Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 830

№ 830 กลับบ้านฉลองปีใหม่

เขารู้สึกถึงสายตาที่พินิจมองถึงได้ตื่นขึ้นมา ครั้นลืมตาก็สบเข้ากับแววตาของเฟิ่งจิ่วที่วาบไหวเล็กน้อย เห็นเธอมองมาก็มองเธอโดยไม่ขยับเขยื้อนเช่นกัน

ขณะดวงตาสบประสาน คล้ายว่ามีอะไรบางอย่างแวบผ่านในก้นบึ้งหัวใจของเฟิ่งจิ่ว ความรู้สึกคุ้นเคย ความคิดที่น่าเหลือเชื่อ ทำให้ร่างกายเธอนิ่งค้างไปหมด เธอจ้องมองเขาเนิ่นนาน ก่อนริมฝีปากขยับเรียก “ท่านอา?”

แววตาของเด็กชายสั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่ตอบกลับ ยังคงทำแค่ใช้ดวงตาดำสนิทนั้นมองเธอ

“เซวียนหยวนโม่เจ๋อ?” เธอขานเรียกอีกครั้ง สายตาจับจ้องดวงตาเขา ไม่พลาดจากสีหน้าอารมณ์ของเขา

เด็กน้อยขยับปากเหมือนกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง ก็ได้ยินเสียงพูดกับตัวเองดังมา จึงกลืนคำพูดในปากกลับไปเสียอย่างนั้น

“คงเป็นไปไม่ได้หรอก เปลี่ยนเป็นคนแก่ก็เรื่องหนึ่ง แต่จะกลายเป็นเด็กน้อยไปได้อย่างไร?” เฟิ่งจิ่วงึมงำ เก็บกดความรู้สึกประหลาดในใจไว้ สะบัดความคิดแปลกๆ นั้นไป ก่อนจะพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วสวมเสื้อผ้าไปล้างหน้าบ้วนปากที่ห้องแยกอย่างรวดเร็ว

เด็กชายเห็นเฟิ่งจิ่วลุกจากเตียง มือหนึ่งก็เท้าศีรษะนอนตะแคงอยู่บนเตียงเช่นนั้น ทั้งร่างดูเกียจคร้าน แผ่กระจายกลิ่นอายที่ไม่ใช่ของเด็กน้อยออกมา ดวงตาดำสนิทในยามนี้ฉายแววยิ้ม เพียงแต่เฟิ่งจิ่วไม่เห็น

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม สองคนต่างล้างหน้าบ้วนปากกันเรียบร้อย เฟิ่งจิ่วไปบอกลาพวกเจ้าสำนักที่ยอดเขาหลักก่อน ถึงจะกลับอาศรมไปบอกสองสัตว์อสูรว่า “เหล่าไป๋อยู่เฝ้าอาศรมกับเสี่ยวเฮย กลืนเมฆากลับไปด้วยกัน”

“นายท่าน ทำไมอสูรกลืนเมฆาถึงได้ตามท่านออกไป? ข้าก็อยากออกไปด้วยนะขอรับ” เหล่าไป๋กระทืบกีบม้า พร้อมพ่นลมหายใจด้วยท่าทางไม่พอใจ

“จะทำไมเสียอีก ตัวเจ้าเองยังหุบปากไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าตามไปได้หรือ?” เฟิ่งจิ่วชายตามองมัน “ยิ่งไปกว่านั้น ข้าคิดจะให้กลืนเมฆาช่วยดูยมราชน้อย ยกให้เจ้าข้าไม่ค่อยวางใจนัก”

“นายท่าน…” มันยังอยากพูดอะไรอีก ก็ถูกเฟิ่งจิ่วโบกมือตัดบท

“เอาละ พวกเรากลับไปแค่ไม่กี่เดือน ถึงเวลานั้นยังต้องกลับมาอีก ไม่อย่างนั้นหากเจ้าอยากตามกลับไปก็ย่อมได้ ตอนนั้นอยู่ในบ้านไปแล้วกัน”

“เช่นนั้นข้าจะรอพวกนายท่านกลับมาอยู่ที่นี่แล้วกัน! ข้าไม่อยากกลับราชวงศ์เฟิ่งหวง” มันกล่าว กลัวว่านายท่านจะพามันกลับไปทิ้งไว้จริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วหมอบลงบนพื้นทันที

ทว่าเฟิ่งจิ่วลูบๆ คาง เหมือนเพิ่งคิดอะไรได้ เอ่ยขึ้นว่า “มิเช่นนั้น เจ้าก็ตามไปด้วยกันเถอะ! ถึงตอนนั้นจะส่งเจ้าไปหาเสี่ยวไป๋ ครั้งก่อนได้ยินว่าเหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาก็ตามมาด้วย จะไปดูสักหน่อยพอดี”

“จริงหรือ? ข้าไปๆ” มันลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้นดีใจ จากนั้นเข้ามาโน้มตัวลงเบื้องหน้าเฟิ่งจิ่วกับยมราชน้อย “ขึ้นมาๆ ข้าจะพาพวกท่านไปเร็วหน่อย”

“เส้นทางในนี้เลี้ยวลดคดเคี้ยว เจ้ากับกลืนเมฆาไปรอตรงประตูสำนักก่อน ข้าจะพาเด็กน้อยนี่นั่งขนนกไป”

“ขอรับ” สองสัตว์อสูรขานรับ

หลังเห็นสองสัตว์อสูรออกไปแล้ว เธอถึงจะมองเด็กน้อยข้างกายที่ตลอดมายังไม่พูดอะไร ถามไปว่า “เจ้าเงียบเช่นนี้ตลอดหรือ ได้ยินว่าจะพาเจ้าออกไปเที่ยวเล่นไม่ดีใจหรือไร?”

ยมราชน้อยมุมปากกระตุก แล้วหันหน้าไปทางอื่น

“เอาเถอะ!” เฟิ่งจิ่วส่ายหน้าอย่างจนใจ โยนขนนกบินออกไปก่อนจะพาเขาขึ้นนั่ง และมุ่งหน้าไปยังประตูสำนัก

เมื่อมาถึงประตูสำนัก เธอลงมาจากบนขนนกบิน ขณะกำลังจะพายมราชน้อยกระโดดขึ้นหลังเหล่าไป๋ ก็เห็นร่างหนึ่งเดินออกมา เดิมทีเธอไม่อยากสนใจ ใครจะรู้ว่าหลังจากเธอกับเด็กน้อยขึ้นม้า เขากลับเข้ามาขวางด้านหน้าม้าไว้

“เจ้าจะกลับบ้านรึ? หรือว่าไปไหน?”

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!