№ 711 รู้จักภูตหมอหรือไม่?
คำพูดโม่เฉินทำให้จิตใจทุกคนล้วนหนักอึ้ง ยามเห็นกลิ่นอายความตายที่ปกคลุมบนร่างอาจารย์หลู บรรยากาศทั่วห้องเรียนก็เคร่งเครียดยิ่งขึ้นเพราะเหตุนี้ แต่ละคนต่างครุ่นคิดโดยไม่ได้พูดอะไร และไม่รู้จะพูดอะไรดี
แม้อาจารย์หลูยังไม่ตาย กลับอยู่ไม่ห่างไกลจากความตายแล้ว กลิ่นอายความตายที่ปรากฏบนร่างเขา ผู้ฝึกวิชาเซียนทุกคนที่นี่ต่างมองออก พลังวิญญาณบนร่างเขาค่อยๆ อ่อนแรง ราวกับเปลวไฟโดนสาดซัดท่ามกลางสายฝน ค่อยๆ เล็กลงทุกที…
โลกนี้มีผู้ฝึกเซียนมากมาย ด้วยเหตุนี้จึงมีนักเล่นแร่แปรธาตุกับนักปรุงยา แต่กลับมีหมอน้อย ฐานะของหมอในสายตาผู้ฝึกเซียนห่างชั้นจากนักเล่นแร่แปรธาตุกับนักปรุงยาไปไกลโข เพราะหมอส่วนมากได้แต่รักษาคนทั่วไป สำหรับร่างกายผู้ฝึกเซียนปกติจะมีปัญหาน้อยนัก
เพราะเป็นเช่นนี้เอง ในด้านการแพทย์หมอที่มีผลงานและทักษะการแพทย์ทำให้คนเคารพเชื่อถือได้ยิ่งน้อยกว่า ถึงอย่างไรยอดฝีมือการแพทย์ที่แท้จริงก็เห็นได้น้อยนัก อย่างน้อยภายในแคว้นระดับหกพวกเขานี้ก็ไม่น่ามี
“ไม่ทราบว่าพวกท่านเคยได้ยินชื่อภูตหมอหรือไม่?”
จู่ๆ หมอคนหนึ่งก็พูดขึ้น แล้วมองไปทางทุกคน “หากหาภูตหมอพบข้าคิดว่าน่าจะช่วยอาจารย์หลูได้ แต่ภูตหมอคนนี้ที่อยู่ลึกลับ ยากมากที่จะตามหาเขา อีกทั้งยังมีเวลาแค่สามชั่วยาม ต่อให้ตามหาก็สายเกินไป”
เอ่ยถึงสุดท้ายเขายังถอนหายใจ แล้วส่ายหน้าเดินออกไป พูดไปก็เหมือนไม่ได้พูด คิดจะตามภูตหมอมาช่วยชีวิตภายในสามชั่วยาม จะทำได้อย่างไรเล่า?
ตามความคิดเขาเกรงว่าคงช่วยอาจารย์หลูไม่ได้แล้ว หากบาดเจ็บ สำหรับผู้ฝึกเซียนเช่นพวกเขา ในมือยังมีพวกยาอายุวัฒนะกับยาช่วยชีวิตหรือยังช่วยเหลือได้ แต่โรคนี้… เช่นนั้นก็อันตรายถึงชีวิตแล้วจริงๆ
“ชื่อเสียงภูตหมอในแคว้นเหินเวหาบอกได้เลยว่าแทบไม่มีใครไม่รู้จัก ทว่าคนที่เคยพบเขาค่อนข้างน้อย แต่เขามีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับคนตลาดมืด ก่อนหน้านี้เขายังเคยปรากฏตัวในแคว้นเหินเวหา คนตลาดมืดอาจจะรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน” รองเจ้าสำนักครุ่นคิด บอกกับรองเจ้าสำนักว่า “เหล่ากวน เจ้าเดินไปที ถือป้ายคำสั่งข้าไปขอให้ตลาดมืดช่วย”
“นี่…ได้หรือขอรับ? กลุ่มอำนาจตลาดมืดแม้แต่พวกเรายังต้องถอยห่าง ข้ากังวลว่าต่อให้พวกเขารู้คงไม่ยอมเปิดเผย”
“ได้ไม่ได้ก็ต้องไป ไปเถอะ! หัวหน้าตลาดมืดมีมิตรภาพกับข้าอยู่บ้าง หากเขารู้ที่อยู่ภูตหมอคงจะช่วยเรื่องนี้” เจ้าสำนักยื่นป้ายคำสั่งไป แล้วสะบัดมือให้สัญญาณเขารีบไป
“เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะไป” กวนเหล่ารับป้ายแสดงตัวตนของเจ้าสำนักมา ก่อนจะรีบไปยังตลาดมืด
“โม่เฉิน เจ้ามีวิธียื้อชีวิตเขาหรือไม่? แม้วันเดียวหรือสองสามชั่วยามก็ยังดี”
เจ้าสำนักมองอาจารย์หลูที่นอนบนเตียง แล้วถอนหายใจ เอ่ยว่า “เหล่าหลูคนนี้ข้ารับเข้ามาด้วยตนเอง เขาสอนเหล่านักเรียนในสำนักศึกษาหมอกดารามาหลายสิบปี ตลอดมาล้วนเป็นอาจารย์ที่เข้มงวดและจริงจัง ข้าไม่หวังให้เขาเป็นเช่นนี้จริงๆ…”
“ข้าใช้พลังวิญญาณผนึกพลังชีวิตในร่างเขาไว้ได้ เส้นเลือดและเส้นลมปราณทั่วร่างทุกส่วนจะหยุดไหลเวียน ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพแกล้งตาย แต่ทำได้เพียงประคองไว้สองชั่วยาม ผ่านไปสองชั่วยามเขาจะยังคงเหลือเวลาแค่สามชั่วยาม” โม่เฉินกล่าวอย่างเฉยชา สายตากวาดมองไปบนร่างอาจารย์หลูบนเตียง สำหรับเขาอาจารย์หลูเป็นเพียงคนแปลกหน้าเท่านั้น หากเจ้าสำนักไม่ขอร้องครั้งแล้วครั้งเล่าเขาคงไม่เอ่ยปากเช่นนี้เป็นแน่
“สองชั่วยาม?” เจ้าสำนักผงะสักพัก เอ่ยอย่างไม่ลังเลว่า “สองชั่วยามก็เป็นเวลา อยู่หรือตายต้องดูที่วาสนาเขาแล้ว”
……………………