№ 231 นั่งร่วมโต๊ะ!
เธอค่อยๆ ใช้มือบังหน้า ฟุบอยู่บนโต๊ะมองชายชุดคลุมดำที่โดดเด่นราวนกกระเรียนยืนกลางดงไก่ ท่าทางและแรงกดดันนั้น หากไม่ใช่เจ้าตำหนักยมราชที่ภายนอกเย็นชาภายในอบอุ่นแล้วจะเป็นใคร? ด้านหลังยังมีอิ่งอีกับฮุยหลางสองคนตามมาอีก!
แต่ว่า ทำไมพวกเขาถึงมาเมืองลิ่วเต้านี้เล่า? คงไม่ได้ปรี่มาจับเธอเพราะได้ยินข่าวว่าภูตหมออยู่ที่นี่หรอกกระมัง?
จิ๊ๆ! จะใจร้ายเกินไปแล้ว!
เวลานี้ เธอไม่ลองคิดเลยว่าใครที่ใจร้าย? ทั้งหลบหนีซ้ำยังเอาโสมพันปีของเขาไปด้วยอีก
“ไม่ใช่หรอก! ตลอดมาเขาไม่เคยเห็นหน้าตาข้านี่นา!”
เวลานี้ถึงจะนึกขึ้นได้ เดิมทีใบหน้าเธอมีแผลเป็นยุ่งเหยิงเต็มไปทั่ว ภายหลังก็พอกยาทาไว้เสมอ พวกเขาจึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าหลังคืนรูปโฉม!
ต่อให้ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา เดาว่าก็คงจำเธอไม่ได้กระมัง?
นึกถึงตรงนี้ เธอก็ฉีกยิ้มกว้าง กระแอมไอเบาๆ นั่งเอวตั้งตรง กินบะหมี่ผัดน้ำมันต่อไป
“นายท่าน บะหมี่ผัดน้ำมันนี้เป็นเมนูเฉพาะของเมืองลิ่วเต้า นายท่านจะลองชิมหรือไม่ขอรับ?” ฮุยหลางชี้ที่ร้านค้าแผงลอยด้านหน้าที่มีคนนั่งเต็มพลางถามเจ้าตำหนักยมราชข้างหน้า
เจ้าตำหนักยมราชกำลังจะส่ายหน้า ก็เหลือบเห็นหนุ่มน้อยชุดขาวที่นั่งก้มหน้ากินบะหมี่ผัดน้ำมันอยู่ตรงนั้น ไม่รู้ทำไม สองขาถึงสาวก้าวเดินเข้าไป มานั่งลงตรงข้ามหนุ่มน้อยชุดขาวผู้นั้น
เฟิ่งจิ่วที่กำลังกินเครื่องเคียงคู่กับบะหมี่ผัดน้ำมันคิดว่ากินเสร็จแล้วจะรีบไป อันที่จริง สายตาเจ้าตำหนักยมราชนั้นร้ายกาจยิ่งนัก ไม่ประจันหน้ากับเขาจะดีกว่า หากเจอหน้ากัน ก็ไม่รู้ว่าจะจำไม่ได้จริงๆ หรือไม่
ดังนั้น เธอจึงก้มหน้าก้มตากินอาหารโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้า ใครจะรู้ พอกินถึงครึ่งหนึ่ง ก็เหลือบเห็นคนนั่งลงตรงข้ามโต๊ะ ลำพังแค่ท่าทางนั้นไม่ต้องเงยหน้ามองก็รู้ว่าเป็นเจ้าตำหนักยมราช
หรือว่าเขาจำข้าได้? เป็นไปไม่ได้กระมัง?
หรือจะบอกว่าเขาก็อยากกินบะหมี่ผัดน้ำมันด้วย? ชิ! โลกนี้มันกลมจริงๆ! อยู่ที่ไหนก็เจอ!
“เถ้าแก่ เอาบะหมี่ผัดน้ำมันมาชามหนึ่ง” ฮุยหลางตะโกน คอยเฝ้าอยู่ด้านหลังนายท่านด้วยกันกับอิ่งอี
“ขอรับๆ”
เถ้าแก่ท่านนั้นเห็นท่าทางบนร่างสามคนนั้นน่าสะพรึงอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวไปบ้าง ขานรับรัวๆ หลังยกบะหมี่ผัดน้ำมันร้อนๆ มาให้ ก็พูดว่า “คุณชายท่านนี้ ระวังลวกปากนะขอรับ”
เจ้าตำหนักยมราชขมวดคิ้ว เห็นบะหมี่ผัดน้ำมันที่แดงเสียจนน้ำมันเยิ้มตรงหน้า มองเด็กหนุ่มที่กินเสียงดังซู๊ดซ๊าด ชะงักไปเล็กน้อยก็ถามว่า “อร่อยมากรึ?”
น้ำเสียงทุ้มต่ำเจือความสงสัยเล็กน้อย เห็นเด็กหนุ่มก้มหัวอยู่ตลอด ตั้งแต่นั่งลงก็ยังไม่เห็นเงยหน้าขึ้นมา หรือจะไม่กล้ามองเขา? หรือว่า…จะเป็นนางจริงๆ?
นึกถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็อารมณ์ดีขึ้นมา เมื่อแววตาลึกล้ำเห็นริมฝีปากเด็กหนุ่มที่โดนลวกเสียจนบวมน้อยๆ จึงฉายยิ้มอย่างอดไม่ได้
แต่ฮุยหลางที่เห็นเหตุการณ์ไม่ชัดเจนกลับนึกว่าเจ้าตำหนักยมราชกำลังถามเขา ดังนั้นจึงก้าวออกไปฉีกยิ้มกว้าง บอกว่า “นายท่าน บะหมี่ผัดน้ำมันนี้ต้องเผ็ดถึงจะอร่อย ท่านลองชิมจะรู้เอง แต่ระวังร้อนนะขอรับ น้ำมันพริกแดงนี้มัน…”
ยังไม่ทันพูดจบ เห็นแววตาเย็นเยียบของนายท่านกวาดมองมา ทำให้เขาไม่รู้เรื่องนิดหน่อย ผงะไปสักพัก เอ่ยถามอย่างระแวดระวัง “นายท่าน ทำ ทำไมรึขอรับ?”
อิ่งอีที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้าตำหนักชำเลืองมองฮุยหลางแวบหนึ่งแล้ว ก็กลอกตาอย่างหมดคำพูด
เห็นชัดๆ ว่านายท่านกำลังถามเด็กหนุ่มชุดขาวคนนั้น ถามเขาเสียที่ไหนเล่า? จะกระตือรือร้นออกหน้าไปตอบทำไม? ช่างเป็นคนที่หยาบคายจริงๆ สายตาคนก็มองไม่ออกเลยสักนิด
“เถ้าแก่ คิดเงิน!”
เฟิ่งจิ่วตะโกน จงใจกดเสียงให้เบาลง ขณะเดียวกันก็เงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นใบหน้างดงามพริ้มเพรา…
………………………………….