№ 458 เจ้าตำหนักยมราชอารมณ์ดี
เฟิ่งจิ่วลูบๆ จมูก แล้วเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยถามพลางยิ้มตาหยีว่า “ท่านเจ้าตำหนักมีธุระอะไรหรือ?”
“ข้ามาตั้งหลายวันแล้ว เจ้ากลับไม่พยายามทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี หรือว่าจะไม่หาเวลาสักวันไปเดินเล่นรอบๆ เป็นเพื่อนข้า?” เขากล่าวเสียงเข้ม แววตาลึกล้ำจ้องมองนาง หากฟังอย่างละเอียดจะได้ยินความไม่พอใจในน้ำเสียง ราวกับสามีขี้บ่นที่ถูกทิ้งให้เฝ้าห้องอันว่างเปล่าเพียงลำพัง
“เหอะๆ คือว่า…”
เห็นนางยิ้มหน้าเจื่อนๆ ดวงตาดำก็หมุนกลอกไปมา คล้ายกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาจึงตัดบทคำพูดนาง ขู่บังคับอย่างชั่วร้าย “เจ้าลองกล้าหาข้ออ้างอีกทีสิ”
มุมปากเฟิ่งจิ่วกระตุกเมื่อได้ยินเช่นนี้ มองเขาแวบหนึ่งแล้วยิ้มเอ่ยด้วยดวงตาวงคิ้วโค้งมน “ท่านเจ้าตำหนัก ท่านคิดมากไปแล้ว ข้าแค่อยากบอกว่าจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปเป็นเพื่อนท่าน”
ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเจ้าตำหนักยมราชถึงจะผ่อนคลายลง เหลือบมองชุดสีแดงบนร่างนางและเอ่ยว่า “อาภรณ์ชุดนี้ก็สวยดี” ความหมายของคำพูดคือข้าเห็นแล้วคิดว่าสวยมาก ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก
“ได้ยังไง? ออกไปเดินเล่นกับท่านเจ้าตำหนักจะไม่แต่งตัวใหม่เสียหน่อยได้อย่างไร? ฮี่ๆ ท่านวางใจได้ ข้าไม่บ่ายเบี่ยงไม่ไปหรอก แค่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อืม ใช้เวลาไม่นานมาก ท่านไปรอที่โถงด้านหน้าก่อนก็ได้”
เจ้าตำหนักขมวดคิ้ว แต่กลับไม่พูดอะไรมากอีก แค่บอกว่า “ข้าจะไปรอที่เรือนเจ้า” เพราะโดนผลักไสมาหลายครั้งเกินไป ครั้งนี้นางตอบรับว่าจะออกไปเป็นเพื่อนเขาอย่างสบายๆ ปานนี้จึงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
“ได้” เฟิ่งจิ่วขานรับด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม จากนั้นเดินกลับไปพร้อมกับเขา
เห็นทั้งสองเดินกลับไป ฮุยหลางกับอิ่งอีที่อยู่ไม่ไกลจึงมองหน้ากัน ฮุยหลางถามขึ้น “เจ้าว่าภูตหมอคิดจะทำอะไร จะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนนายท่านจริงๆ หรือ ทำไมข้ารู้สึกว่านางกำลังคิดแผนการร้ายอะไรอีก”
“เจ้าไม่เห็นหรือนายท่านบอกว่าจะไปรอที่เรือนนาง? น่าจะไม่โดนผลักไสอีก” อิ่งอีพูดจบก็ตามสองคนด้านหน้าไป
เห็นเช่นนี้ฮุยหลางจึงตามไปด้วย ในใจกลับกำลังคิดว่าหากคนอื่นพูดเช่นนี้เขาคงไม่คิดมาก เพียงแต่เมื่อเป็นภูตหมอคนนี้…ก็พูดยากนัก
เฟิ่งจิ่วที่กลับถึงเรือนแล้วสั่งคนยกน้ำชามาให้เจ้าตำหนักยมราช ส่วนตัวเองเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ฮุยหลางกับอิ่งอีคอยอยู่ด้านหลังเจ้าตำหนัก ทั้งสองคนสังเกตเห็น เหมือนว่าตั้งแต่ภูตหมอบอกว่าจะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนนายท่าน ริมฝีปากเขาก็มีรอยยิ้มที่คล้ายมีคล้ายไม่มีอยู่ตลอด เดาว่าเขาเองคงไม่รู้ว่าอารมณ์บนใบหน้าตอนนี้ทั้งอ่อนโยนและเบิกบานเพียงใด ทั้งที่กำลังยกน้ำชาขึ้นดื่ม ทว่าจิบหนึ่งครั้งก็หันมองหลายครั้ง ท่าทางที่มองไปยังประตูห้องที่ปิดสนิทนั้นทำให้สองคนด้านหลังมองท้องฟ้าอย่างหมดคำพูด
คิดว่าตอนนี้นายท่านช่างเหมือนหนุ่มน้อย ตื่นเต้นดีใจอย่างไร้ที่สิ้นสุดแล้ว
ภูตหมอเพิ่งบอกว่าจะออกไปเดินเล่นด้วยก็ตื่นเต้นเสียจนกลายเป็นเช่นนี้ หากอนาคตถึงคืนเข้าหอ เขาจะตื่นเต้นคึกคักขนาดไหน?
แค่ลองคิดดู ตอนนี้พวกเขาก็เป็นห่วงนายท่านขึ้นมาอย่างอดใจไม่อยู่
เดิมทีนึกว่าวันนั้นในห้องนายท่านจะกินภูตหมอไปแล้ว แต่เห็นท่าทางที่พวกเขาไปมาหาสู่กันสองสามวันนี้ ก็รู้ว่านายท่านยังไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ หากลงมือจะเป็นเช่นนี้หรือ?
เฮ้อ! มาเจอเจ้านายที่ไม่ค่อยเปิดหูเปิดตาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เท่าไหร่ ข้ารับใช้อย่างพวกเขากังวลใจมากจริงๆ!
เห็นเขาดื่มชาหนึ่งแก้วก็รินอีกแก้ว แล้วมองไปทางประตูอีกครา ฮุยหลางจึงกระแอมไอเบาๆ ก่อนก้าวเข้าไป…
…………………….