№ 345 ของขวัญจากภูตหมอ!
“เชิญ” เฟิ่งจิ่วหันมามองมู่หรงอี้เซวียนแวบหนึ่ง ก่อนทำมือเชื้อเชิญ
มู่หรงอี้เซวียนยิ้มเล็กน้อย จากนั้นจึงสาวก้าวเดินเข้าไป
ขณะกวนสีหลิ่นกำลังจะตามเข้าไปด้านใน หางตาก็เหลือบเห็นรถม้าคันหนึ่งจอดลงตรงหน้าประตู เมื่อม่านรถเปิดออกคนด้านในเดินลงมา รอยยิ้มที่เคยอยู่บนใบหน้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
คนผู้นั้นคือผู้เฒ่ากวนที่ให้คนประคองลงจากรถม้า ปู่แท้ๆ ของเขา ทว่านับตั้งแต่เวลานั้นที่ก้าวออกจากตระกูลกวน เขาก็ไม่เกี่ยวข้องกับผู้เฒ่าอีกแล้ว
ขึ้นบ้านใหม่ครั้งนี้เขาจึงไม่ได้ส่งคำเชิญไปให้ ในความคิดกวนสีหลิ่น ในเมื่อพวกเขาใจร้ายกับตนก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเป็นมิตรด้วย
“สีหลิ่น ข้ามามอบของขวัญ ยินดีกับเรือนใหม่ที่สร้างเสร็จและงานมงคลขึ้นบ้านใหม่ด้วย” ผู้เฒ่าค้ำไม้เท้าเดินเข้ามา ชายชราที่ตามอยู่ด้านหลังนำของขวัญมาส่งให้ภายใต้การให้สัญญาณจากผู้เฒ่ากวน
“ไม่ต้องหรอก”
น้ำเสียงของเขาเย็นชา มองผู้เฒ่ากวนด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “จวนเล็กๆ อย่างข้า ไม่กล้ารับของขวัญล้ำค่าจากท่านหรอก” เขาพูดพลางประสานมือ ก่อนหมุนตัวเดินก้าวยาวเข้าไปด้านใน ไม่มองพวกเขาอีก
เห็นเช่นนี้ ผู้เฒ่ากวนถอนหายใจหนักๆ “เป็นความผิดข้า เป็นความผิดข้าทั้งหมด!”
ชายชราที่ถือของขวัญอยู่ข้างๆ เห็นเช่นนั้นก็บอกว่า “ท่านผู้เฒ่า พวกเรากลับกันเถอะขอรับ!” ผลลัพธ์ที่รู้อยู่ตั้งแต่แรก กลับยังต้องมาพิสูจน์ด้วยตนเอง อาจเพราะในใจผู้เฒ่าไม่ยอมแพ้และไม่อยากเชื่อว่ากวนสีหลิ่นตัดสัมพันธ์กับตระกูลกวนแล้ว
“ไปเถอะ!” ผู้เฒ่ากวนถอนใจ ดวงตาชราภาพมองสองบานประตูจวนตระกูลกวน ในใจรู้สึกเสียดายเป็นล้นพ้น สุดท้ายทำได้เพียงนั่งรถม้าจากไปอย่างเดียวดาย
ไม่มีใครเห็นว่าตรงมุมถนนมีสตรีคนหนึ่งมองอยู่ไกลๆ นิ่งอึ้งตกตะลึง นางไม่ใช่ใครอื่น เป็นเคอซินหย่าที่ถอนหมั้นกับกวนสีหลิ่นนั่นเอง
ชายที่แต่ก่อนนางไม่สนใจใยดีสร้างตระกูลขึ้นด้วยตัวเอง กลายเป็นผู้นำตระกูลหนึ่งไปแล้ว แม้เป็นตระกูลเล็กๆ แต่ความเร็วในการก้าวหน้าเช่นนี้ก็โดดเด่นมากแล้วสำหรับชายหนุ่มคนหนึ่ง
ในใจนางเต็มไปด้วยความขมขื่น หากรู้ว่าจะเป็นเช่นวันนี้ ยามแรกคงไม่ทำแบบนั้นไป?
หากตอนแรกนางไม่ถอนหมั้น ชายที่ยิ่งโดดเด่นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทุกทีคนนั้นก็จะเป็นผู้ชายของนาง และตระกูลกวนนี้ก็จะเป็นของนางครึ่งหนึ่ง ทว่าตอนนี้…
ยิ่งคิดยิ่งลำบากใจ แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงหันกายจากไป
บรรยากาศในจวนตระกูลกวนทั้งคึกคักและเบิกบาน เพราะกวนสีหลิ่นกำลังยกเหล้าไปแสดงความเคารพทีละโต๊ะ เสียงหัวเราะพูดคุยของทุกคนลอยมาอยู่เรื่อยๆ และในเวลานี้เอง พ่อบ้านวิ่งเข้ามาอย่างลนลาน ใบหน้ามีความตื่นเต้นประหลาดใจที่ไม่อาจเก็บซ่อนได้
“นายท่าน ภูตหมอส่งคนมามอบของขวัญให้ขอรับ!”
ทั้งงานเลี้ยงเงียบลงแทบทันทีที่คำพูดนี้ดังขึ้น สีหน้าผู้คนเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ หลังหายตกใจก็มองไปทางกวนสีหลิ่นที่ถือแก้วเหล้าอยู่พร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย พริบตานี้ ในหัวทุกคนมีความคิดมากมายนับไม่ถ้วนฉายผ่าน
กวนสีหลิ่นคนนี้สนิทสนมกับภูตหมอด้วย?
ภูตหมอถึงได้ส่งคนมามอบของขวัญอวยพร?
ส่วนกวนสีหลิ่นผงะไปเล็กน้อยแล้วจึงวางแก้วเหล้าลง มองชายชราสองคนที่เดินเข้ามาจากด้านนอก นั่นคือคนของตลาดมืด เขารู้จักเช่นกัน
“ทำไมเป็นพวกท่าน?” ผู้ดูแลเหยียนจากตลาดมืดยังลุกขึ้นมาอย่างแปลกใจอยู่บ้าง
สองคนนั้นแค่พยักหน้าไปทางผู้ดูแลเหยียน แล้วจึงประสานมือคารวะกวนสีหลิ่น บอกว่า “นายน้อยกวน พวกเราได้รับความไว้วางใจจากภูตหมอให้มาส่งของขวัญ”
สิ้นเสียง ทั้งสองยื่นกล่องทรงสี่เหลียมผืนผ้าที่งดงามประณีตสองใบในมือมา ทันใดนั้นทุกคนต่างพากันคาดเดาไปต่างๆ นานา
สิ่งที่ภูตหมอให้มานี้คืออะไรกัน?
…………………………………….