Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 634

№ 634 คุณชายโม่เฉิน

ได้ยินเช่นนี้ กวนเหล่าก็ถอนใจ “ท่านไม่รู้หรอก หนุ่มน้อยคนนั้นน่ะ…” เสียงเขาชะงักไป ไม่รู้จะบรรยายเช่นไร

“หากเจ้ากังวลนักก็ไปดูที่จุดสอบประเมินเสียหน่อยเถอะ แต่วันนี้ข้ามีเรื่องสำคัญกว่าต้องบอกกับเจ้า” สุดท้ายเจ้าสำนักวางถ้วยชาลง แล้วยิ้มมองรองเจ้าสำนัก

“เรื่องที่สำคัญกว่า?” กวนเหล่ามองไปทางเขา “เรื่องอะไรหรือขอรับ”

“คุณชายโม่เฉินมา บอกว่าจะพักอยู่ที่นี่สักระยะ” เจ้าสำนักพูดพลางมองกวนเหล่าที่มีสีหน้าแปลกใจและตกตะลึง

“จะ จริงหรือ?”

กวนเหล่าทำหน้าตื่นเต้น “มาวันนี้หรือ? ทำไมข้ายังไม่เห็น?”

เจ้าสำนักพยักหน้า “คงจะมาในสองวันนี้”

“ไม่ได้ๆ ข้าต้องออกไปดูสักหน่อย” พูดจบเขาก็ออกไปข้างนอกโดยไม่รอให้เจ้าสำนักตอบกลับ

ยามนี้ เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ตรงกลางทางแยกของสำนักยาเซียนและสำนักยา พลางมองจุดลงชื่อสองด้านซ้ายขวาอย่างงุนงงอยู่บ้าง

เทียบกับกลุ่มคนด้านหน้าที่เรียงแถวยาวราวมังกร ที่นี่นอกจากทางฝั่งยาที่มีคนสิบกว่าคน นึกไม่ถึงว่าฝั่งยาเซียนจะมีแค่ชายชราคนหนึ่งเท้าแขนงีบหลับอยู่ตรงนั้น เห็นแล้วพูดไม่ออกจริงๆ

ความแตกต่างต้องมากถึงเพียงนี้เชียว? บอกว่านักเล่นแร่แปรธาตุเป็นที่สนใจเป็นพิเศษไม่ใช่หรือ? ไม่ใช่ว่าฐานะนักเล่นแร่แปรธาตุสูงส่งกว่าหรือ? ลูกหลานนับพันนับหมื่นที่เข้ามาลงชื่อ มีแค่เธอคนเดียวที่มาลงชื่อสอบสำนักยาเซียน?

ขณะที่เธอกำลังคิด ก็เห็นว่าเรือนด้านหลังชายชราคนนั้นมีชายสองสามคนเดินออกมาอย่างท้อแท้ใจ และเดินไปยังทิศประตูสำนักศึกษาด้วยท่าทางเตรียมรับการลงโทษ

“เจ้ามาลงชื่อรับการประเมินสำนักยาเซียนหรือ?” ชายชราคนนั้นเห็นหนุ่มน้อยชุดแดงยืนอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานก็ไม่เดินไปข้างหน้า จึงเอ่ยปากถามพลางเชื้อเชิญ “เข้ามาสิๆ”

เฟิ่งจิ่วได้สติกลับมา เดินหน้าเข้าไปคารวะ “คารวะท่านอาจารย์” ไม่ว่าเขาจะใช่หรือไม่ใช่อาจารย์ ยิ่งมีมารยาทคนยิ่งไม่ถือโทษ

“ลงบันทึกข้อมูลก่อนเถอะ” ชายชราเลื่อนแบบกรอกข้อมูลบนโต๊ะมาให้ทันที

เฟิ่งจิ่วรับแบบกรอกข้อมูลมาอ่าน เห็นว่าต้องบันทึกพวกข้อมูลพื้นฐาน ดังนั้นจึงหยิบพู่กันบนโต๊ะขึ้นมาเขียน แม้มีป้ายประจำสำนักศึกษาหมอกดาราที่เข้าสำนักศึกษาได้ทันทีโดยไม่ต้องประเมิน แต่เธอก็อยากรู้ว่าการประเมินของสำนักศึกษาหมอกดารานี้จะเข้มงวดสักแค่ไหน

ส่วนชายชราคนนั้นก็ชำเลืองมองหนุ่มน้อยชุดแดง สายตากวาดมองข้อมูลในตารางโดยไม่ตั้งใจ เมื่อเห็นว่าระดับแคว้นคือเก้า ดวงตาก็ถลึงมองพร้อมนั่งตัวตรงขึ้นมา

“เจ้ามาจากแคว้นระดับเก้า?”

“ใช่ขอรับ!” เธอพยักหน้าตอบรับ

ได้ยินเช่นนี้ ชายชราจึงจ้องเขม็งพลางสั่งสอน “ใช่อะไรกันเล่า? คนทั้งสิบจากแคว้นระดับเก้าของปีนี้เข้ามาแสดงตัวตั้งนานแล้ว เจ้าโผล่มาจากไหนอีก? ไม่รู้หรือว่าจำนวนลงชื่อจากแคว้นระดับเก้ามีแค่สิบคน ในสิบคนนั้นไม่มีใครประเมินผ่านสักคน เจ้าเข้ามาซื่อๆ จะทำให้ข้าเสียเวลาใช่หรือไม่?”

“แต่ข้ามีจดหมายแนะนำนะขอรับ!” ระหว่างพูดเธอยื่นจดหมายแนะนำให้ สิ่งนี้ได้มาจากตลาดมืด มีของชิ้นนี้แม้มาจากแคว้นระดับเก้าก็เข้าร่วมการประเมินได้ ทางด้านพี่ชายเธอยังมีไว้ฉบับหนึ่งเช่นกัน

พอเห็นจดหมายแนะนำ ชายชราก็เบิกตาพูดอะไรไม่ออกราวกับกินแมลงวันเข้าไป หยิบจดหมายแนะนำฉบับนั้นขึ้นมาอ่านแล้วอ่านอีก เห็นนามบนจดหมายแนะนำ จึงยืนยันอีกครั้ง “เจ้าชื่อเฟิ่งจิ่วหรือ”

“ขอรับ!” เธอพยักหน้า มองเขาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา

เห็นเช่นนี้ ในที่สุดชายชราก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เข้าไปเถอะๆ! ดูท่าทางเจ้าคงสอบไม่ผ่านหรอก แค่เข้ามากวนเล่นเฉยๆ”

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!