Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 304

№ 304 ปฏิเสธรับราชโองการ!

เมื่อเฟิ่งเซียวรีบร้อนปรี่ไปถึงราชวังกลับเข้าไปไม่ได้แม้แต่ประตูวังก็ถูกขวางเอาไว้เสียแล้ว

“ท่านแม่ทัพเฟิ่ง ผู้ครองแคว้นมีคำสั่ง หลังออกราชโองการจะให้คนส่งไปถึงจวนตระกูลเฟิ่ง เชิญท่านแม่ทัพกลับไปเสียเถอะ!” นายพลทหารอารักขาทั้งแปดขวางทางเฟิ่งเซียวไว้ไม่ให้เขาเข้าพระราชวัง

“ไร้สาระน่า!”

เพราะในใจโกรธถึงขีดสุด เขาจึงระเบิดออกมาแม้แต่คำสบถ ดวงตาพยัคฆ์น่ายำเกรงจ้องพลทหารอารักขาทั้งแปดที่ขวางทางอยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห แผดเสียงทุ้มเข้ม “พวกเจ้าหลบไปซะ! ข้าจะเข้าวังไปพบท่านผู้ครองแคว้น!”

ทั้งแปดคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเจื่อนๆ บอกว่า “แม่ทัพเฟิ่ง ขออย่าทำให้พวกเราลำบากเลย ท่านผู้ครองแคว้นสั่งให้พวกเราเฝ้ารอท่านแม่ทัพเฟิ่งอยู่ตรงนี้ ไม่อยากพบท่าน หากบุกรุกเข้าไปเกรงว่าสุดท้ายพวกเราแปดคนจะหัวหลุดจากบ่านะขอรับ”

ด้วยกำลังพวกเขาอยากจะรั้งเฟิ่งเซียวไว้ก็เป็นไปไม่ได้เท่าไหร่ ทว่าผู้ครองแคว้นให้พวกเขาเฝ้าอยู่ตรงนี้ไม่ให้เฟิ่งเซียวเข้าไป เพราะจุดนี้หากปล่อยเขาเข้าไปนั่นก็เท่ากับชีวิต

“สมควรตาย!”

เฟิ่งเซียวโกรธจัด เห็นราชวังอยู่ใกล้ๆ ตรงหน้ากลับเข้าไปไม่ได้ ความผิดหวังเช่นนี้ทำให้เขาเพียงอยากจะด่าพ่อล่อแม่ ขณะกำลังหันตัวกลับจวนก็ชำเลืองเห็นร่างหนึ่งเดินออกมาจากด้านในจึงตะโกนลั่นทันที

“ท่านอ๋องสาม!”

มู่หรงอี้เซวียนกำลังครุ่นคิดจู่ๆ ได้ยินเสียงเฟิ่งเซียวจึงเงยหน้ามองไป ก้าวยาวเดินหาเขา “ท่านอาเซียว จะเข้าวังไปพบเสด็จพ่อหรือขอรับ?”

“ข้าอยากเข้าไปแต่ทำไม่ได้” เขากวาดมองแปดคนนั้นแวบหนึ่ง พวกเขาเห็นท่าทางก็ต่างพากันก้มหน้าลง

มู่หรงอี้เซวียนเหลือบมองนายพลแปดคนนั้น แล้วบอกกับเฟิ่งเซียวว่า “ท่านอาเซียว พวกเราหาที่คุยกันหน่อยเถอะ!”

“ก็ดี”

เห็นราชวังแต่เข้าไปไม่ได้ งั้นก็ทำได้เพียงสืบข่าวจากปากมู่หรงอี้เซวียนก่อนว่าท่านผู้ครองแคว้นหมายความเช่นไรกันแน่?

เดิมอยากจะหาโรงเหล้าใกล้ๆ ก็รู้สึกไม่เหมาะ ด้วยเหตุนี้สุดท้ายจึงไปที่จวนตระกูลเฟิ่ง

ณ ห้องโถงใหญ่จวน ไม่รอเฟิ่งเซียวเอ่ยปาก มู่หรงอี้เซียวก็ถามว่า “ท่านอาเซียว ชิงเกออยู่บ้านหรือไม่? เรื่องนี้นางรู้หรือยังขอรับ?”

“นางไม่อยู่ ออกไปข้างนอกยังไม่กลับมา”

เพราะลูกสาวคนโปรดไม่อยู่บ้าน หนำซ้ำช่วงนี้ท่านผู้เฒ่ายังเก็บตัวอยู่ ดังนั้นจวนจึงมีเพียงเขาที่เฝ้าอยู่ ยามนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นพวกเขาสองคนจึงยังไม่รู้เรื่อง

เดิมคิดว่าจะทำให้เรี่องนี้มันชัดเจนก่อนที่พวกเขาจะรู้ ใครจะนีกว่าแม้แต่หน้าผู้ครองแคว้นยังไม่ได้เห็น นึกถึงตรงนี้ความโกรธเคืองในท้องก็ปะทุออกมา

“เสด็จพ่อท่านจะทำอะไรกันแน่? เรื่องเช่นนี้จะไม่ถามพวกเราแล้วตัดสินเอาเองได้เช่นไร? หากชิงเกอรู้เรื่องนี้เข้า ก็รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เขานี่หาเรื่องเสียจริง”

มู่หรวงอี้เซวียนเม้มริมฝีปาก บอกว่า “หลังข้าได้ยินข่าวนี้ก็เข้าวังพยายามห้ามปรามทันที แต่ข้าเห็นว่าเสด็จพ่อเหมือนจะตัดสินใจแน่วแน่ เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่มีทางให้หันหลังกลับแล้ว ไม่งั้นเขาจะไม่ปฏิเสธไม่พบท่าน”

“เรื่องนี้เราไม่ยอมรับแน่นอน!”

เฟิ่งเซียวลุกยืนขึ้นบอกกับมู่หรงอี้เซวียนว่า “ในเมื่อข้าพบหน้าผู้ครองแคว้นไม่ได้ งั้นขอท่านอ๋องสามส่งสาสน์แทนด้วย ตระกูลเฟิ่งเรามีชิงเกอเป็นลูกคนเดียว จะรับเรื่องนี้ได้เช่นไร!”

มู่หรงอี้เซวียนคิดไตรตรอง กำลังจะเอ่ยปากก็ได้ยินเสียงมอบราชโองการลอยมาจากด้านนอก

“มีราชโองการ! เฟิ่งชิงเกอรับราชโองการ!”

ได้ยินเสียงมอบราชโองการนั้น เฟิ่งเซียวก็เดินออกมาพร้อมสีหน้าเคร่งเครียด เหลือบมองคนที่เข้ามาส่งราชโองการ แล้วยิ้มเย็น “นึกไม่ถึงว่าท่านสมุหนายกจะเข้ามามอบราชโองการ ช่างเป็นหน้าเป็นตาของจวนตระกูลเฟิ่งข้าจริงๆ! แต่ว่าวันนี้ท่านมนุหนายกมาเสียเที่ยวแล้ว ลูกสาวข้าไม่อยู่บ้าน เชิญท่านสมุหนายกนำราชโองการนี้กลับไปเถอะ!”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!