№ 244 จับเขามาไว้ในมือ!
“หนุ่มน้อยผู้นี้หน้าตาโดดเด่น รูปโฉมงดงามเห็นได้ยากยิ่ง”
บุรุษในชุดสีแดงสวมหน้ากากลายดอกลำโพงจ้องเฟิ่งจิ่วที่ด้านล่าง สายตามีความเร่าร้อนบางส่วน
เจ้าเมืองที่ได้ยินคำพูดนี้ดวงตาฉายแววเล็กน้อย เอ่ยยิ้มว่า “ใต้เท้าภูตหมออาจไม่ทราบ ในเมืองลิ่วเต้ามีตรอกหนุ่มงาม รูปโฉมบุรุษที่นั่นก็โดดเด่นมากเช่นกันนะขอรับ”
“บุรุษในตรอกหนุ่มงาม จะสง่างามและร้ายกาจเช่นหนุ่มน้อยผู้นี้ได้เช่นไร? ต้องคนนี้สิถึงจะดีที่สุด!”
แววตาเร่าร้อนของ ‘ภูตหมอ’ จับจ้องบนข้อมือขาวราวหิมะของเฟิ่งจิ่วด้านล่าง สายตาเคลื่อนตามไปด้านบน กวาดผ่านคองามระหง และใบหน้างดงามหล่อเหลาที่มีกลิ่นอายชั่วร้ายก็ตกสู่สายตา ยิ่งมองในใจยิ่งกระสับกระส่าย
เจ้าเมืองเมืองลิ่วเต้าได้ยินคำพูดนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก
เหมือนเขาจะไม่เคยได้ยินว่าภูติเป็นพวกชอบผู้ชายด้วยกัน? ทว่าตามที่เขาคลุกคลีกับภูตหมอผู้นี้มา กลับพบว่าเขาไม่สนใจสาวงามอะไร กลับค่อนข้างสนใจหนุ่มหล่อเสียอย่างนั้น
แต่หากเป็นคนดีๆ ทั่วไป อันที่จริงบุรุษที่ต้องการแบบใดกันที่จะไม่มีในตรอกหนุ่มงาม? แต่พอนึกถึงเด็กหนุ่มชุดแดงด้านล่าง เขากลับลังเลอยู่บ้าง
แม้เขาอยากจะขอพวกยาจากภูตหมออีก จึงต้องคอยประจบเขาทุกวิถีทาง ทว่า ในฐานะเจ้าเมืองเมืองลิ่วเต้า จะประพฤตินอกลู่นอกทางเกินไปนักไม่ได้ มิเช่นนั้น ผลกระทบก็มากเหลือเกิน
แต่ในขณะที่เขาโลเล ก็ได้ยินเสียงภูตหมอลอยมา
“เจ้าเมืองฉาง หากท่านสามารถช่วยข้าจับเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ เช่นนั้น ข้าจะปฏิบัติกับท่านอย่างดีแน่นอน”
ได้ยินเช่นนี้ ท่านเจ้าเมืองก็ตกใจ มองภูตหมอข้างกาย คำพูดนี้เทียบเท่าคำมั่นสัญญา สำหรับเขาแล้ว นี่ถือเป็นโอกาส
“ขอรับ! ข้าจะลองคิดหาวิธี” เขาพยักหน้าขานรับ ก็เห็น ‘ภูตหมอ’ ข้างกายมองไปด้านล่างอย่างประหลาดใจ เห็นเช่นนี้ เขาก็หันหน้าไปมอง
หลังทหารอารักขาสามนายนั้นที่กระโจนลงไปในสนามพุ่งไปด้านหน้า ก็ตวัดมีดโจมตีหนุ่มน้อยชุดแดง คิดจะบังคับให้ปล่อยมือที่จับอยู่ กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะหันตัวพาร่างคุณชายตระกูลหลิ่วมาขวางต้านไว้ ทำให้เขารับหนึ่งมีดจากทหารอารักขาของตนไปเสียดื้อๆ
“อ๊าก!”
“คุณ คุณชาย!”
ทหารอารักขาผู้นั้นตกใจ สีหน้าขาวซีด ตื่นตระหนกเสียจนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง และในเวลานี้เองก็ถูกเฟิ่งจิ่วกระโดดเตะเข้าที่หัวเสียจนเป็นลมสลบไป
สองคนนอกนั้นคิดจะเข้าไป กลับไม่กล้าใช้มีดอีก ด้วยกลัวว่าจะทำคุณชายบาดเจ็บ แต่ไม่นานนักก็โดนเฟิ่งจิ่วโจมตีกระเด็นไป ครวญครางอยู่บนพื้นอย่างไม่อาจลุกยืนได้
สีหน้าคุณชายหลิ่วยามนี้ซีดเผือดไร้สีเลือด แผ่นหลังที่รับมีดหนึ่งไว้มีเลือดไหลออกมาเปื้อนเสื้อคลุม เจ็บเสียจนเหงื่อออกท่วม แต่กลับกลายเป็นว่าคอยังถูกบีบไว้อย่างไร้หนทางที่จะดิ้นหลุด
ตอนนี้ เฟิ่งจิ่วจ้องมองคุณชายตระกูลหลิ่วที่กำลังสั่นเทาเพราะรับรู้ถึงความน่ากลัว น้ำเสียงเฉื่อยชามีกลิ่นอายกระหายเลือด บอกว่า
“จะบีบคอให้ตายเช่นนี้เจ้าก็ได้เปรียบเกินไปหน่อย หรือเราจะเปลี่ยนวิธีกันดีกว่า?”
“เจ้า เจ้าจะทำอะไรกันแน่? เจ้าต้องรู้ไว้ หาก หากฆ่าข้าเจ้าก็ไม่มีชีวิตรอดหรอก!”
คุณชายตระกูลหลิ่วพูดเสียงสั่นเครือ
“งั้นให้เจ้าลองลิ้มรสชาติของการตายทั้งเป็นบ้างล่ะเป็นไง?”
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆ ของเฟิ่งจิ่วเปล่งออกมาอย่างมีความเย็นเยียบ
สิ้นสุดน้ำเสียง ก็หมุนมือมาดึงสองแขนเขาขึ้นทันใด พลิกตัวเขาหันหลังแล้วบิดสองแขนมาด้านหลัง
จุดที่ถูกสองมือเธอสัมผัสเพียงได้ยินเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบตามมาด้วยเสียงกรีดร้องรุนแรงที่ดังกว่าดังขึ้นทีละเสียงๆ
จนกระทั่งเธอหยุดมือลง เมื่อเห็นคุณชายตระกูลหลิ่วบนพื้น ทุกคนต่างก็พากันสูดลมหายใจ!
………………………………….