว มาสิ ข้าประคองเจ้าเอง”
เมื่อองครักษ์สองนายที่เฝ้าประตูใหญ่เห็นกวนสีหลิ่น ดวงตาเบิกกว้างขึ้นทันใด “นั่น นั่นไม่ใช่คุณชายสีหลิ่นรึ? เขา เขาตายแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมยังมีชีวิตอยู่เล่า?”
องครักษ์สองนายสีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ ยังมีหนึ่งในนั้นที่ได้สติกลับมา จึงรีบร้อนวิ่งไปรายงานด้านใน
เฟิ่งจิ่วจับประคองมือเขาลงรถม้า เห็นรถม้าพวกนั้นที่จอดอยู่ด้านนอกบ้านตระกูลกวน เอ่ยอย่างอมยิ้มว่า “ท่านพี่ เหมือนวันนี้จะคึกคักยิ่งนัก”
“อืม ตระกูลระดับเดียวกันต่างเข้ามาชมการประลอง”
สายตาเขาจับจ้องบนแผ่นป้ายเหนือประตูใหญ่ จวนตระกูลกวน ที่นี่คือบ้านของเขา กลับทำให้เขารู้สึกแปลกหน้า และเหน็บหนาวเช่นนั้น
“คุณชาย คุณชายสีหลิ่น” องครักษ์นายนั้นที่เฝ้าประตูเร่งรีบออกหน้ามาทำความเคารพ มองเขาด้วยสายตาแปลกใจอยู่ไม่นิ่ง ซ้ำยังแอบๆ พินิจมองสาวน้อยชุดขาวข้างกายที่ท่วงท่าโดดเด่นเป็นที่สุด
ทุกคนในจวนต่างบอกว่าเขาตายแล้ว แต่ทำไมยังมีชีวิตกลับมาได้เล่า?
“การประลองเริ่มแล้วรึ?”
กวนสีหลิ่นมองเขาพลางถามเสียงเข้ม เวลานี้ ทั่วกายมีกลิ่นอายสงบเงียบที่หยาบกร้านเด็ดเดี่ยวกระจายอยู่ ลำพังแค่กลิ่นอายบนร่างที่เปลี่ยนไป ก็เทียบไม่ได้กับตัวเขาเมื่อหลายเดือนก่อน
“ระ เริ่ม เริ่มแล้วขอรับ” ภายใต้ความรู้สึกกดดันที่แผ่ออกจากร่าง องครักษ์นายนั้นก็มีเหงื่อไหลออกมากลางหน้าผากอย่างอดไม่ได้
ได้ยินเช่นนี้ กวนสีหลิ่นจึงสาวเท้าก้าวเดินไปด้านใน เฟิ่งจิ่วด้านหลังเคลื่อนก้าวเดินตามเข้าไปเบาๆ ส่วนเหลิ่งซวงก็เฝ้าอยู่ข้างกาย
หลังจากรอพวกเขาเข้าไป องครักษ์นายนั้นก็อดไม่ได้ที่จะปาดเหงื่อ พึมพำเสียงเบาว่า “ทำไมเพิ่งหายไปไม่กี่เดือน กลิ่นอายบนตัวคุณชายสีหลิ่นถึงเปลี่ยนไปเสียจนน่าสะพรึงเช่นนั้น?”
นึกถึงเคอซินหย่าที่แต่งงานกับคุณชายหร่วน ในใจองครักษ์ก็สงสัยอยู่เล็กน้อย คุณชายสีหลิ่นกลับมาแล้ว หากรู้ว่าคู่หมั้นกลายเป็นภรรยาคุณชายหร่วน จะเป็นเช่นไรกัน?
น่าเสียดายที่ต้องเฝ้าอยู่ตรงประตู ไม่อาจลองเข้าไปดูสถานการณ์ได้ ไม่เช่นนั้น เขาล่ะ อยากลองตามเข้าไปดูเสียจริงเชียว
ส่วนที่ด้านใน ล่างเวทีการประลอง ที่นั่งอยู่แถวหน้าล้วนเป็นบุคคลสำคัญของตระกูลกวน รวมถึงท่านผู้นำตระกูลทั้งหลาย แถวหลังคือเหล่าคนรุ่นหลัง และลูกสาวที่ผู้นำตระกูลแต่ละท่านพามาด้วย
พวกเขาพูดคุยกันไม่หยุดหย่อน พลางมองการประลองบนเวที เห็นกวนสีหร่วนลูกชายผู้นำตระกูลกวนชนะติดต่อกันแปดเก้ารอบแล้ว เมื่อไม่มีใครในตระกูลเป็นคู่ต่อสู้เขาได้ น้ำเสียงชมเชยของเหล่าท่านผู้นำตระกูลก็มีมาไม่ขาดสาย
“คุณชายใหญ่ตระกูลกวนช่างเป็นหนุ่มน้อยที่เก่งกาจเสียจริง มีท่วงท่าลีลาเช่นผู้นำตระกูล! อายุยังน้อยก็มีพละกำลังเช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าต้องไร้เทียมทานเป็นแน่”
ผู้นำตระกูลกวนฟังแล้ว ใบหน้าก็ภูมิใจยิ่งนัก กลับยังคงยิ้มพลางเอ่ยเจียมตัว “เพราะทุกท่านคอยสนับสนุน เหล่าคุณชายของผู้นำตระกูลทุกท่าน มีคนไหนไม่ใช่มังกรหลบกลางมวลมนุษย์บ้างเล่า? ข้ามักกำชับอยู่บ่อยๆ หากเขามีเวลา ต้องตั้งใจเล่าเรียนตามคุณชายทุกท่านให้มากๆ”
ผู้เฒ่ากวนยิ้มพลางลูบเคราพยักหน้า กำลังจะปริปากเอ่ย ก็เห็นข้ารับใช้ร้อนลนปรี่เข้ามาด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปน้อยๆ
……………………………