Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 439

№ 439 ปิดประตูทำไม!!? กลางวันแสกๆ

ได้ยินเสียงทุ้มต่ำดังออกมาจากด้านในเรือน ฮุยหลางตัวแข็งเกร็ง ถอยออกไปเองทันทีสองสามก้าว อยู่ให้ห่างจากเฟิ่งจิ่วไกลขึ้นหน่อย

ส่วนเฟิ่งจิ่วได้ยินคำพูดเสียงทุ้มต่ำเจือความโกรธเคืองหลายส่วน ขนก็ลุกซู่ พลันหันหน้าไปบอกฮุยหลางว่า “ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเหมือนมีธุระบางอย่างยังไม่ได้ทำ อืม เจ้าบอกนายท่านเจ้าที ค่ำๆ ข้าค่อยเข้ามาอีก!” กล่าวจบ กำลังจะหมุนตัวหนีออกไป ก็เห็นประตูเรือนเปิดออกเสียงดัง

“กลัวข้ากินเจ้าหรือ?”

เจ้าตำหนักยมราชจ้องนางอย่างโกรธเคือง เห็นสาวน้อยห่อไหล่กำลังจะเดินหนี จึงแทบทนไม่ไหวอยากจะจับมาสั่งสอนสักหน่อย

“ฮ่าๆ ได้ยังไงเล่า? ข้าแค่คิดว่าไม่อยากรบกวนท่านพักผ่อน” เธอยิ้มเก้อ หันมองไปที่เขา

“เข้ามา” เขาเอามือไพล่หลัง แววตาลึกล้ำจ้องนางตาเขม็ง

“มีธุระรึเจ้าคะ?”

เธอเอ่ยถาม ยังคงเคลื่อนฝีเท้าเดินไปหาภายใต้สายตาเขา แต่ในใจแอบทอดถอนใจ เป็นไปตามคาด เอาเปรียบเขามากเกินไปเสียจนรู้สึกผิดต่อเขา

สายตาเจ้าตำหนักกวาดผ่านร่างอิ่งอีกับฮุยหลาง ทั้งสองเข้าใจทันที จึงคารวะด้วยความเคารพแล้วถอยออกไป

ทันใดนั้น ภายในลานบ้านเหลือแค่สองคน คนหนึ่งยืนตรงประตูเรือน อีกคนยืนอยู่กลางลาน

เฟิ่งจิ่วเห็นว่าเหลือแค่สองคนแล้ว หนำซ้ำดูจากสถานการณ์เจ้าตำหนักยมราชก็ไม่มีทีท่าจะเดินออกมาเลย สำหรับการอยู่ร่วมห้องของชายโสดหญิงโสดอะไรนั่น เธอรู้สึกว่าอันตรายยิ่งนัก ดังนั้นจึงยืนแน่นิ่งอยู่ที่ลาน

สองคนสองความคิด คนหนึ่งไม่อยากอยู่กับเขาตามลำพัง อีกหนึ่งอยากอยู่กับนางตามลำพัง ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นหนึ่งคนยืนอยู่ตรงประตูไม่ขยับ อีกคนยืนอยู่กลางลานบ้านไม่เดินเข้าใกล้ ดวงตาโตถลึงมองดวงตาเล็ก บรรยากาศแปลกพิกล

“ข้าให้เจ้าเข้ามาไม่ใช่หรือ?” เขาเก็บกลั้นความโกรธถลึงตามอง คิดว่านางช่างไม่รู้จักดีชั่ว

“แหะ ข้าว่ายืนอยู่ตรงนี้ดีกว่า มีเรื่องอะไรที่พวกเราคุยกันในลานหน้าเรือนไม่ได้หรือ? ท่านดูสิ อากาศก็ดียิ่ง” เธอเงยหน้ามองฟ้า กลับเห็นท้องฟ้ามืดครึ้ม เมฆดำลอยผ่านคล้ายฝนใกล้จะตก จึงยิ้มหน้าเจื่อน มุมปากกระตุกอย่างห้ามไม่ได้

เห็นท่าทีที่นางระแวงเขาราวกับป้องกันหมาป่า เจ้าตำหนักโกรธจนขำแล้ว เข้าไปลากนางมาในห้องทันที

“นี่ๆๆ ท่านเจ้าตำหนัก ท่านอย่าหยาบคายนักจะได้ไหม แม้เป็นกลางวันแสกๆ แต่ชายโสดหญิงสาวอยู่ร่วมห้องกันก็ไม่ค่อยงามเท่าไหร่!” เธอถูกลากวิ่งเหยาะๆ เข้าห้องไป พลางแหกปากโวยวายจะดึงมือกลับ จนปัญญาที่สู้แรงเขาไม่ได้

“วางใจเถอะ หากเสื่อมเสียชื่อเสียงเจ้าข้าจะรับผิดชอบเอง!”

ได้ยินคำพูดนี้ มุมปากเธอก็กระตุก รีบร้อนบอกว่า “นี่ไม่ใช่…” ยังพูดไม่ทันจบก็ตาค้างไป เห็นเพียงเขาสะบัดแขนเสื้อปล่อยกระแสลมพัดผ่าน ปิดประตูลงเสียดื้อๆ

เธอพลันประหม่าขึ้นมาบ้างแล้ว รีบเอ่ยว่า “ปิดประตูทำไมกลางวันแสกๆ?”

“ไม่ปิดประตูแล้วจะทำเรื่องที่ข้ายังทำไม่เสร็จต่อได้อย่างไร?”

ได้ยินน้ำเสียงฉุนเฉียวนั้นทั้งทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูด เสียงทุ้มเข้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้ชายช่างน่าเย้ายวนอย่างยิ่ง ฟังแล้วใจเธออดหวั่นไหวไม่ได้ เอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว “เรื่องอะไรที่ยังทำไม่เสร็จ?”

กล่าวจบก็รู้สึกว่ามีมือคู่ใหญ่กอดเอวบาง แรงจากมือใหญ่นั้นโอบเธอไว้ในอ้อมแขนเขา เรี่ยวแรงมากมายทำให้เธอไม่ทันระวังชนกับแผงอกแกร่ง จมูกพลันมีความรู้สึกด้านชาแล่นขึ้นมา ยังไม่ทันได้ปริปากก็วิงเวียนศีรษะราวกับฟ้าหมุนแผ่นดินกลับ ร่างยังโดนอุ้มไปกดไว้บนเตียง…

……………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!