Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 770

№ 770 คนผู้นี้ไม่ควรไปยั่วยุ

โดนพูดเช่นนี้ด้วย ผู้หญิงคนนั้นราวกับเพิ่งสังเกตว่ามือตัวเองกดอยู่บนมือหนุ่มน้อย จึงรีบร้อนดึงกลับมา มองเฟิ่งจิ่วพลางถามว่า “เจ้าขายชุดนี้ให้ข้าเถอะ! ข้าถูกใจตั้งแต่เช้าแล้ว”

“ขออภัยด้วย ข้าจะเอามาไปคนอื่น ไม่ขาย” เธอยิ้มๆ พลางเก็บของไปอย่างง่ายดาย

ขณะเดียวกันนี้เอง ชายสองคนด้านหลังที่ไม่ปริปากมาตลอดพินิจมองเฟิ่งจิ่วอย่างเงียบๆ เห็นอีกฝ่ายสวมชุดนักเรียนของสำนักศึกษาหมอกดารา ข้างเอวแขวนขนนกเคลือบหลากสีไว้ แววตาก็อดสั่นไหวเล็กน้อยไม่ได้ ยามหญิงคนนั้นจะเอ่ยปากอีก หนึ่งคนในนั้นก็ห้ามปราม

“น้องเล็ก ในเมื่อคุณชายท่านนี้ซื้อแล้ว พวกเราก็มองหาอย่างอื่นเถอะ ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายให้เสียอารมณ์เพราะเสื้อผ้าตัวเดียว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วมองชายคนนั้นก่อนยิ้มๆ สาวก้าวเตรียมจะเดินออกไป กลับยังถูกเขาเรียกไว้อีก

“คุณชายท่านนี้ช้าก่อน” ชายผู้นั้นก้าวมาหา ประสานมือคารวะและถามว่า “ขอบังอาจถามคุณชาย เฟิ่งจิ่วจากสำนักยาเซียนใช่หรือไม่?”

“คล้ายว่าข้าจะไม่รู้จักท่าน” เฟิ่งจิ่วมองเขาพลางตอบกลับ

“เหอะๆ คุณชายไม่รู้จักข้า แต่ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณชาย ในฐานะนักเรียนใหม่ของสำนักศึกษา คุณชายไม่เพียงเป็นผู้มีอิทธิพลในหมู่นักเรียนใหม่ ความโดดเด่นยิ่งล้ำหน้าผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกของสำนักศึกษา ข้าอยากจะทำความรู้จักด้วยมาตลอด แต่เสียดายที่ไม่มีโอกาส ไม่สู้ให้ข้าเป็นเจ้ามือเชิญคุณชายไปดื่มที่เหลาสุราด้านหน้าสักแก้ว?”

พูดถึงตรงนี้ เขาเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้ จึงกล่าวว่า “ข้าลืมแนะนำตัวเอง ข้าแซ่เหอ เป็นลูกหลานตระกูลเหอ หนึ่งในแปดตระกูลใหญ่เมืองซิงอวิ๋น”

“ไม่ละ ข้ายังมีธุระอีก ไม่สะดวกจะอยู่นาน” เฟิ่งจิ่วโบกๆ มือตอบ เพิ่งสาวเท้าออกไปก้าวหนึ่ง ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นมาขวางอยู่เบื้องหน้าด้วยความโกรธเคือง

“เจ้าคนผู้นี้ เหตุใดไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเช่นนี้ได้? พี่ชายข้าเชื้อเชิญถือว่าให้ความสำคัญกับเจ้า เจ้า…” นางมองหนุ่มน้อยอย่างขุ่นเคือง เมื่อสบสายตาของเด็กหนุ่มที่ลึกล้ำราวกับไม่เห็นก้นบึ้ง คำพูดช่วงท้ายก็ด่าไม่ออกในทันที

“แม่นาง รบกวนหลีกทางด้วย” ภายในน้ำเสียงนาบเนิบของเฟิ่งจิ่วเจือความเฉยชาไว้ ตรงริมฝีปากปรากฏรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มกลับไปไม่ถึงดวงตา

ชายคนนั้นเห็นเช่นนี้จึงลากน้องสาวมาข้างๆ ทันที “น้องเล็ก อย่าเสียมารยาท”

เขาตำหนิเบาๆ กำลังจะเอ่ยปากก็เห็นเฟิ่งจิ่วเดินออกไปแล้ว ไม่นานนักก็เข้าไปในหมู่ฝูงชน

“พี่ชาย ท่านจะสุภาพเช่นนี้ไปทำไม? คนคนนั้นมองข้ามความหวังดีจริงๆ หนำซ้ำเขายังซื้อชุดไหมสวรรค์ไปอีก” กล่าวถึงตรงนี้ นางกระทืบเท้าอย่างโมโห

ชายอีกคนหนึ่งเป็นลูกหลานของแปดตระกูลใหญ่เช่นกัน ยามนี้เดินไปเอ่ยกับหญิงคนนั้นว่า “คนผู้นี้ไม่ธรรมดา แม้ไม่อาจสานสัมพันธ์ ก็จะไปยั่วยุเขาไม่ได้”

“ข้าไม่เห็นเลยว่าไม่ธรรมดาตรงไหน” ผู้หญิงคนนั้นเบ้ปากพูด

“สองเดือนก่อนคนที่เจ้าสำนักกับพวกอาจารย์สำนักศึกษาหมอกดาราขี่กระบี่ไปช่วย ก็คือคนนามว่าเฟิ่งจิ่วคนนี้เอง คนผู้นี้ในตระกูลเพียงสืบได้ว่าเขามาจากแคว้นระดับเก้า เรื่องอื่นๆ ราวกับถูกลบเงื่อนงำ สรุปคือคนผู้นี้อย่าไปยั่วยุจะดีที่สุด” ชายคนนั้นพูดจบก็นำหน้าเดินออกไป

“ได้ยินหรือไม่? ทีหลังเจอเขาก็เลี่ยงๆ หน่อย” ชายแซ่เหอกำชับไว้เช่นกัน แล้วจึงเดินตามคนข้างหน้า

“หึ!” ผู้หญิงคนนั้นกระทืบเท้าพลางแค่นเสียงหยันหนักๆ หันกลับไปถลึงมองเจ้าของร้านที่ยืนข้างๆ จากนั้นค่อยวิ่งตามคนข้างหน้าไป

รอจนพวกเขาไปแล้ว เจ้าของร้านก็ยิ้มๆ มองยังทิศทางที่เฟิ่งจิ่วจากไป แล้วยุ่งกับงานต่อ

…………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!