№ 864 คนที่ปล้นของ
“เจ้าดูไม่เหมือนคนขาดเงิน จะเรียนทำของปลอมไปทำไม?” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ
“เจ้าแค่ต้องรับผิดชอบสอน ไม่จำเป็นต้องรู้”
“แต่ทำของปลอมซับซ้อนมาก ไม่ใช่ว่าพูดสองสามประโยคก็เข้าใจ” เขามีสีหน้าลำบากใจ “หนำซ้ำข้ายังไม่มีเวลามาสอนเจ้าตลอด”
เฟิ่งจิ่วเลิกคิ้วขึ้น กล่าวว่า “เจ้าแค่ต้องทำให้ข้าดูครั้งเดียวเป็นพอ”
ชายผู้ฝึกตนเห็นว่าถอนตัวไม่ได้แล้ว ก็ถอนหายใจในทันที หยิบสมุนไพรต้นหนึ่งออกมาจากในถุงอย่างยอมรับชะตากรรม พลางบอกว่า “เช่นนั้นเจ้าดู ข้าจะทำแค่ครั้งเดียว เรียนได้ไม่ได้นั่นเป็นเรื่องของเจ้า จะรั้งข้าไว้ไม่ปล่อยไม่ได้”
เสียงชะงักไป พร้อมเอ่ยว่า “ของปลอมนี้เป็นยาทิพย์เช่นกัน คนกินได้ไม่ตาย สรรพคุณจะไม่ค่อยเหมือน เจ้าดูโสมภูเขาโบราณชิ้นนี้ แค่ใช้หัวไชเท้าขาวมาทำ เช่นนี้ก่อน…”
เพราะในถุงฟ้าดินเขามีของหลายอย่างจึงทำได้สะดวก อธิบายให้เฟิ่งจิ่วฟังพลางขยับมือทำไป แค่ครึ่งชั่วยามกว่า โสมภูเขาโบราณชิ้นหนึ่งก็ทำเสร็จ
“เพื่อให้สมจริงจะป้ายโคลนด้านบนอีกหน่อยยังได้ ส่วนสมุนไพรอื่นๆ ต้องเลือกใช้สิ่งที่คล้ายกัน เช่นนี้ถึงทำได้สะดวก”
“โสมภูเขาโบราณนั้นข้ารู้แล้ว อย่างอื่นเล่า?” เธอถามไถ่ แล้วรับโสมภูเขาโบราณปลอมมาดู คนที่พื้นฐานไม่เชี่ยวชาญยังโดนหลอกกันได้ง่ายมากจริงๆ
เธอเคยเห็นทำของปลอมมาไม่น้อย แต่คนคนนี้ทำได้สมจริงที่สุด เรียนงานฝีมือเช่นนี้ไว้ ไม่แน่ว่าวันใดยังมีประโยชน์
คนคนนั้นได้ยินคำพูดนี้ ก็กอดยาทิพย์ปลอมห่อนั้นถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองเฟิ่งจิ่วด้วยความระแวดระวัง “เจ้าเพิ่งบอกว่าทำแค่ครั้งเดียว”
“ใช่สิ!” เธอพยักหน้า ยิ้มราวกับจิ้งจอกตัวหนึ่ง “แต่โสมภูเขาโบราณข้าดูเข้าใจแล้ว แต่อย่างอื่นยังไม่เข้าใจเลย! หนำซ้ำของเช่นนี้ เจ้าคงจะมีตำราด้วยกระมัง?”
“จะ เจ้าอย่าหวังว่าจะได้ตำราข้า!” สิ้นเสียงเขา ก็เห็นหนุ่มน้อยชุดแดงพลันมายังเบื้องหน้า
“แต่เจ้ามาหาเรื่องข้า ของเล็กน้อยเช่นนี้คิดจะไล่ข้าไป? ไหนเลยจะง่ายดายเพียงนั้น!”
เห็นรอยยิ้มแปลกๆ จากหนุ่มน้อย หนังศีรษะเขาด้านชา ในใจเสียใจไม่สิ้นสุด หากรู้ตั้งแต่แรกว่าหนุ่มน้อยยากจะหาเรื่องเช่นนี้คงไม่เข้าไปใกล้
“เจ้าจะหยิบเอง? หรือให้ข้าลงมือ?” เฟิ่งจิ่วเอ่ยถาม ไม่มีความละอายใจที่ปล้นของคนอื่นแม้แต่น้อย
ตลอดมาใครทำเช่นไรกับเธอ ก็จะทำเช่นนั้นกับเขา เขากล้าถือยาทิพย์ปลอมมาหลอกเธอ คิดจะเอาเปรียบเธอ แน่นอนว่าต้องทำให้เขาเลือดออกเสียหน่อย
“เจ้าจำไว้เถอะ!” เขากัดฟันกรอด แล้วหยิบตำราออกมาให้เฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วรับมาอ่านสักพัก ก่อนจะพยักหน้า “อืม ไม่เลว บันทึกได้ชัดเจนกว่าที่เจ้าพูดเสียอีก ได้ อย่าหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้า เหลิ่งหวา ให้เหรียญเงินเขาร้อนหนึ่งถือว่าข้าซื้องานฝีมือชิ้นนี้”
“ขอรับ” เหลิ่งหวาขานรับ พร้อมหยิบเหรียญเงินร้อยหนึ่งให้คนคนนั้น
มุมปากคนคนนั้นกระตุก เหรียญเงินร้อยหนึ่ง? นั่นเป็นความสามารถใช้ทำมาหากิน นึกไม่ถึงว่าจะราคาแค่หนึ่งร้อยเหรียญเงิน? เขากัดฟันกรอดและรับเงินมา ไม่เก็บก็เสียไปเปล่าๆ แม้จะน้อยยังดีกว่าไม่มี
ชายผู้ฝึกตนที่หยิบเหรียญเงินไปเก็บข้าวของในทันที แล้วหนีไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยความรวดเร็ว คล้ายกลัวว่าเฟิ่งจิ่วจะเกิดความคิดชั่ววูบมาเอาอะไรจากเขาไปอีก
“นายท่าน สมุนไพรปลอมเช่นนี้ใช้ไม่ได้ จะเรียนไปทำไมขอรับ” เหลิ่งหวาถามอย่างไม่เข้าใจ
“ใครจะรู้เล่า! ภายหน้าอาจมีวันไหนจำเป็นจริงๆ ก็ยังไม่แน่” เธอยิ้มกล่าว เก็บตำราไปและก้าวมุ่งไปยังโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่ง
……………………