Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 156

№ 156 เปิดโปงตัวตน!

หลังทั้งแปดคนตอบรับเสียงเข้ม สองคนในนั้นก็สาวก้าวออกหน้า จับพลิกแขนซูรั่วอวิ๋นไว้ด้านหลัง แล้วคุมตัวนางมาตรงหน้าท่านผู้เฒ่า

คราแรกทุกคนต่างตะลึงกับท่านผู้เฒ่าที่สั่งองครักษ์จับตัวหลานสาว จากนั้นค่อยมาฉงนกับการโต้ตอบของเฟิ่งเซียวเวลานี้ ดังนั้น พวกเขาจึงใช้สายตาสำรวจจับจ้องบนร่างสาวน้อยชุดขาวผู้นั้น และคาดเดาถึงตัวตนนาง

มู่หรงอี้เซวียนเห็นเฟิ่งชิงเกอที่ถูกจับพลิกแขนคุมตัวมาเบื้องหน้าท่านผู้เฒ่า ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ คิดจะปริปาก กลับได้ยินคำพูดนั้นที่เฟิ่งเซียวถามออกมา เช่นนั้น จึงทิ้งสายตาไว้บนร่างสาวน้อยชุดขาว

เขาก็อยากรู้ ว่านางเป็นใครกันแน่?

เฟิ่งจิ่วมองเฟิ่งเซียวที่ท่าทางตื่นเต้นใจและรอบตาแดงน้อยๆ เธอถอนใจเบาๆ ในใจ เอ่ยว่า “ท่านเดาออกแล้ว ไม่ใช่รึเจ้าคะ?”

เขาไม่ใช่คนโง่เง่า ช่วงนี้จวนตระกูลเฟิ่งเกิดเรื่องมากมายเพียงนี้ อีกทั้งตอนนี้ท่านผู้เฒ่าก็กลับมา ซ้ำยังมีนางโผล่มาด้วย หากตอนนี้ยังไม่ตอบโต้อะไร เขาก็ไม่ใช่ท่านแม่ทัพใหญ่เฟิ่งผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกรแล้ว

“เจ้าคือชิงเกอลูกสาวข้า!”

น้ำเสียงเขาสะอึกสะอื้น ยื่นมือไปกุมมือเฟิ่งจิ่วไว้ “ขอโทษ ขอโทษ พ่อไม่รู้เลยว่าคนข้างกายเป็นตัวปลอม…” นึกถึงคำพูดที่ท่านผู้เฒ่าบอกในวันนั้น ความโมโหโกรธาในตอนนั้น และยังใบหน้านางที่ผูกผ้าคลุมหน้าไว้ตอนนี้ หัวใจก็บีบรัดเจ็บปวดชั่วขณะ จึงร้องไห้โฮลั่นขึ้นมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่

“ขอโทษ… พ่อไม่ดี พ่อไม่ดีเอง…”

ท่านแม่ทัพใหญ่ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วสารทิศ นึกไม่ถึงว่าจะร้องไห้ราวกับเด็กน้อย ท่าทีหลั่งน้ำตาราวฝนพรำทำให้คนมองทั้งตะลึงและสะเทือนใจ

เมื่อครู่เขาว่าอะไรนะ? สาวน้อยที่ผูกผ้าคลุมหน้าเป็นชิงเกอลูกสาวเขารึ? งั้นคนที่ถูกจับกุมตัวไว้เป็นผู้ใดเล่า?

“ท่านลุงเซียว ท่านบอกว่านางเป็นใครนะขอรับ?”

น้ำเสียงมู่หรงอี้เซวียนมีความสั่นเครือที่ไม่อาจกลั้นไว้ เขามองสาวน้อยชุดขาวที่ผูกผ้าคลุมหน้าด้วยความตื่นตกใจ ยากจะเชื่ออยู่บ้าง ซ้ำยังมีความตื่นเต้นและปลื้มปิติ หัวใจพลันเต้นตึกตัก ความรู้สึกเช่นนั้น ไม่อาจเอ่ยออกมาได้

“ฮือๆ… ลูกสาวข้า… ลูกข้า…”

เฟิ่งเซียวร้องไห้คร่ำครวญด้วยความรู้สึกผิดที่บีบรัดหัวใจ แต่เพราะร่างกายอ่อนแอ รับเรื่องเช่นนี้ไม่ไหว จึงร้องห่มร้องไห้เสียจนเป็นลมไป

“พวกเจ้าสองคน พาท่านพ่อข้าส่งกลับห้องไป” เฟิ่งจิ่วมองไปยังองครักษ์สองสามนายที่มองด้วยดวงตาเบิกโพลงอยู่ข้างๆ ก่อนจะสั่งการเสียงเข้ม

“ขอรับ”

หลังจากขานเสียงรับตามสัญชาตญาณ จู่ๆ พวกเขาก็ผงะ มองหน้ากันแวบหนึ่ง รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย แต่ยังคงเดินออกไปสองคน เพื่อส่งตัวเฟิ่งเซียวกลับไป

เวลานี้ เสียงแหบแห้งของท่านผู้เฒ่าเฟิ่งกลับดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์และมีกลิ่นอายพลังเร้นลับเคลือบแฝง “ต่อหน้าทุกท่านทั้งหลาย ณ ที่แห่งนี้ ข้าจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเสียหน่อย”

น้ำเสียงเขาชะงัก ชี้ที่ซูรั่วอวิ๋นพลางพูดว่า “นาง ไม่ใช่เฟิ่งชิงเกอหลานสาวข้ามาแต่ไหนแต่ไร! นางเป็นแค่เด็กสาวกำพร้าซูรั่วอวิ๋นที่หลานสาวข้าเก็บกลับมาจากข้างถนนตอนเด็กๆ! หลานสาวข้าปฏิบัติกับนางสนิทสนมราวพี่น้อง นางกลับวางแผนปลิดชีวิตหลานข้า สวมรอยตัวตน แย่งชิงทุกสิ่งอย่าง! และนี่ หลังถูกข้าจับได้ยังใช้ยาพิษทำร้ายข้า ผู้หญิงคนนี้ ชั่วร้ายเลวทราม แล้งน้ำใจไร้คุณธรรม!”

หลังฟังคำพูดนี้ ผู้คนต่างเอะอะอึกทึก พากันสูดลมหายใจ คิดว่าเรื่องนี้ช่างน่าเหลือเชื่อและน่าสะพรึงเหลือเกิน แม้แต่ตัวตนยังสวมรอย หากไม่มีใครรู้เห็น จวนตระกูลเฟิ่งที่ใหญ่โตนี้ สุดท้ายจะไม่ตกอยู่ในเงื้อมมือนางได้เช่นไร?

“ฮะๆๆๆๆ… ฮะๆๆๆๆ!”

การหัวเราะร่าอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนล้วนตกใจ ก่อนจะมองไปยังหญิงสาวท่าทางฟั่นเฟือนผู้นั้น……………………………

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!