Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 412

№ 412 ฝีมือน่าสะพรึง!

มองไปอีกที เพียงเห็นมือคู่ขาวเนียนเพรียวบางบีบคอนายทหารไว้เช่นนั้น ดูเหมือนไม่ใช้แรงอะไร แต่ทำให้เขาหน้าซีดเผือด แม้แต่พูดยังพูดไม่ออก ความยโสโอหังที่เคยอยู่บนหน้ายามนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือเพียงความตื่นตระหนกและหวาดกลัว!

บรรยากาศโดยรอบหนาวเย็นขึ้นมาเพราะการลงมือครั้งนี้ของเฟิ่งจิ่ว ไม่มีเสียงแม้แต่น้อย ทุกคนเบิกตามองสาวน้อยที่ลงมืออย่างกะทันหันด้วยความอึ้งตะลึง

เพียงเห็นว่ากลิ่นอายเย็นเยือกบนร่างนางตอนนี้รุนแรงยิ่ง มาพร้อมกับไอสังหารที่ไม่ด้อยไปกว่าใคร ใบหน้างามเลิศยามนี้อมยิ้มเล็กน้อย ทว่ารอยยิ้มกลับไปไม่ถึงดวงตา มองอย่างไรก็ชวนให้รู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายรวมถึงไอสังหารที่เอ่อล้นบนร่างนาง

นี่หรือคือเฟิ่งชิงเกอที่ก่อนหน้านี้แม้แต่ยืนยังเฉื่อยชา?

เวลานี้ ทุกคนคิดแต่ว่าที่แท้นางก็เป็นปีศาจสาวกระหายเลือด…

“เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ ไม่รู้รึว่าข้าไม่ค่อยชอบพูดซ้ำคำเดิม? ในเมื่อไม่คิดไสหัวไป ก็อยู่ต่อตลอดกาลเสียเถอะ!”

น้ำเสียงนาบเนิบเผยไอสังหารที่ดุร้ายเย็นชา มือเธอออกแรงรัดแน่นขึ้น ทำให้ผู้นำทหารคนนั้นไม่มีแม้แต่โอกาสจะดิ้นรนขัดขืน ได้ยินเสียงกระดูกหักดังกร๊อบลอยมา พอเขาเตะสองขา เรี่ยวแรงทั่วร่างก็เหมือนจะหายไป โอกาสรอดถูกสสะบั้น แขนขาลู่ลงอย่างหมดแรง

“เฮือก!”

ท่ามือโหดเหี้ยมและการกระทำที่อยากฆ่าก็ฆ่าของนาง ทำให้ผู้คนรอบข้างตกตะลึง และพากันสูดลมหายใจ

วิธีการของนางเด็ดขาดเช่นนี้ แทบจะไม่ให้โอกาสใครห้ามปรามหรือตอบโต้ ผู้นำทหารคนนั้นจึงสิ้นใจในเงื้อมมือนางอย่างง่ายดายเช่นนั้น…

ยามนี้จวนตระกูลเฟิ่งอยู่ท่ามกลางพายุฝนโหมกระหน่ำ ทำไมนางยังกล้าบอกว่าฆ่าก็ฆ่าเช่นนี้อีก? ยิ่งไปกว่านั้น นั่นเป็นถึงคนที่ผู้ครองแคว้นส่งมา แบบนี้ชัดเจนว่าเป็นการทำให้เรื่องยิ่งใหญ่โต ไม่ไว้หน้าผู้ครองแคว้น หรือนางไม่กลัวจริงๆ ว่าหากมู่หรงป๋อโกรธขึ้นมาจะทำลายจวนตระกูลเฟิ่ง?

และยามนี้ ทุกคนต่างตื่นตกใจกับการกระทำของนาง ด้วยเหตุนี้พวกเขาส่วนใหญ่จึงละเลยเรื่องที่สำคัญยิ่งไป นั่นก็คือเรื่องที่พลังของผู้นำทหารคนนั้นอยู่ระดับยอดปรมาจารย์นักรบขั้นกลาง แต่ทำไมถึงถูกนางสังหารอย่างง่ายดายโดยทำไม่ได้แม้แต่ต่อต้านเช่นนั้น?

มีเพียงผู้นำตระกูลเกิ่งที่รู้สึกถึงข้อนี้อย่างถี่ถ้วน เขาอุทานขึ้นเบาๆ สายตาที่มองเฟิ่งจิ่วแปลกใจและพินิจพิเคราะห์

สังหารยอดปรมาจารย์นักรบคนหนึ่งโดยไม่ลำบากเลยสักนิด แน่นอนว่าต้องมีกำลังระดับบรรพชนนักรบถึงจะทำได้ ทว่าบนร่างนางไม่มีกลิ่นอายบรรพชนนักรบ แต่ท่าร่างเมื่อครู่กลับอ่อนช้อยยิ่ง ความเร็วที่ว่องไวทำให้ผู้นำทหารคนนั้นอยากถอยมาป้องกันตัวก็ยังทำไม่ได้ เช่นนี้จึงเห็นได้ว่าพละกำลังนาง…ล้ำลึกเสียจนไม่อาจคาดเดา!

ทันใดนั้น เขาสนใจตัวคุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนี้ขึ้นมา เดิมนึกว่านางจะต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา ไม่นึกว่าจะได้เห็นภาพเช่นนี้ในคืนนี้ และภาพคืนนี้ก็ทำให้เขายิ่งรับรู้เข้าใจชัดเจนขึ้นว่า ตระกูลเฟิ่งไม่ได้ธรรมดาเช่นที่คนภายนอกเห็น

แม้ผู้เฒ่าเฟิ่งหายตัวไป เฟิ่งเซียวหมดสติไม่ฟื้น ตระกูลเฟิ่งมีคุณหนูใหญ่เฟิ่งคอยปกป้องก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรแม้แต่น้อยแล้ว!

เพียงแต่…

ไม่รู้ว่ารัชทายาทแคว้นเหินเวหาจะมีท่าทีอย่างไร? เขาหมายมั่นต้องการคุณหนูใหญ่เฟิ่งจริง แต่มองจากเจตนาของนางก็ชัดเจนว่าไม่สนใจเขา เห็นได้ชัดว่าเรื่องคืนนี้เกิดจากการที่รัชทายาทแคว้นเหินเวหามาเยือนจวนตระกูลเฟิ่งยามวิกาลจนถูกพวกเขาจับตัวและซ้อมไปชุดใหญ่

ซ้อมรัชทายาทแคว้นเหินเวหา? เหอะๆ…

เรื่องแบบนี้ เดาว่าคงมีแค่คนตระกูลเฟิ่งที่กล้าทำ

…………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!