Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 538

№ 538 เขายิ้มแล้ว

เห็นเพียงบนถนนใหญ่ที่เดิมทีเหลือคนไม่กี่คน มีคนชุดดำหลายสิบคนโผล่ออกมาโดยพลัน บนร่างแต่ละคนต่างมีไอสังหารกระหายเลือดแผ่กระจาย มือถือกระบี่ยาวจู่โจมเข้ามาทางนี้ เพราะการปรากฏตัวของคนหลายสิบ เหล่าคนบนถนนที่เดิมทีกำลังเก็บร้านจึงตื่นตกใจ ต่างพากันทิ้งข้าวของหนีเอาชีวิตรอด

บรรยากาศทั่วท้องถนนพลันเปลี่ยนไปเพราะการปรากฏตัวของคนชุดดำหลายสิบคน กลิ่นอายและแรงกดดันกระหายเลือดเช่นนั้นปกคลุมบริเวณโดยรอบไว้ทันที ทำให้อากาศยิ่งหนาวเย็นขึ้น

เฟิ่งจิ่วที่รู้สึกผิดปกติถูกหลิงโม่หานคุ้มกันไว้ในอ้อมแขน ดวงตาฉายประกายเล็กน้อย ก่อนตบๆ แขนเขา “ปล่อยข้า” กำลังของคนพวกนี้ไม่ธรรมดาโดยสิ้นเชิง อย่างต่ำสุดก็มีวรยุทธ์ระดับหลอมแก่นพลัง หนำซ้ำในหมู่พวกนั้นยังมีหลายคนเป็นผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณ!

ผู้แข็งแกร่งที่ลงมือเช่นนี้ไม่น่าจะพุ่งเป้ามาหาเธอแน่นอน แต่เป็นหลิงโม่หานต่างหาก

ไม่สิ อาจจะไม่ได้หมายหัวฐานะหลิงโม่หาน แต่เป็นฐานะที่แท้จริงของเขา! มิเช่นนั้นกลุ่มอำนาจไหนๆ ก็ไม่มีทางส่งผู้แข็งแกร่งมากมายเพียงนี้มาตามฆ่าในคราเดียว ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ลงมือ จะต้องคิดเอาชีวิตเขาเป็นแน่!

จริงด้วย คืนนี้เหมือนจะเป็นวันที่สิบห้า คนพวกนี้คล้ายจะชอบลงมือวันที่สิบห้า คิดแล้วคงนึกว่าร่างกายหลิงโม่หานในคืนที่สิบห้าอ่อนแอที่สุด เพราะไอเหมันต์พันปีในร่างจะออกฤทธิ์กระมัง!

แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามียาเม็ดของเธอระงับอาการไว้ พิษเหมันต์พันปีแม้ไม่อาจแก้ได้ในตอนนี้ แต่ก็ไม่กำเริบแล้ว

บนร่างเธอมีอานุภาพกดดันจากสัตว์เทวะโบราณ ซ้ำยังมีหลิงโม่หานคุ้มครอง จึงไม่เกรงกลัวแรงกดดันและไอสังหารที่มาจากทุกทิศทาง ทว่าเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาที่ตามมาด้านหลังกลับสีหน้าขาวซีดภายใต้แรงกดดันนี้ และกระอักเลือดออกมา

ฮุยหลางกับอิ่งอีขวางอยู่ด้านหน้านายทั้งสองในพริบตา ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณออกไป ระเบิดเบ่งบานกลางท้องฟ้ายามราตรีดุจดอกไม้ไฟ ทันใดนั้นคนชุดดำอีกหลายสิบปรากฏกายแล้วเข้าโจมตีคนชุดดำเบื้องหน้าจากทางด้านหลัง

“เหลิ่งซวงเหลิ่งหวาเข้ามานี่!” เธอตะโกนอย่างรวดเร็วให้ทั้งสองเข้ามาใกล้ ขณะเดียวกันก็แผ่กลิ่นอายเก่าแก่บนร่างออกมาก่อตัวเป็นเกราะกั้นพวกเขาจากแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งโดยรอบ

เห็นภาพเช่นนี้ หลิงโม่หานก้มหน้ามอง แต่กลับไม่ปล่อยนางไป ยังคงโอบนางไว้ข้างกายและปกป้องในอ้อมแขน

กำลังของผู้มาเยือนต่ำที่สุดคือระดับหลอมแก่นพลัง แม้ฝีมือนางไม่เลว เขาก็ยังคงไม่วางใจให้นางออกห่างจากข้างกาย มีเพียงคุ้มกันไว้ในอ้อมแขน เขาถึงแน่ใจได้ว่านางจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

“คนพวกนี้มาตามล่าท่าน”

เฟิ่งจิ่วเอ่ยปากพร้อมขมวดคิ้ว “กำลังแข็งแกร่งมาก กลิ่นอายกระหายเลือดบนร่างแต่ละคนคละคลุ้งกว่านักฆ่าทั่วไป หนำซ้ำยังใช้วิธีสู้แบบไม่เสียดายชีวิต คู่ต่อสู้ท่านไม่ธรรมดาเลย!”

“กลัวแล้วรึ?” มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อย แววตาลึกล้ำหยุดลงบนใบหน้านาง

“กลัว?” เธอเลิกคิ้วขึ้นมองเขา ยิ้มตาหยีพลางถาม “หากข้าบอกว่ากลัว ท่านจะปล่อยมือหรือ?”

“ไม่มีทาง”

เขากอดนางแน่นขึ้น ดวงตาดำขลับจ้องมองนาง น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มีแรงดึงดูดทั้งจริงจังและเอาแต่ใจ “สำหรับเจ้าข้าไม่มีวันปล่อยไป แต่เจ้าไม่ต้องกลัว แม้มีอันตรายข้าก็จะปกป้องเจ้า จะไม่ให้ใครทำร้ายเจ้าแม้แต่น้อยนิด”

ได้ยินคำพูดนี้ หัวใจเฟิ่งจิ่วสั่นสะท้านวูบหนึ่ง เต้นรัวตึกตักอย่างน่าผิดหวัง ท่ามกลางคมหอกคมดาบ เธอมองเขาอย่างตกใจ ก้นบึ้งหัวใจคล้ายมีเสียงหนึ่งกำลังบอกว่าอย่าลังเล ไม่ต้องหวาดกลัว ลองที่จะเชื่อ และลองที่จะรัก…

ทว่าคำพูดที่เปล่งออกไปกลับเป็น “เฮ้อ! ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าอยู่ใกล้กับท่านไม่มีเรื่องดี”

เห็นสาวน้อยมีสีหน้าจนใจทว่าไม่เกรงกลัว เขาก็ยิ้มออก

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!