№ 804 หลงทางในป่าผีสิง
“พวกท่านรู้ทางไหม… ไม่เป็นไร ข้ารู้ทาง จะนำทางให้พวกท่านแล้วกัน… อ๊าก…”
คำพูดแผ่วเบาที่มีไอหนาวเย็นน่าสะพรึงเปล่งออกมา ทว่าเพิ่งกล่าวจบก็ส่งเสียงกรีดร้องรุนแรง เสียงกรีดร้องเล็กแหลมนั้นแทบจะตัดผ่านท้องฟ้ายามราตรีในชั่วขณะนั้น และทำลายซึ่งกลิ่นอายน่ากลัวภายในนี้ ทันใดนั้นราวกับมีเสียงนกตีปีกบินลอยมมาท่ามกลางค่ำคืน
ตู้ฝานกับเซี่ยงหวาสองคนร่างกายตึงเกร็ง แทบพูดได้เลยว่าตั้งแต่เหยียบเข้ามาที่นี่ทั้งสองก็ตกอยู่ในความตึงเครียดขั้นสูง
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเห็นวิญญาณสีขาวน่ากลัวแปลกๆ นั้นที่ปรากฏตัวตรงหน้าเฟิ่งจิ่วอย่างกะทันหัน ขณะที่ตกใจเสียจนใจหวั่นๆ และกำลังจะเอ่ยปากส่งเสียงตะโกน กลับเห็นเฟิ่งจิ่วพลิกฝ่ามือ แล้วเปลวไฟก็แผดเผาวิญญาณดวงนั้นหายลับไปทันตาเช่นนั้น…
เห็นภาพเช่นนี้ ทันทีที่พวกเขาโล่งใจ ยิ่งแอบๆ ตกตะลึง เพราะพวกเขาสังเกตว่าเดิมทีบนร่างนางไม่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณพุ่งพล่าน ทว่าทันใดนั้นเองบนมือกลับมีเปลวไฟหนึ่งลุกโชนในทันที พลันแผดเผาวิญญาณดวงนั้นด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าแลบ ถึงขั้นทำให้วิญญาณนั้นไม่มีแม้แต่เวลาหนี
พวกเขานึกว่าผู้หญิงมักจะเกิดกลัวภูตผี หนำซ้ำความกลัวเช่นนี้ยิ่งมาจากกระดูกดำ แทบจะเป็นสัญชาตญาณ แต่นึกไม่ถึงว่านางกลับมองวิญญาณดวงนั้นอย่างใจเย็นยิ่ง เพียงสะบัดมือก็ทำให้วิญญาณนั้นหายลับไป…
“ข้าจะเข้ามายังต้องให้เจ้ามานำทางอีกหรือ?” เฟิ่งจิ่วแค่นเสียงเย็น สะบัดมือดับเปลวไฟ แล้วก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป
สองคนด้านหลังไม่กล้าหยุดอยู่ รีบร้อนตามหลังนางไปติดๆ
ยามนี้ตู้ฝานถึงรู้ว่าวรยุทธ์ค่ายกลนายท่านยังเหนือกว่าเขา อยู่ในนี้เขายังต้องหาซ้ายวนขวาตรวจดูอย่างละเอียด นางกลับเดินตามใจชอบเช่นนั้น แต่ทุกจุดที่เหยียบกลับเป็นดวงตาค่ายกลทั้งนั้น ค่ายกลที่เคยขยับเปลี่ยนถึงตรงนี้มีเพียงทางด้านหน้าที่เปลี่ยนไป จนช่วงท้ายแทบจะเป็นเช่นถนนใหญ่เส้นตรง
คล้ายว่าเพราะเธอสะบัดมือทำลายวิญญาณดวงหนึ่ง ระหว่างทางต่อจากนั้น นอกจากเสียงแปลกๆ พวกนั้นที่ลอยมากลางค่ำคืน ก็ไม่มีวิญญาณโผล่มาข้างกายพวกเขาอีก แม้แต่เสียงฝีเท้าก่อนหน้าพวกนั้นยังไม่ปรากฏ
กระทั่งพวกเขาเดินออกจากค่ายกลหลงทางนั้น มาถึงด้านในสิ่งที่เห็นกลับยังคงเป็นผืนหมอกที่กระจายไปท่ามกลางความมืดมิด แต่ภายในหมอกเหล่านี้ยังมีดวงไฟวิญญาณสีฟ้าอ่อนลอยละล่องรางๆ
ไม่รู้พวกเขาตาฝาดหรือเปล่า เซี่ยงหวากับตู้ฝานเพียงเห็นว่าภายในค่ำคืนมืดมิด ไม่ว่าท้องฟ้าหรือผืนดิน บนต้นไม้หรือภายในพุ่มหญ้า ล้วนมี… ผีแต่ละตนเป็นเงาตะคุ่มๆ!
จำนวนที่มากมายนั้นทำให้พวกเขาสูดลมหายใจเสียดื้อๆ
เฟิ่งจิ่วตรงหน้ากวาดมองรอบๆ อย่างเย็นชา วิญญาณเหล่านั้นล้วนอยู่ในสายตา เสียงร้องวุ่นวายเบาๆ พวกนั้นกึกก้องไปกลางอากาศ ตามสายลมกลางคืนที่ล่องลอยไป
เวลานี้เอง หมอกผืนตรงหน้านั้นราวกับถูกเปิดออก และเก็บไปยังสองฝั่งเสียเอง เผยให้เห็นถนนเส้นเล็กที่คดเคี้ยว คนชุดดำที่สวมผ้าเสื้อสีดำปรากฏตัวบนเส้นทางนั้น เงยหน้าเล็กน้อยมองมายังเฟิ่งจิ่ว
“เชิญเข้าไปได้ขอรับ” คนคนนั้นหันข้างเล็กน้อย พร้อมทำท่ามือเชื้อเชิญ
วันนั้นไม่ได้พินิจมองโดยละเอียด ยามนี้เห็นอีกครั้ง เฟิ่งจิ่วถึงจะพบว่าคนชุดดำดังกล่าวคนนี้จริงๆ เป็นวิญญาณผู้ฝึกตน
ในเมื่อเป็นวิญญาณผู้ฝึกตน ก็อธิบายได้ว่าทำไมวันนั้นเขาถึงปรากฏตัวบริเวณไม่ไกลจากพวกเขาอย่างไร้กลิ่นไร้เสียงได้โดยไม่ทันสังเกต
…………………