Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 230

№ 230 ตลาดกลางคืนในเมือง

ในที่พำนักแห่งหนึ่ง ฮุยหลางลนลานมายังเรือนด้านหลัง เห็นนายท่านกำลังนั่งดื่มชาอยู่ด้านใน จึงออกหน้าคารวะ

“นายท่าน ตามที่ข้าน้อยรู้มาจากการตรวจสอบ ภูตหมอในเมืองลิ่วเต้านี้เป็นไปได้มากว่าคือตัวปลอมขอรับ”

เจ้าตำหนักยมราชมองเขาแวบหนึ่ง บอกว่า “ทำไมพูดเช่นนั้น?”

“เวลาที่ปรากฏตัวไม่ถูกต้อง ภูตหมอในเมืองลิ่วเต้านี้โผล่มาเจ็ดวันก่อน แต่ตอนนั้นตัวเขายังอยู่ในหอเรา ดังนั้นจึงบอกว่าภูตหมอคนนี้เป็นตัวปลอมขอรับ”

“ในเมื่อเป็นตัวปลอม ก็หาโอกาสเปิดโปงเขาซะ” เจ้าตำหนักยมราชเอ่ยเสียงทุ้ม ชะงักไปนิด ก่อนถามอีกว่า “ทางด้านตลาดมืดนั้นยังไม่มีข่าวคราวนางรึ?”

ฮุยหลางผงะไปสักพัก หลังรู้ว่านางที่นายท่านเอ่ยหมายถึงภูตหมอ ค่อยบอกว่า “ตอนนี้ยังไม่มีขอรับ หลังจากผู้ติดตามข้างกายภูตหมอคนนั้นได้ยินข่าวว่าภูตหมออยู่ที่นี่ จึงตามมาด้วยกันกับคนของตลาดมืดขอรับ”

ยังไม่มีข่าวคราว? แล้วนางไปหลบอยู่ที่ไหนกันเล่า?

เจ้าตำหนักยมราชครุ่นคิดในใจ นิ้วชี้เคาะเบาๆ บนโต๊ะหิน เม้มริมฝีปาก ขมวดคิ้วน้อยๆ ทำให้อิ่งอีและฮุยหลางข้างๆ มองหน้ากัน ก่อนจะก้มหน้าลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

นายท่านละทิ้งเรื่องในตำหนักยมราชไม่สนใจ พอได้ยินว่ามีข่าวภูตหมอก็เข้ามา การเอาใจใส่เช่นนี้ หากอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงพวกเขาต้องดีใจแน่นอน แต่กลับกลายเป็นว่า ภูตหมอนั่นเป็นผู้ชาย! ซ้ำยังใบหน้าเสียโฉม จะให้พวกเขามีความสุขได้อย่างไร?

ฮุยหลางคิดไปคิดมา เงยหน้าขึ้นมองเจ้าตำหนักยมราช แนะนำอย่างระมัดระวัง “นายท่าน ทิวทัศน์ยามค่ำคืนในเมืองลิ่วเต้านี้งดงามเป็นที่หนึ่ง ออกไปเดินหน่อย ไม่ดีกว่ารึขอรับ?”

“อืม” เจ้าตำหนักยมราชขานรับ สะบัดเสื้อคลุมเดินไปด้านนอก

อิ่งอีและฮุยหลางเห็นท่าทาง จึงรีบร้อนตามไปด้านหลัง

พอตกกลางคืน โรงเตี๊ยมร้านค้าโรงเหล้าสองข้างถนนใหญ่ต่างพากันจุดโคมสว่างขึ้น โคมไฟแต่ละโคมสว่างไสวไปทั่วค่ำคืนอันมืดมิด คล้ายดวงดาวระยิบระยับภายใต้ค่ำคืน แพรวพราวน่าหลงใหล

บนถนนใหญ่คนสัญจรไปมา เพื่อนสนิทมิตรสหายเดินมาพร้อมหน้า ชายหนุ่มหญิงสาวแต่ละคู่ รวมถึงเหล่าเด็กน้อยที่วิ่งเล่นกัน บนใบหน้าล้วนเอ่อล้นไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขใจ เสียงพ่อค้าเร่ตะโกนขายของ เสียงเสี่ยวเอ้อร์ร้านรวงคอยต้อนรับแขก ปะปนอยู่ท่ามกลางเสียงมากมาย กลายเป็นภาพที่คึกคักเฟื่องฟู

ทว่าในร้านค้าแผงลอยข้างถนนหนทางที่มีชีวิตชีวา เฟิ่งจิ่วสวมชุดคลุมสีขาวกำลังกินก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำมันพริกแดง เผ็ดเสียจนหน้าผากมีเหงื่อไหลออกมาไม่น้อย ริมฝีปากแดงถูกลวกแดงฉานเพราะน้ำมันอันเผ็ดร้อน น่าเย้ายวนยิ่งนัก ทำให้ชายหลายคนข้างๆ ที่กำลังกินก๋วยเตี๋ยวผัดอยู่เหมือนกันและหญิงสองนางอีกโต๊ะหนึ่งอึ้งมองอย่างอดไม่ได้

“เถ้าแก่ เอามาอีกชาม!” เธอตะโกนเสียงดัง คีบเส้นกิน น้ำแกงเผ็ดที่เหลือดันไปไว้ข้างๆ แล้วรินน้ำดื่ม

เดิมทีแค่จะลองก๋วยเตี๋ยวผัดน้ำมันที่ว่ากันว่าเลื่องชื่อในท้องถิ่นนี้สักชาม ใครจะรู้หนึ่งชามผ่านไปก็ถูกน้ำมันพริกแดงกระตุ้นความตะกละ จึงสั่งมาอีกชาม

“มาแล้ว! บะหมี่ผัดน้ำมันร้อนๆ คุณชายระวังร้อนนะขอรับ” ชายวัยกลางคนตะโกนบอก ยกชามเข้ามาอีกครั้ง

เฟิ่งจิ่วขยับตะเกียบ กินขึ้นมาอีกครา คนข้างๆ นึกไม่ถึงว่าจะเห็นเขารับชามมากินต่ออย่างไม่กลัวเผ็ด ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายสอ ตะโกนตามว่า “เถ้าแก่ ข้าก็ขออีกชามนะ!”

“ข้าเอาอีกชามด้วย!”

เห็นท่าทาง เถ้าแก่ก็ยิ้มเสียจนมองไม่เห็นสองดวงตา รีบยกไปให้ทุกคน สุดท้าย ค่อยส่งเครื่องเคียงจานหนึ่งไปให้เฟิ่งจิ่ว “นี่เป็นเครื่องเคียงของร้านเราทำเอง ให้คุณชายลองชิมขอรับ”

“ดี ขอบใจมาก…”

เธอเงยหน้ายิ้มเอ่ยขอบคุณ แต่พูดยังไม่ทันจบ หางตาก็เหลือบเห็นเงาร่างอันคุ้นเคย เธอตกใจฟุบลงบนโต๊ะโดยเอาแขนบังไว้ทันที

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version