Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 484

№ 484 ช่วงนี้ข้า…งดสุรา

“จัดการธุระได้อย่างงดงามยิ่ง” เจ้าตำหนักยมราชรินเหล้า มองนางพลางเอ่ยขึ้น

เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไปนั่งลงข้างโต๊ะ “เวลานี้ค่ำแล้ว ท่านไม่กลับไปพักผ่อนหรือ?”

“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าจะรอเจ้ากลับมาดื่มเหล้าด้วย” เขายกแก้วเหล้าในมือขึ้น มุมปากเผยรอยยิ้มหยอกล้อ “เหล้าน่ะ ข้ามีมากพอ”

ได้ยินคำพูดนี้มุมปากเธอก็กระตุก ยิ้มกระอักกระอ่วน “ไม่ต้องหรอก ช่วงนี้ข้างดสุรา” ล้อเล่นรึเปล่า อีกรอบก็ได้หรือ? โดยเฉพาะการดื่มเหล้ากับผู้ชายคนนี้ อันตรายเกินไปแล้ว

“กลัวรึ?” เขาเลิกคิ้วขึ้น นึกไม่ถึงนิดหน่อย

“แหะ ท่านเจ้าตำหนัก คืนนี้ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ไม่อย่างนั้นเอาแบบนี้ดีไหม! วันหลังเราค่อยคุยกัน? ท่านดูสิ ยามนี้พ่อข้าเพิ่งรับช่วงต่อแคว้นนี้ เรื่องที่ต้องจัดการมีมากมาย ช่วงนี้ข้าต้องช่วยเขาจัดการเรื่องบางอย่าง ต้องยุ่งมากแน่ๆ ดังนั้นท่านว่า…”

เจ้าตำหนักชำเลืองมองนาง น้ำเสียงทุ้มต่ำมีแรงดึงดูดเอ่ยว่า “ในเมื่อตอนนี้วิกฤตของจวนตระกูลเฟิ่งผ่านไปแล้ว เจ้าควรจะจัดการเรื่องของเราสองคนเสียทีใช่หรือไม่?”

“หา? เราสองคนมีเรื่องอะไร?” เธอถามอย่างแสร้งโง่

“บิดาเจ้าพอใจข้าอย่างยิ่งในทุกๆ ด้าน” พูดถึงเรื่องนี้เขาภูมิใจยิ่งนัก เพราะจัดการเรื่องว่าที่พ่อตาได้แล้วอย่างง่ายดาย ตอนนี้ขอแค่นางพยักหน้า เรื่องนี้ก็สำเร็จแล้ว แต่ว่าอยากจะให้หญิงผู้นี้พยักหน้านั้นไม่ง่ายเลย!

“เหอะๆ ใช่รึ? พอใจก็ดี ท่านเป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งของตระกูลเฟิ่งเรา จะไม่พอใจ ไม่ชอบหน้าท่านได้หรือ?” เธอยิ้มเก้อๆ ไม่ค่อยอยากคุยต่อสักเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นจึงลุกยืนขึ้นก่อน

“คืนนี้ข้าง่วงนิดหน่อย เอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน! ข้าจะไปนอนก่อน พรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้าอีก อืม เท่านี้แหละ” เธอโบกๆ มือ เท้าก้าวออกไปสองก้าวก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดน่าเย้ายวนจากด้านหลังดังมา เมื่อได้ยินคำพูดน่าไม่อายจากเขา ฝีเท้าที่ก้าวออกไปสะดุดไปนิดจนแทบจะล้ม

“ข้าต้องอุ่นเตียงให้รึไม่ เรื่องนี้ข้าถนัดนัก”

เขามองนางเดินไปเรือนหลังนั้นราวกับหนีเอาชีวิตรอดโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะปิดประตูดังปัง เห็นเช่นนี้มุมปากจึงยกยิ้มขึ้นมา

แม้ระหว่างสองคนยังมีระยะห่าง แต่ความรู้สึกพิเศษที่ก่อเกิดจากระยะห่างนี้ก็ทำให้เขาสุขใจเสมอมา

ครั้นนึกถึงคำว่า ‘สาวงามแพ้ชายช่างตื๊อ’ ที่ฮุยหลางบอก ดูท่าการตื๊อไม้นี้จะได้ผล แต่สำหรับนางลำพังใช้แค่ลูกไม้นี้เหมือนจะยังไม่มากพอเท่าไหร่ เขาควรจะลองใช้เสน่ห์ชายชาตรีเกี้ยวพานางเสียหน่อยดีหรือไม่?

นึกถึงตรงนี้ ในดวงตาดำลึกล้ำก็มีความกระตือรือร้นอยากรู้อยากลองโลดแล่นขึ้นมา พลันรู้สึกว่าความคิดนี้ไม่เลวเลย

ภายในเรือน เฟิ่งจิ่วรินน้ำดื่ม สองดวงตากลิ้งหมุนมอง คิ้วขมวดเบาๆ คิดว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ใช่ทางออก! เจ้าตำหนักยมราชคนนี้ เธอต้องคิดหาวิธีผลักไสเขาไปถึงจะถูก แต่มีวิธีใดไล่เขาไปได้บ้างเล่า?

หลังจากดื่มน้ำ เธอกลับไม่พักผ่อนบนเตียง แต่แวบกายเข้าห้วงมิติไป…

ในสองสามวันต่อมา ข่าวว่ามู่หรงป๋อสิ้นชีพก็กระจายออกไป พร้อมกับเรื่องที่แคว้นแสงสุริยันเปลี่ยนเป็นราชวงศ์เฟิ่งหวง เฟิ่งเซียวผู้นำตระกูลเฟิ่งกลายเป็นผู้ครองแคว้นคนแรกของราชวงศ์เฟิ่งหวง หนำซ้ำยังเป็นผู้ครองแคว้นที่พลังบรรลุถึงระดับจักรพรรดินักรบ ข่าวแพร่ออกไปจากเมืองอวิ๋นเยวี่ย กระจายไปแต่ละแคว้น แม้กระทั่งพวกแคว้นระดับเก้ารอบๆ ส่วนหนึ่ง ทุกเรื่องล้วนทำให้ผู้ครองแคว้นเล็กอื่นๆ ตกตะลึงไม่สิ้นสุด…

…………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!