Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 526

№ 526 ภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

อาจารย์คุมสอบทั้งสามถลึงตาจ้องมองร่างเด็กหนุ่มที่จากไป กระทั่งหายลับไปถึงจะหันกลับมามองอวี๋เหล่า หนึ่งในนั้นถามอย่างโง่เขลา “นี่ นี่เราจะเก็บเป็นความลับจริงๆ หรือขอรับ?”

อวี๋เหล่าฟังแล้วดวงตาจ้องเขม็ง “อะไรคือจะเก็บความลับจริงหรือ? สิ่งที่ข้าพูดไปเป็นการหลอกลวงเขาหรือไร? ต้องเก็บเป็นความลับอยู่แล้ว! พวกเจ้าสามคนรู้เรื่องนี้เป็นพอ ต่อให้ใครถามก็อย่าบอกออกไป!”

“ขอรับๆ” ทั้งสามรีบร้อนขานรับ เช็ดปาดเหงื่อ ไม่ต้องให้อวี๋เหล่าบอกพวกเขาก็รู้ว่าการผิดใจกับนักปรุงยาระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด

หากผิดใจกับนักปรุงยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะจัดการใครไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง แค่ต้องมอบยาหนึ่งขวดให้ผู้แข็งแกร่งช่วยจัดการโดยตรงก็ได้แล้ว เรื่องเช่นนี้พวกเขาเคยเห็นมามากมายนัก จึงไม่กล้าก่อปัญหาติดตัว

ทางอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วที่ออกจากสมาคมอารมณ์ดีมาก สูดหายใจเข้าลึกและถอนออกเบาๆ สายตาหันมองไปหยุดลงบนโรงน้ำชาไม่ไกล แล้วสาวก้าวเดินไปทางนั้น

ยังไม่ทันเข้าไปโรงน้ำชา เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาก็ออกมาต้อนรับ

“นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว! เหนื่อยหรือไม่? มาพักผ่อนในโรงน้ำชาเร็วขอรับ”

เหลิ่งซวงทำแค่มองเธอเงียบๆ ในแววตามีความยินดี ส่วนเหลิ่งหวาใบหน้ามีรอยยิ้มเริงร่า ถามว่าเธอเข้าไปนานเพียงนี้การสอบประเมินเหนื่อยหรือไม่พลางนำทางอยู่ด้านหน้า พาเธอขึ้นบนชั้นสองที่เจ้าตำหนักยมราชเหมาไว้ทั้งหมด

เมื่อเดินขึ้นมาถึง เธอกวาดมองชั้นสองที่ว่างโล่งและเงียบสงบ สายตาหันไปหยุดลงบนร่างหลิงโม่หานที่นั่งดื่มชาตรงด้านหน้า เอ่ยยิ้มๆ ว่า “สมกับเป็นคนร่ำรวย! แค่ดื่มชายังเหมาไว้ได้ทั้งชั้นสอง”

ดวงตาดำลึกล้ำของหลิงโม่หานมองไปทางนาง สายตามองจากบนลงล่างอย่างแนบเนียน เห็นนางร่างกายสะอาดสะอ้านเหมือนตอนเข้าไปและไม่เกิดอุบัติเหตุอะไรก็ละสายตากลับ เสียงทุ้มต่ำเปล่งออกมาจากปากเขาอย่างเนิบๆ

“ได้เหรียญตราแล้วทำไมไม่สวมไว้?”

“ฮ่าๆ ข้าเป็นคนโอ้อวดเช่นนั้นหรือ? ข้าไม่สนใจลาภยศสรรเสริญ หากไม่ใช่ว่าต้องใช้เหรียญตรายาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ข้าก็คร้านจะไปสอบ” ระหว่างพูดก็โยนๆ เหรียญตราอยู่ในมือ

ขณะเดียวกัน เธอมองหลิงโม่หาน แววตามีรอยยิ้ม ใบหน้าเล็กมีความภูมิใจบางส่วน “ข้าจะบอกพวกท่าน ตอนที่ข้าสอบประเมินผ่าน อวี๋เหล่าคนนั้นยืนกรานอยากจะรั้งข้าไว้ บอกว่าอยากซื้อยาข้าในราคาสูง ซ้ำยังจะเชิญข้าไปเป็นผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสมาคมพวกเขาด้วย”

ได้ยินคำพูดนี้ ฮุยหลางกับอิ่งอีที่คอยอยู่ข้างๆ เบิกตาโตโดยพลัน มองไปทางนางด้วยความตะลึง

แม้แต่หลิงโม่หานที่กำลังดื่มชาแววตายังสั่นไหวเล็กน้อย สายตาหยุดลงบนร่างสาวน้อยที่ภาคภูมิใจอย่างยิ่งพร้อมกระดิกหางราวจิ้งจอกน้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเจือแววยิ้มหัว “เช่นนั้นเจ้าว่าอย่างไร?”

มือหนึ่งเขาเล่นถ้วยชา ดวงตาดำลึกล้ำมองนางยิ้มๆ คิดว่าด้วยนิสัยแปลกๆ ของนาง เขาไม่อาจคาดหวังอะไรมากเกินไปนัก

ฮุยหลางกับอิ่งอีได้ยินนายท่านถามคำถามที่พวกเขาเองก็อยากรู้ จึงอดไม่ได้กลืนน้ำลาย ก่อนจะมองทางเฟิ่งจิ่ว

ผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ของสมาคมนักปรุงยา! นั่นไม่ใช่ตำแหน่งที่ใครอยากเป็นก็ล้วนเป็นได้ ภูตหมอตอบรับหรือไม่กันแน่? คงจะตอบรับกระมัง มีแต่คนโง่ถึงจะผลักไสเรื่องดีๆ เช่นนี้

มีเพียงเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาที่ยังมีท่าทางสงบนิ่ง นายท่านจะตัดสินใจเช่นไร พวกเขาคิดว่าถูกทั้งนั้น

เห็นสายตาทุกคนจับจ้องมาที่เธอ และเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาแต่ละคน เธอยิ่งรู้สึกว่าการที่ตนผลักไสตำแหน่งผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์ไปเป็นเรื่องมีเกียรติยิ่ง

ดังนั้นเธอจึงกระแอมเบาๆ ใบหน้าเล็กมีสีหน้าได้ใจ “ข้าไม่ตอบรับแน่นอน! บอกปัดไปทันทีด้วย!”

เมื่อเธอเอ่ยออกไป ชั้นสองพลันเงียบสงัดลง…

……………………..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!