№ 344 งานมงคลขึ้นบ้านใหม่
“ท่านพ่อ แม้แต่เทียบเชิญเขายังไม่ส่งมาให้ พวกเราสู้คนแปลกหน้ายังไม่ได้ แล้วทำไมต้องเข้าไปร่วมด้วยล่ะขอรับ” ผู้นำตระกูลกวนทำสีหน้าไม่ชอบใจ ชัดเจนว่าจะไม่ยอมทำตามที่บิดาบอก
ท่านผู้เฒ่าถลึงตามองเขาอย่างเจ็บใจที่ไม่อาจอบรมลูกชายให้ดี บอกว่า “ข้าบอกให้ส่งก็ส่ง! หากไม่ส่ง ถึงเวลานั้นข้าจะจัดหาคนไปส่งเอง!” เขากล่าวจบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป
เขาเสียใจเรื่องกวนสีหลิ่นมาตลอด หากตอนแรกไม่อคติเกินเหตุ ตระกูลกวนคงไม่เสียต้นกล้าดีๆ เช่นนี้ไป ทว่าตอนนี้ต่อให้อยากจะชดเขยก็สายเกินไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงเท่านี้
เห็นผู้เฒ่ากับผู้นำตระกูลมีปากเสียงกันรุนแรง ทุกคนในห้องโถงมองหน้ากัน แต่ละคนต่างไม่พูดอะไร
เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เสียงประทัดทำลายความเงียบสงบยามเช้า ต้อนรับความปีติยินดีและวันใหม่ สำหรับกวนสีหลิ่นแล้ว นี่เป็นวันที่ตื่นเต้นและยากจะลืมเลือนอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาตื่นขึ้นมาจัดการธุระวุ่นวายไปทั่วตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง คนในจวนก็มีไม่มาก โชคดีที่ยังมีคนที่เฟิ่งจิ่วส่งมาช่วย ส่วนของจำพวกอาหารก็สั่งจองภัตตาคารใหญ่ๆ ในเมืองให้เข้ามาส่ง เช่นนี้จึงช่วยแบ่งเบาไปได้หลายเรื่อง
“พี่สีหลิ่น ท่านไม่ต้องยุ่งแล้ว เรื่องข้างล่างสั่งการไปเรียบร้อย ตอนนี้แค่รอไปรับแขกด้านนอกก็พอ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มพลางเดินมาพูดอยู่ข้างกายเขา วันนี้เธอยังคงสวมชุดกระโปรงสีขาว รวบผมสีหมึกขึ้นไว้หลวมๆ เหลือปรกไว้ข้างหน้าเพียงสองปอย ยิ่งแต่งเติมให้ใบหน้างดงามมีเสน่ห์มากขึ้นบางส่วน
“จวนจะใกล้เวลาแล้ว เสี่ยวจิ่ว เจ้าช่วยข้ารับแขกอยู่ในจวนก็พอ ข้าจะไปรอรับแขกตรงประตู” กวนสีหลิ่นเอ่ยยิ้มๆ กำชับเสร็จก็เดินก้าวยาวไปยังประตูใหญ่
คนแรกสุดที่มาแสดงความยินดีถึงจวนตระกูลกวนคือผู้ดูแลเหยียนจากตลาดมืด อีกสองคนที่ติดตามมาด้วยเตรียมของขวัญล้ำค่ามา ยังไม่ทันเดินไปใกล้ก็ประสานมือแสดงความยินดี
“ฮ่าๆๆ สีหลิ่น ยินดีด้วยๆ!”
“ขอบคุณผู้ดูแลเหยียนมากที่สละเวลามา เชิญด้านในขอรับ” เขาประสานมือยิ้มน้อยๆ เช่นกัน แล้วเชิญแขกเข้าไปด้านใน
“ข้าแซ่หลี่ยินดีกับนายน้อยกวนด้วยที่มีงานมงคลขึ้นบ้านใหม่!” ผู้นำตระกูลคนหนึ่งพาลูกสองคนเตรียมของขวัญมา ก็เข้ามากล่าวแสดงความยินดีเช่นกัน
“ขอบคุณมาก เชิญผู้นำตระกูลหลี่ด้านในเลย” หลังจากกวนสีหลิ่นประสานมือคารวะตอบก็พาพวกเขาเข้าประตู ปล่อยให้พ่อบ้านพาไปทางเฟิ่งจิ่วด้านใน
เมื่อเวลาผ่านไป มีคนเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งจวนคึกคักขึ้นมาเพราะการมาเยือนของแขกเหรื่อ เสียงพูดคุยพร้อมเสียงหัวเราะลอยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งจวนมีบรรยากาศครึกครื้นรื่นเริงแผ่กระจาย
“พี่ ใกล้จะมากันหมดแล้วกระมัง?” เฟิ่งจิ่วเอ่ยถามอยู่ข้างกายเขา
กวนสีหลิ่นหันข้างเล็กน้อยไปมองนาง พูดยิ้มๆ ว่า “อืม คนที่เชิญมาครบแล้ว ไปเถอะ! พวกเราเข้าไปกัน”
“ได้สิ” เฟิ่งจิ่วแย้มยิ้ม ขณะกำลังจะหมุนตัวก็ได้ยินเสียงหนึ่งแว่วมา
“นายน้อยกวน ยินดีด้วยกับงานมงคลขึ้นบ้านใหม่ ข้าน้อยมาเองโดยไม่ได้รับเชิญ อยากจะขอดื่มด้วยสักหน่อย”
มู่หรงอี้เซวียนสวมชุดคลุมสีขาวก้าวนวยนาดมาอย่างสง่างามและสูงศักดิ์ ด้านหลังมีข้ารับใช้คนหนึ่งถือของขวัญตามมา แม้พูดกับกวนสีหลิ่น แต่สายตากลับจับจ้องบนร่างเฟิ่งจิ่ว พอเห็นนางแววตาก็สั่นไหวเล็กน้อย
เมื่อเห็นเขา กวนสีหลิ่นแปลกใจอยู่บ้าง หันกลับไปมองเฟิ่งจิ่วแล้วมองที่มู่หรงอี้เซวียนอีก นิ่งไปสักพักถึงจะบอกว่า “ผู้มาเยือนถือเป็นแขก ท่านอ๋องสามเชิญด้านใน”
…………………