Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 790

№ 790 ไม่ทรยศแน่นอน

ไป๋เสี่ยวข้างๆ เห็นท่าทาง ก็รีบร้อนแสดงท่าที “ข้าก็เช่นกันขอรับ”

“ไปเถอะ! เข้ามาในนี้เพียงเพื่อตามหาเจ้า ตอนนี้หาพบก็ควรออกไป” เฟิ่งจิ่วยิ้มเอ่ย สาวก้าวเดินออกจากบ้านต้นไม้ แล้วเขย่งปลายเท้ากระโดดลงมาจากด้านบนทันที พร้อมพาสองคนด้านหลังเดินออกค่ายกลมายังด้านนอก

เมื่อทุกคนด้านนอกได้ยินเสียงฝีเท้า แต่ละคนหันกลับมามองไปยังทั้งสาม ขณะที่สายตาพวกเขาหยุดลงบนร่างเซี่ยงหวาคนนั้น ร่างกายก็สั่นสะท้าน ก่อนจะมองยังเฟิ่งจิ่วอย่างเหลือเชื่อ

เด็กหนุ่มคนนี้รักษาแก่นพลังที่แตกร้าวได้จริงหรือ? แรงกดดันนั้นบนร่างเซี่ยงหวาไม่เหมือนเมื่อวานที่พวกเขาเห็น เวลาเพียงวันเดียววรยุทธ์ก็พัฒนากลับมาแล้วหรือ?

เมื่อสายตาตู้ฝานหลังมองผ่านจากร่างเซี่ยงหวาก็หยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่ว ในดวงตาฉายประกายแสง เขามองคนไม่ผิดดังคาด!

ทุกคนเบื้องหน้าเปิดทางให้ทันควัน แต่ละคนถอยไปสองฝั่ง มองพวกเขาสามคนเดินไปข้างหน้า ยามนี้ตู้ฝานคารวะไปทางทุกคน บอกว่า “พี่น้องทั้งหลาย หวังว่าครั้งหน้าเราจะได้พบกันอีก” ระหว่างพูดยังเร่งฝีเท้าตามสามคนข้างหน้าไป

“พี่ใหญ่ ท่านจะตามพวกเขาไปจริงๆ หรือ?” คนหนึ่งขวางเขาไว้ เอ่ยถามอย่างโกรธเคือง

“แน่นอน ได้ออกไปและติดตามนายท่านผู้ลึกล้ำยากหยั่งรู้ ข้าจะเลือกอยู่ในนี้ได้อย่างไร?”

ตู้ฝานเผยรอยยิ้ม มองพวกเขาแต่ละคนสายตาเผยประกายชั่วร้าย ท่าทางดุร้ายกระหายเลือดมีจิตสังหารกระจายออกมา กล่าวทันทีว่า “พี่น้องทั้งหลาย ข้าแนะนำว่าพวกเจ้าอย่าต่อสู้ หากสู้กัน คนที่ตายสุดท้ายคงเป็นพวกเจ้าแน่ สู้ให้ตายก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ทำไมยังต้องเอาชีวิตมาเดิมพัน?”

แต่ละคนได้ยินคำพูดนี้ก็กัดฟันกรอด กลับไม่ได้เคลื่อนไหว ได้แต่ถลึงมองเขาเร่งฝีเท้าออกตามสามคนข้างหน้าไป และหายลับจากสายตาพวกเขา

“เจ้าบ้าเอ้ย! เขาไปทั้งแบบนี้จริงๆ ด้วย เสียแรงที่เรียกพี่ใหญ่มาตลอด ถึงตอนนี้กลับไปโดยทิ้งเราไว้ ช่างแล้งน้ำใจเสียจริง!” ชายร่างใหญ่คนหนึ่งถลึงตาเกรี้ยวกราด พร้อมส่งเสียงด่าทอไปยังร่างตู้ฝานที่จากไปเสียงดัง

“เอาล่ะ จะโกรธอะไรนักหนา? อย่าบอกเชียวว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นเจ้าจะไม่ไป? เรื่องนี้เป็นใครก็เหมือนกัน เรื่องพี่น้องจริงพี่ใหญ่ปลอมอะไรนี่ แค่แก้ขัดไปเท่านั้น หากไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในนี้ดีๆ หน่อย ใครจะไปรับเด็กอย่างเขาเป็นพี่ใหญ่?”

ทุกคนที่เคยโกรธเคืองได้ยินคำพูดนี้ก็ค่อยๆ ใจเย็นลง เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร แน่นอนว่าไม่มีอะไรน่าโมโหเลย พวกเขาล้วนเป็นคนชั่วร้ายป่าเถื่อน แล้วจะปฏิบัติกับใครสักคนอย่างจริงใจได้อย่างไร? สุดท้ายแค่หลอกใช้กันและกันเท่านั้นเอง

ส่วนอีกด้านหนึ่ง พวกเฟิ่งจิ่วเดินไปยังรอบนอก เวลาประมาณเที่ยงวัน เมื่อใกล้จะออกจากเขตอาคมแห่งนี้ เธอก็หยุดฝีเท้าลง และมองไปยังทั้งสาม

“ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว พวกเจ้าทุกคนต้องจำไว้”

ในน้ำเสียงเนิบนาบมีความเฉยชา ซ้ำยังเหมือนมีการเตือนอยู่ในนั้น “ข้าคนนี้ไม่ชอบที่สุดคือการทรยศ หากมีวันใดข้ารู้ว่าใครในหมู่พวกเจ้าหักหลังข้า เช่นนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่แค่ตายไปก็แก้ไขได้”

ไป๋เสี่ยวได้ยินคำพูดนี้ เอ่ยทันทีว่า “คุณชายโปรดวางใจ ข้าจะไม่ทรยศแน่นอนขอรับ”

“ข้าก็เช่นกัน” เซี่ยงหวากล่าวเสียงเข้ม

ตู้ฝานมองยังเฟิ่งจิ่ว บอกว่า “ชีวิตข้านี้เป็นของนายท่าน ไม่มีนายท่านก็ไม่มีข้า แม้ทรยศใครก็จะไม่ทรยศนายท่านขอรับ”

กล่าวจบราวกับกังวลว่าเฟิ่งจิ่วจะไม่เชื่อ จึงชี้ฟ้าสาบานตน “หากผิดคำสาบานนี้ ขอให้ฟ้าดินลงโทษ!”

…………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!