№ 834 ต้องใช้คืนไม่ช้าก็เร็ว
เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาเร่งฝีเท้าวิ่งเข้ามา ไม่ได้เจอนายท่านตั้งนาน ทั้งสองคนเห็นนางแล้วล้วนสุขใจยิ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติที่ไม่อาจปิดบัง
เมื่อเฟิ่งจิ่วเห็นคนทั้งสอง สายตากวาดมองบนร่างพวกเขา จากนั้นค่อยพยักหน้า “วรยุทธ์ของเหลิ่งซวงก้าวหน้าแล้ว เหลิ่งหวาดูไปแล้วร่างกายไม่เลว ไม่รู้ว่าช่วงนี้เจ้าฝึกไทเก๊กเป็นอย่างไรบ้าง?”
“นายท่าน ไทเก๊กข้าพัฒนาขึ้นมาก ข้าฝึกฝนทุกวัน ไม่เชื่อนายท่านลองเชิงข้าได้” เหลิ่งหวายิ้มเอ่ย สายตาหยุดมองที่ยมราชน้อย “เอ๋? เด็กคนนี้เป็นใครกันขอรับ หน้าตางดงามจริงๆ แต่ทำไมดูเหมือนจะคุ้นตาหน่อยๆ?”
ยมราชน้อยชายตามองเขา ก่อนละสายตาออกไปอย่างเย็นชา ไม่ไปสนใจเขาอีก
“เขาบอกว่าชื่อยมราชน้อย ตามติดข้าทั้งวัน บอกว่าเป็นน้องชายของเจ้าตำหนักยมราช” เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเด็กน้อยข้างกาย เห็นว่าเขาไม่กลัว ใบหน้าเล็กประณีตยังเรียบนิ่ง เหมือนอะไรก็ทำให้เขาอยากรู้อยากเห็นและตื่นเต้นไม่ได้
“ยมราชน้อย?” เหลิ่งหวาอึ้งไปสักพัก จากนั้นถึงยิ้มเอ่ย “ข้าพาเจ้าไปเดินเล่นรอบๆ เป็นอย่างไร?”
“อย่ามาทำเหมือนข้าเป็นเด็กน้อย อีกอย่าง ทิ้งชื่อเล่นนั้นไปซะ ยมราชน้อยไม่ใช่ชื่อที่เจ้าจะเรียกได้”
เด็กน้อยกล่าวอย่างเย็นชา เพียงแต่น้ำเสียงไร้เดียงสาประกอบกับใบหน้าเล็กที่บึ้งตึง จึงเอ่ยเตือนไม่ได้ผลเลย ตรงกันข้ามท่าทางเล็กๆ นั้นทำให้เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วยื่นมือไปหยิกแก้มเขาอย่างทนไม่ได้
พอถูกเธอหยิกหน้าต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้ ใบหูเขาแดงก่ำ พร้อมถลึงมองเธออย่างโกรธเคืองปนเขินอาย “อย่าหยิกมั่วสิ คนมองตั้งมากมายเพียงนี้!”
“ฮ่าๆๆๆๆ…”
เฟิ่งจิ่วส่งเสียงหัวเราะร่าออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เห็นว่าท่าทางหยิ่งยโสนั้นช่างน่ารักนัก ก็ยื่นมืออุ้มเด็กตัวน้อยๆ ขึ้นมาทันที แล้วจึงเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่เพียงหยิกหน้าเจ้า ข้ายังจะหอมเจ้าด้วย เป็นอย่างไร?” ระหว่างพูดยังหอมแก้มเขาดังฟอดไปหนึ่งที ไม่ให้เวลาเขาตอบโต้เลย
ยมราชน้อยนิ่งอึ้งไป สีแดงบนใบหูกระจายไปถึงบนหน้าและลำคอ นิ่งมองเฟิ่งจิ่วราวกับนึกไม่ถึงว่านางจะกล้าหอมแก้มเขาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้ ตอบสนองไม่ได้ไปชั่วขณะหนึ่ง
จนกระทั่งเสียงหัวเราะของทุกคนดังขึ้น เขาถึงจะได้สติกลับมา ทว่าไม่ได้โกรธเคือง กลับเอาสองแขนกอดอกแค่นเสียงฮึ “หอมไปเถอะ! อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องใช้คืนไม่ช้าก็เร็ว” เขากล่าวอย่างมีความนัยแฝง
ผู้หญิงคนนี้ เขาไม่รู้เลยว่านางใจกล้าขนาดนี้ ต่อหน้าคนอื่นยังกล้าทำอะไรซี้ซั้ว เห็นว่าน่ารักก็ชอบใจดังคาดไว้ ความจริงจังก่อนหน้านี้ล้วนเสแสร้งทำ นางต้องคิดอะไรกับเขามานานมากแล้วแน่ๆ
เมื่อก่อนเขาน่าจะให้โอกาสนี้กับนาง
“เจ้าก็เสแสร้งไปเถอะ!” เฟิ่งจิ่วหลุดหัวเราะแล้วเอ่ย กำลังจะอุ้มเขาส่งให้เหลิ่งหวา ใครจะรู้ว่าเด็กน้อยกลับกอดคอเธอไว้แน่น “ข้าไม่ให้คนอื่นแตะต้องข้า!”
เฟิ่งจิ่วได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจ ยิ้มพูดว่า “ทำไมรึ เจ้าก็รักสะอาดด้วยหรือ? เรื่องดีๆ ไม่เรียน เลียนอย่างมาแต่ข้อเสียแย่ๆ จากพี่ชายเจ้า”
ยมราชน้อยหันหน้าไปทางอื่น ซบลงบนไหล่เธอไม่พูดไม่จา
“นายท่าน เตรียมเรือนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ!” เหลิ่งซวงเอ่ย ครั้นเห็นเด็กน้อยไม่ให้คนอื่นอุ้มก็ได้แต่ตามอยู่ข้างๆ
“ดี เข้าไปก่อนค่อยว่ากัน” เธอขานรับ ก่อนเดินเข้าไปพร้อมกันกับพวกเขา พินิจมองทิวทัศน์ภายในคฤหาสน์นี้พลางถามว่า “ตู้ฝาน เจ้าหาที่นี่เจอได้อย่างไร?”
ตู้ฝานที่ตามอยู่ข้างๆ ตอบกลับว่า “เรียนนายท่าน ก่อนหน้านี้ข้าน้อยเคยเข้ามา รู้ว่าที่นี่ปล่อยขายและว่างมาตลอด เมื่อกลับมาจึงสอบถามเจ้าของคฤหาสน์ แล้วซื้อมาจากมือเขาขอรับ”
…………………………