Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 144

№ 144 ต้องยังมีชีวิต!

ฟังคำพูดนี้ ชายวัยกลางคนก็แหงนหน้าหัวเราะร่า “ฮ่าๆๆๆ! ช่างน่าขันเสียจริง! เพราะเจ้าอยากเก็บข้าไว้รึ? จะใสซื่อเกินไปหน่อยกระมัง!”

แววตาดั่งนกล่าเหยื่อถลึงมองนาง ใบหน้าเผยท่าทางชั่วร้าย มือหนึ่งดึงกระบี่ออกมาจากข้างเอว กล่าวอย่างมืดมนว่า “หนีรึ? ลำพังเจ้าคนเดียวยังทำข้าตกใจหนีเตลิดไม่ได้เลย! ตรงข้ามกัน ครั้งนี้เจ้าจะไม่โชคดีขนาดนั้นหรอก!”

“น้องข้า! ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว!”

กวนสีหลิ่นที่ไล่ตามสัญลักษณ์ที่เฟิ่งจิ่วทิ้งไว้กระโดดขึ้นกำแพงบ้านมา ยืนมองผู้คนในลานบ้านอยู่ด้านบน หลังจากพินิจมองรอบหนึ่ง ก็พูดว่า “เจ้าจัดการตาเฒ่านั่น คนอื่นข้าจัดการเอง”

สิ้นสุดน้ำเสียง ก็โผตัวกระโจนไป กระบี่คมในมือกวัดแกว่ง พลังกระบี่เย็นเยียบพลันโจมตีเข้าหาชายชุดดำในลานบ้าน

เห็นเขาตามมาได้ มุมปากใต้ผ้าคลุมหน้าก็ยกขึ้นน้อยๆ ไม่ลืมกำชับว่า “พี่ชาย รอบนี้ไว้ชีวิตเหลือให้ข้าสักสองสามคน อย่าฆ่าทิ้งเสียหมดล่ะ”

“ไม่มีปัญหา!”

เขาขานรับเสียงดัง น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์มีจิตวิญญาณฮึดสู้อันเยือกเย็น เดิมทีกระบี่คมในมือมุ่งไปยังลำคอของชายชุดดำผู้นั้น ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดนางปลายกระบี่ก็หมุนเปลี่ยนทิศทางดังฟิ้ว โจมตีไปที่ร่างกายอีกฝ่ายแทน

“ยังกล้าตามมาที่นี่อีกรึ? พี่น้องทั้งหลาย ฆ่ามันซะ!”

ชายชุดดำนายนั้นเห็นมือเขาถือดาบพุ่งเข้าหา จึงตะโกนลั่นทันใด ผู้คนรอบๆ ขานรับเสียงเข้ม คนแปดคนเข้าล้อมเขาไว้ตรงกลางอย่างรวดเร็ว แล้วปลายกระบี่ทั้งแปดเล่มก็เล็งแทงไปหาเขา

บนร่างทุกคนมีไอพลังเร้นลับพรั่งพรู จิตสังหารกระหายเลือด และยังมีพลังกระบี่รุนแรงที่เอ่อล้นจากปลายกระบี่กรีดร้องลั่นอยู่ในลานนี้ สู้กันแปดต่อหนึ่ง จะมองเช่นไรทั้งแปดคนก็ชนะ ด้วยเหตุนี้ หลังจากชายวัยกลางคนเพียงกวาดตามองแวบหนึ่ง ก็ไม่สนใจพวกเขาอีก แต่สายตาดั่งนกล่าเหยื่อกลับจับจ้องบนร่างสาวน้อยตรงหน้า

เฟิ่งจิ่วมองทางด้านกวนสีหลิ่นแวบหนึ่งค่อยดึงสายตากลับ ไม่ได้กังวลว่าเขาจะถูกชายชุดดำพวกนั้นฆ่าทิ้ง อันที่จริง ช่วงนี้ที่เขาฝึกฝนวิชาก็ไม่ใช่ว่าจะเปล่าประโยชน์

สายตาเธอจับจ้องบนร่างชายวัยกลางคน ขณะเดียวกันกลิ่นอายพลังเร้นลับในร่างก็ลุกโหม แทรกซึมเข้าสู่มีดสั้นในมือ เวลาต่อมา เงาร่างพลันแวบพุ่งไปยังเป้าหมายตรงหน้า พลังมีดที่ออกมาจากคมมีดในมือก่อตัวเป็นกระแสลมอันดุดัน ตวัดตัดฟิ้วไปกลางอากาศ ชนเข้าหากันกับกระบี่ยาวของอีกฝ่าย

“แกร๊ง!”

ชายวัยกลางคนยกกระบี่ที่ถือในมือขึ้นขวางการโจมตีนางไว้ ยิ้มเย็นเยียบ “จะสู้กับข้ารึ? เจ้ายังอ่อนหัดนัก!” ออกแรงผลัก กระบี่ยาวในมือหมุนลอยตัดไปหานาง

“ฟิ้ว! สวบ!”

ขณะที่เฟิ่งจิ้วเบี่ยงตัวหลบก็ก้าวพุ่งไปด้านหน้า มีดสั้นในมือตวัดดังฟิ้วตัดแขนเสื้อเขาแทงเข้าเนื้อหนัง และกลิ่นคาวเลือดก็ลอยตามมา

เพียงได้ยินเขาส่งเสียงอู้อี้พร้อมใช้กระบี่ยาวโจมตีมา เธอก็รีบใช้กระบี่ยาวขึ้นขวางไว้ทันที ขายกขึ้นถีบ ขณะสายตาเขาตื่นตระหนกตกใจลูกเตะที่เคลือบแฝงด้วยพลังเร้นลับก็ถีบมาบริเวณหน้าอก ทำให้เขาโดนเตะกระเด็นออกไปทันที

“อืม!”

เมื่อเขาร้องในลำคอพลางร่างกายล่าถอย รู้สึกเพียงเส้นเลือดในอกหมุนตลบ เลือดสดพุ่งขึ้นมาที่ลำคอ ก่อนจะกระอักออกจากปาก

“อึก!”

เขาประคองฝีเท้าไว้มั่น ขณะที่ชายตามองไป ดวงตาที่มีความตกตะลึงยากเกินเชื่อก็มองสาวน้อยตรงหน้าที่ลงมืออย่างดุร้าย เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจอยู่บ้าง “เจ้าเป็นเฟิ่งชิงเกอจริงๆ รึ?”

หากเป็นเฟิ่งชิงเกอ จะมีฝีมือถึงเพียงนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนได้อย่างไร? หากไม่ใช่เฟิ่งชิงเกอ ไยรูปร่างท่าทางกลับเหมือนกันเช่นนั้นเล่า? หรือว่าหลายเดือนมานี้นางไปพบโชคอะไรดีๆ เข้า?

คิดถึงตรงนี้ ในดวงตาเขาเป็นประกาย

โชคดี!

ในเมื่อนางพบโชค บนตัวต้องมีความลับอะไรอยู่แน่ๆ!

………………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!