№ 853 ทำไมเจ้าโตเร็วเพียงนี้?
เฟิ่งจิ่วชายตามองเขา “ไม่ได้ก็ต้องได้!”
“ข้าไม่ยอม!”
“ความไม่ยินยอมของเจ้าเป็นโมฆะ” หากเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นวันนี้อีก เธอก็ไม่รู้ว่าจะจบดีได้อย่างไร
ยมราชน้อยมองนาง รู้ว่านางชอบให้ใช้ไม้อ่อน ดังนั้นจึงผ่อนเสียงลงและกล่าวว่า “ครั้งหน้าข้าจะระวังหน่อย ไม่ลื่นล้มหรอก อุบัติเหตุเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก หนำซ้ำข้าดูแลตัวเองดีๆ ได้”
เขาไม่ใช่เด็กน้อยจริงๆ จะดูแลตัวเองไม่ดีได้อย่างไร? หากไม่ใช่จู่ๆ นางก็ตะโกนอยู่ด้านนอกว่าจะเข้ามา ตอนนั้นคงไม่ลื่นล้มเพราะกำลังก้าวออกจากอ่างน้ำ ซ้ำยังหัวทิ่มกลับไปอีก
เฟิ่งจิ่วหรี่ตา “ไม่ให้ข้าช่วยเจ้าอาบ?”
“อืม” เขาพยักหน้าหนักๆ ใบหน้าเล็กงดงามเต็มไปด้วยความจริงจัง
ร่างเล็กๆ นี่ให้นางเห็นได้หรือ? คำตอบคือไม่ได้
“เช่นนั้นก็ได้ ข้าหาคนอื่นมาช่วยเจ้าอาบก็เหมือนกัน” เฟิ่งจิ่วกล่าวอย่างใจเย็น ไม่แปลกใจที่เห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไป กัดฟันกรอดถลึงมองเธอ สุดท้ายก็ยอมประนีประนอมในที่สุด
“ได้! เจ้าจะอาบให้ก็อาบ!” ผู้หญิงคนนี้ รู้แก่ใจว่าเขาเกลียดการให้คนอื่นเข้าใกล้เป็นที่สุด นึกไม่ถึงว่ายังจะหาคนมาอาบน้ำให้เขาอีก? นี่คิดจะไม่ให้ทางหนีเขาเลยสินะ
ยามนี้เขาอดคิดไม่ได้ว่า การมาหาโดยอาศัยช่วงที่วรยุทธ์ยังไม่ฟื้นคืนนี้ถูกต้องหรือไม่กันแน่? ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองที่ร่างกายหดเล็กลงมาอยู่กับนางที่นี่ก็ไม่มีอำนาจเลย แม้จะคัดค้านยังเปล่าประโยชน์
“นี่สิถึงจะเป็นเด็กดี” เฟิ่งจิ่วดึงเขาเข้ามาลูบๆ หัว “เป็นเด็กดีว่าง่ายข้าจะไม่ตีเจ้า”
ผิวหน้าเขาสั่นเทิ้ม มุมปากกระตุก มองค้อนนางแวบหนึ่งแล้วก็ละสายตาไปอย่างหมดคำพูด
“เอ๊ะ? ทำไมเหมือนเจ้าจะสูงขึ้นแล้ว?” ลากเขามาข้างกาย โอบไว้ในอ้อมแขน จู่ๆ เฟิ่งจิ่วที่ลูบหัวเขาก็พบว่าไม่เจอกันครึ่งเดือน เด็กคนนี้เหมือนจะสูงขึ้นไม่น้อยเลย
เธอดันเขาออกไปหนึ่งก้าว พินิจมองหัวจรดเท้าและเปรียบเทียบกัน ก่อนจะมองเขาอย่างแปลกใจ “สูงขึ้นจริงๆ ด้วย เดิมทีเป็นเช่นเด็กน้อยอายุสามสี่ขวบ ตอนนี้ดูจะสูงเท่าเด็กอายุห้าหกขวบแล้ว หลายวันมานี้เจ้ากินอะไร? ทำไมถึงโตเร็วเพียงนี้?”
เขาได้ยินคำพูดนี้ก็ก้มหน้ามองตัวเอง ไม่ได้พูดอะไร แน่นอนว่าโตขึ้นนิดหน่อย เพราะครึ่งเดือนนี้เขาฝึกบำเพ็ญตลอด ขอแค่วรยุทธ์ที่สูญเสียไปฟื้นคืนกลับมา เขาก็จะเปลี่ยนกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน
แต่คำพูดนางกลับเตือนสติเขา หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาจะฟื้นสภาพเร็วเกินไป หนึ่งหรือสองครั้งนางอาจจะไม่คิดไปด้านนั้น แต่ถ้านานไปก็ไม่แน่
หากก่อนหน้าไม่เกิดเรื่องน่าอายมากมายเพียงนี้ต่อหน้านางยังดี บอกนางก็แค่บอกไป แต่ตอนนี้เขาจะเอ่ยปากบอกนางอย่างไร? เขากล้ามั่นใจว่าเพียงเอ่ยปากไปคราวนี้ ภายหน้าจะไม่เหลือความน่าเกรงขามแล้วจริงๆ
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่างไรก็ให้นางรู้ไม่ได้ หนำซ้ำสถานการณ์เป็นเช่นนี้เกรงว่าต้องจากไปก่อนเวลาเสียแล้ว
“คิดอะไรน่ะ ข้าถามเจ้าอยู่ ช่วงนี้เจ้ากินอะไรบ้าง? ไม่ได้กินยาอะไรมั่วซั่วกระมัง?” ระหว่างถามนางยื่นมือไปจับชีพจรเขาตามปกติ กลับไม่พบว่าร่างกายเขามีตรงไหนผิดปกติ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ
ครึ่งเดือนเท่านั้นเอง ทำไมถึงโตเร็วเพียงนี้?
“แค่ก!”
เขาไอเบาๆ ใบหน้าเล็กงดงามปั้นหน้านิ่ง บอกว่า “ข้าเหมือนพี่ชาย ตอนเด็กๆ ก็โตเร็วกว่าคนอื่น ไม่มีอะไรน่าแปลก”
ตอนพูดยังชำเลืองมองนาง ก่อนกล่าวด้วยความจริงจัง “ข้าเป็นผู้ชาย ทีหลังเจ้าจะตี…ข้าเช่นนี้อีกไม่ได้ แค่ก!” เมื่อคำว่าก้นมาถึงปากก็รู้สึกว่าพูดยากนัก
……………………………….