№ 556 ข้าชื่อเซวียนหยวนโม่เจ๋อ!
เฟิ่งจิ่วสงสัยเมื่อได้ยินเช่นนี้ ถามว่า “ตกใจ? ทำไม?” ไม่เจอกันนานเพียงนี้ เห็นเธอโผล่มาที่นี่แน่นอนว่าควรจะประหลาดใจสิ!
“แหะๆ รอท่านพบเขาก็รู้แล้วว่าจะประหลาดใจหรือตกใจ” ฮุยหลางหัวเราะ ตาเฒ่าคนหนึ่งถูกหญิงงามที่ดูคล้ายจะยังอายุยี่สิบรวบตัวมาไว้ที่นี่ หลานสาวมาหา เขาต้องตกใจแน่นอน
ได้ยินเช่นนี้เธอเลิกคิ้วขึ้น จะตกใจเธอจริงหรือ? คงไม่กระมัง?
“พวกเราจะหาที่พัก หรือไปบ้านตระกูลหลินก่อน?” หลิงโม่หานข้างๆ ถามพลางมองหญิงข้างกาย ตอนอยู่บนเรือเหาะเขาเอาเคราออกไปหมดแล้ว จึงเผยให้เห็นรูปโฉมดั้งเดิม
เธอขบคิดแล้วบอกว่า “พวกท่านหาที่พักเสียก่อนเถอะ ส่วนท่านปู่ทางนั้นข้าจะแอบๆ ไปดูก่อน”
“เจ้าจะไปเอง?” เขาเลิกคิ้ว “ตระกูลหลินไม่ได้เข้าไปง่ายๆ”
“เช่นนั้นพวกเราจะเข้าไปหาทันทีหรือ ทำให้ท่านปู่รับมือไม่ทัน?” แววตาเฟิ่งจิ่วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ จู่ๆ ก็คิดว่าควรทำให้ท่านปู่ประหลาดใจอย่างตั้งตัวไม่ทัน อืม อาจจะจริงอย่างที่ฮุยหลางบอก ต้องตกใจแน่
“พวกเรามีคนเยอะ หาโรงเตี๊ยมกันก่อนดีกว่า! หากเจ้าอยากไปดูก่อน ประเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไป” หลิงโม่หานพูดจบก็พานางเดินตรงไปข้างหน้า คิดว่าต้องหาที่ปักหลักก่อน
“ก็ได้” เธอขานรับ แล้วจึงเรียก “ฮุยหลาง เจ้าสอบถามที่อยู่ตระกูลหลินให้ทีสิ”
“ขอรับ” ฮุยหลางยิ้มรับ
พวกเขาไปหาโรงเตี๊ยมกันก่อน เหมาไว้ทั้งชั้นสอง ส่วนฮุยหลางไปสอบถามที่อยู่จวนตระกูลหลินมา
เวลาแค่ครึ่งก้านธูป ฮุยหลางก็กลับมา บอกเฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่กับนายท่านตรงหน้าต่างชั้นสองว่า “คุณชายจิ่ว จวนตระกูลหลินห่างจากที่นี่เวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป เลี้ยวผ่านถนนไม่กี่เส้นก็ถึง จวนตระกูลหลินเป็นตระกูลเก่าแก่ของที่นี่ แค่สอบถามก็รู้ที่ตั้งแล้ว”
“อ้อ เช่นนั้นก็ไม่ไกล” เธอพยักหน้า ให้สัญญาณเขาไปพักผ่อนอีกโต๊ะหนึ่ง
หลิงโม่หานช่วยเฟิ่งจิ่วคีบพวกอาหาร พูดว่า “กินอะไรเสียหน่อย เดี๋ยวข้าจะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเจ้า”
“ได้” เธอยิ้มพลางพยักหน้า มองเขาที่นั่งอยู่ตรงข้ามพลางถามยิ้มๆ “ท่านถอดเคราออกแล้ว ข้าต้องเรียกท่านว่าเจ้าตำหนักยมราชหรือท่านอากันแน่?”
ได้ยินแล้วดวงตาลึกล้ำหยุดชะงักบนใบหน้านางที่มีรอยยิ้มสักพัก เขาวางตะเกียบในมือลงขณะมองนาง นิ้วมือขยับร่ายเขตอาคมกันเสียงโอบล้อมทั้งสองไว้ ในเวลานี้เอง เสียงที่ทั้งทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูดเปล่งออกมาจากปากเขาอย่างไม่เร่งไม่ช้า
“ข้าแซ่เซวียนหยวนสองคำ นามว่าโม่เจ๋อ จำไว้อย่าได้ลืม”
“เซวียนหยวนโม่เจ๋อ?”
เธอตกตะลึงอย่างมาก เซวียนหยวนเป็นสกุลของราชวงศ์! และเป็นสกุลเชื้อพระวงศ์ที่สูงส่งที่สุด เขามาจากตระกูลเชื้อพระวงศ์จริงๆ หรือนี่? มิน่า มิน่าล่ะถึงมีคนตามฆ่าเขา หนำซ้ำกำลังของนักฆ่าที่ส่งมายังแข็งแกร่งเช่นนั้น สกุลเซวียนหยวนไม่ใช่แม้แต่แคว้นใหญ่ระดับหนึ่ง แต่พวกเขาอยู่ในแปดจักรวรรดิใหญ่สูงสุด!
แปดจักรวรรดิใหญ่เหนือกว่าแคว้นใหญ่ระดับหนึ่ง ลือกันว่าแปดจักรวรรดิใหญ่เป็นจักรวรรดิที่ลอยเหนือท้องฟ้าและแยกจากคนธรรมดาโดยสิ้นเชิง จึงถูกเรียกว่าเมืองกลางเวหาอันลึกลับ ที่นั่นมีระบบการขับไล่คนที่โหดเหี้ยมที่สุด ภายในจักรวรรดิทั้งหมด ไม่ว่าพ่อค้าหาบเร่หรือประชาชนล้วนเป็นผู้มีวรยุทธ์ไม่ธรรมดา ตามคำอธิบาย ที่นั่นเป็นจักรวรรดิในฝันของผู้ฝึกวิชาเซียน ขอเพียงก้าวเข้าไปและปักหลักอยู่ที่นั่น แม้เป็นผู้ฝึกตนเล็กๆ ในจักรวรรดิ ก็ทำให้เหล่าตระกูลในแคว้นต่ำกว่าระดับแปดเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงแล้ว…