№ 861 รอยยิ้มเป็นมิตร
พวกเฟิ่งจิ่วสามคนมาถึงที่นี่ สิ่งที่ใช้กลับไม่ใช่ฐานะระดับยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นเอกสารอนุญาตผ่านทางสามใบที่ได้มาจากตลาดมืด แต่แม้เป็นเช่นนี้คนของแคว้นอื่นก็ต้องจ่ายเงิน
เข้าแถวไปข้างหน้ายังมีประมาณยี่สิบกว่าคน เฟิ่งจิ่วยืนตรงกลาง ด้านหน้าคือเหลิ่งหวา ด้านหลังเป็นเหลิ่งซวง ส่วนอสูรกลืนเมฆาตามอยู่ข้างขาเธอ ใบหน้าทั้งสามโดดเด่นยิ่งนัก แค่ปรากฏตัวที่นี่ก็ดึงดูดสายตาพินิจมองจากคนอื่นไม่น้อย
โดยเฉพาะผู้ฝึกตนชายคนหนึ่งที่ยืนด้านหลังเหลิ่งซวง เห็นสาวน้อยข้างหน้าสวมชุดสีดำรูปร่างเร่าร้อนประณีต ใบหน้าด้านข้างงดงามน่าตะลึง ดวงตาคู่นั้นมีประกายหื่นกามเที่ยวเล่นไปบนร่างนางอย่างอดไม่ได้ อาศัยฝูงชนที่เข้าแถวด้านหลังเบียดผลัก ชนไปทางเหลิ่งซวงที่เข้าแถวข้างหน้าเล็กน้อย
ชายคนด้านหลังชนเข้ามา เหลิ่งซวงหันกลับไปมองด้วยใบหน้าเย็นเยียบ
“ขออภัยด้วยๆ ด้านหลังเบียดผลักมาจนชนแม่นางเสียแล้ว” ชายผู้ฝึกตนคนนั้นกล่าวอย่างขออภัย แต่ดวงตากลับยังคงนิ่งจ้องรูปโฉมที่งดงามน่าตะลึง
เหลิ่งซวงเห็นเช่นนี้ก็ละสายตาออกไป ไม่ไปสนใจเขา แล้วต่อแถวจะเข้าเมือง ไม่อยากสร้างปัญหาตรงนี้
ชายคนนั้นเห็นท่าทาง แววตาสั่นไหวในทันที เห็นนางไม่ได้โวยวาย ใบหน้าที่เย็นชาดุจสาวงามภูเขาน้ำแข็งเพียงกวาดมองเขาอย่างกล่าวเตือน หัวใจอดไม่ได้ที่จะคันๆ และคิดมิดีมิร้ายขึ้นมาอีก
ครั้งนี้เขาคิดจะสบโอกาสเข้าไปสัมผัสสักหน่อย
ทว่าความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้น ก็ได้ยินน้ำเสียงเกียจคร้านลอยมา ทำให้เขาตกใจเสียจนเก็บมือไว้และหยุดความบ้ากามในใจ
“ครั้งก่อนชายบ้ากามคนนั้นที่เอาเปรียบเจ้าอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ ถูกเจ้าตัดมือ? หรือว่าทำลายน้องชายเขา?” เฟิ่งจิ่วหันกลับไปถามเหลิ่งซซง แต่ดวงตาคู่นั้นที่หรี่ลงยิ้มกลับจ้องมองชายด้านหลังเหลิ่งซวงอย่างเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม
“มือโดนตัด น้องชายก็ใช้การไม่ได้ แม้แต่ดวงตายังถูกข้าล้วงออกมาเลยเจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงกล่าว น้ำเสียงเย็นชาไม่เบาไม่ดัง พวกคนรอบข้างกลับได้ยินกันหมด
ทันใดนั้นสายตาแต่ละคนต่างหยุดลงบนร่างพวกเขา บางคนกวาดมองชายผู้ฝึกตนที่สีหน้าซีดเล็กน้อยราวกับชมละครปาหี่ หัวเราะเยาะ และรู้ว่าผู้ชายคนนี้เตะโดนของแข็งเข้าแล้ว
สามคนนั้นเพียงเห็นท่าทางรอบข้างไม่เหมือนเดิม หนุ่มน้อยชุดแดงตรงกลางนั้น แม้อายุยังน้อยกลับงดงามไร้คนเทียบ แพรวพราวจับตาเสียจนทำให้คนไม่อาจเคลื่อนสายตา แล้วมองชายหญิงสองคนนั้นด้านหน้าด้านหลังเขา
ผู้ชายท่าทางอ่อนโยนดังสายน้ำ กลับไม่ใช่สิ่งที่ทหารอารักขาทั่วไปพึงมี ส่วนสาวน้อยชุดดำคนฉลาดแค่มองยังเห็นไอสังหารได้ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนั้นยังคิดจะเอาเปรียบนางโดยไม่รู้ที่ตาย นางไม่คร่าชีวิตเขาเสียตรงนี้ยังนับว่าดีแล้ว
ได้ยินคำพูดพวกเขา แล้วเห็นสายตาราวกับชมละครจากทุกคนรอบข้าง หนังศีรษะชายคนนั้นด้านชา ถอยหลังไปเล็กน้อยสองก้าวอย่างอดไม่ได้ รักษาระยะห่างกับสาวน้อยชุดดำตรงหน้าอย่างรู้ดี ดวงตาไม่กล้ามองไปบนร่างนางอีก แต่ก้มหน้ามองพื้น
“ครั้งหน้าหากเจอคนไม่ดูตาม้าตาเรือเช่นนั้น ก็ถลกหนังเขาเสียทันที อย่างไรซะคนเช่นนั้นก็ไร้ยางอาย” เฟิ่งจิ่วเอ่ยคำพูดโหดร้ายกระหายเลือดอย่างวางมาดจริงจัง
คำพูดเช่นนี้ได้ยินถึงหูพวกผู้ฝึกตนล้วนรู้สึกตกตะลึงไปบ้าง ได้ยินถึงหูเหล่าชาวบ้าน ผลลัพธ์นั้นยิ่งแตกต่าง ชาวบ้านที่ได้ยินคำพูดพวกเขาทางนี้พากันมองพวกเขาอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะเลี่ยงออกไปห่างๆ
เธอเห็นเช่นนี้ก็เผยรอยยิ้มไร้พิษสงและบริสุทธิ์ และส่งยิ้มเป็นมิตรให้ทุกคนรอบข้าง
…………………………