Skip to content

เมษาที่รัก 6

Chapter 6 สัมภาษณ์งาน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” มาร์คัสยื่นมือไปทักทายทั้งกลุ่ม แต่พอจับมือเมษา เขากลับอ้อยอิ่งไม่ยอมปล่อยมือจนเมษาต้องดึงมือออกเอง

สาวๆ ในกลุ่มส่งสายตาให้กันเป็นสัญญาณ  แล้วก็กระซิบกันเป็นภาษาไทยว่า “นายนี่ปิ๊งไอ้เมแน่ๆ เลยอ่ะ”

มาร์คัสชวนสาวๆ คุยอย่างคล่องปาก เหมือนหนุ่มที่เจนจัดเรื่องสาวๆ

หนุ่มๆ คนอื่นก็แวะเข้ามาชวนสาวๆ ไปเต้นด้วย พอที่นั่งข้างเมษาว่างมาร์คัสก็เขยิบไปนั่งข้างๆ ทันที

“เพื่อนๆ คุณน่ารักทุกคนเลย” เขาชวนคุย

“อ่อ…ค่ะ” เมษาพยักหน้าตอบ

“เต้นกับผมซักเพลงได้ไหม?” มาร์คัสชวน

เมษาส่ายหน้า “ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากเต้น”

“พลีสสส ซักเพลงนะครับ” มาร์คัสคะยั้นคะยอ

“ไปเถอะเม มาเที่ยวนะไม่ได้มานั่งเฝ้าโต๊ะ” แจนช่วยเชียร์อีกแรง

“พลีสสสส” มาร์คัสชวนอีก

“ไม่ล่ะ ฉันขี้เกียจ” เมษาบอกพร้อมกับยิ้มให้เขา

มาร์คัสยิ้มตอบยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ สายตาก็มองหญิงสาวไม่วางตา

“เพื่อนคุณนั่งคนเดียวเหงาแย่ ชวนมานั่งกับพวกเราก็ได้นะคะ” แน็ทบอกอย่างมีน้ำใจ แล้วก็หันไปเรียกหนุ่มหล่อ “นี่คุณ มานั่งกับพวกเราซิ”

โอเวนรีบตะครุบโอกาส “ขอบคุณครับ” เขารีบย้ายอาหารเครื่องดื่มไปร่วมโต๊ะด้วย

จากนั้นสองหนุ่มก็ชวนสาวๆ คุยไปดื่มไปอย่างสนุกสนาน มีเพียงเมษาที่นั่งฟังคนอื่นคุยกัน ยกแก้วพั้นซ์จิบไปเรื่อยๆ

มาร์คัสชวนสาวๆ ทั้งกลุ่มคุยไปดื่มไป จนสาวๆ เริ่มมึน

“ขอตัวแป๊บนะ” เมษาลุกไปเข้าห้องน้ำรู้สึกมึนหัวหน่อยๆ

มาร์คัสก็ขอตัวไปอย่างเนียนๆ เขาตามไปยืนดักรอหน้าห้องน้ำ

เมษาเดินออกมาจากห้องน้ำ มาร์คัสก็ปาดเข้าไปทันที “ผมอยากคุยกับคุณสักหน่อย ออกไปคุยกันข้างนอกได้ไหมครับ?”

เมษาเห็นท่าทางเขาสุภาพอีกอย่างข้างนอกก็มีคนอยู่เยอะแยะ ไม่น่าจะมีอันตรายอะไรจึงพยักหน้า “โอเค”

มาร์คัสเดินนำหน้าออกไปนอกผับ เมษาเดินตามไป

พอออกไปข้างนอกแล้ว มาร์คัสก็พูดว่า “เพื่อนคุณบอกว่าคุณเพิ่งลาออกจากงาน คุณกำลังหางาน พอดีว่าที่บริษัทผมกำลังรับสมัครเลขา ถ้าคุณสนใจก็ลองไปสมัครดูนะครับ นี่ครับนามบัตร” เขายื่นนามบัตรบริษัทให้

เมษารับนามบัตรมาดู “ขอบคุณค่ะ”

“โอเค เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ ออกมานานเดี๋ยวเพื่อนคุณจะเป็นห่วงได้” มาร์คัสบอกแล้วก็ผายมือเชิญ

เมษาพยักหน้ารับ ยิ้มให้เขา

จนกระทั่งตีหนึ่งกว่า สาวๆ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

มาร์คัสสั่งให้โรเจอร์แอบขับรถตามไปห่างๆ รอดูจนเมษาเข้าบ้านแล้วเขาจึงกลับโรงแรม

วันรุ่งขึ้นมาริสาตื่นแต่เช้า ลุกไปทำข้าวผัดแช่เย็นไว้ให้ลูกสาวจากนั้นก็อาบน้ำแต่งตัว ก่อนออกจากบ้านก็เปิดประตูห้องนอนลูกเข้าไปหอมแก้มเหมือนเช่นเคย เธอยิ้มอ่อนๆ มองดูลูกสาวหลับปุ๋ยแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซด์ไปทำงาน

แปดโมงกว่า เมษาลืมตาตื่น มองนาฬิกาบนผนังปลายเตียง “โห สายป่านนี้แล้วเหรอ”

เธอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปข้างล่าง เปิดตู้เย็นเห็นข้าวผัดที่แม่ทำไว้ให้ก็หยิบออกมาเข้าไมโครเวฟ เธอเดินไปนั่งเปิดเว็บหางานเช็กดูงานที่ยื่นใบสมัครออนไลน์เอาไว้ เสียงไมโครเวฟดังก็ลุกไปหยิบข้าวผัดออกมา

มือหนึ่งตักข้าวผัดเข้าปาก อีกมือก็เขี่ยหน้าจอดูไปเรื่อยๆ พอทานข้าวเสร็จก็เก็บจานล้าง แล้วก็กลับมานั่งเช็กงานที่สมัครเอาไว้ แต่พอเห็นชื่อบริษัทหนึ่งดูคุ้นตาก็ลองคลิ๊กเข้าไปอ่านรายละเอียด

“รับสมัครเลขาเหรอ? คุณสมบัติ ฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษได้ดี ชื่อบริษัทนี้คุ้นๆ อยู่นะเหมือนเคยได้ยินอยู่” เธอนั่งนึก พลัน! ก็นึกถึงฝรั่งที่เจอเมื่อคืน แล้วก็รีบวิ่งขึ้นข้างบนไปเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรที่ได้รับมา “ใช่จริงๆ ด้วย บริษัทที่นายคนนั้นบอก”

เธอรีบลงไปข้างล่างเปิดคอมฯ จากนั้นก็รีบเปิดเว็บหางาน แล้วก็ส่งใบสมัครงานออนไลน์พร้อมแนบเรซูเม่ไปด้วย

พอสมัครงานเรียบร้อยแล้วเธอก็เปิดดูรับสมัครงานของบริษัทอื่นๆ ต่อ

ทางด้านแอนนาพอเห็นอีเมลใหม่เด้งขึ้นมาก็รีบเปิดดู แล้วก็หันไปรายงานเจ้านายว่า “บอสคะ มิสบุญรักษ์สมัครงานมาแล้วค่ะ”

โอเวนพยักหน้ารับรู้ “โอเค คุณโทรนัดเธอมาสัมภาษณ์ได้เลย ห้ามทำพลาดเด็ดขาด เข้าใจนะ”

“ค่ะบอส” แอนนารับคำแล้วก็รีบกดเบอร์โทรหา

เสียงโทรศัพท์ดัง เมษารีบคว้ามาดู “เบอร์ใครหว่า?”

เธอกดรับ “สวัสดีค่ะ”

“ฮัลโหล ขอพูดกับมิสบุญรักษ์ค่ะ” เสียงภาษาอังกฤษพูดออกมาชัดถ้อยชัดคำ

“ค่ะ กำลังพูดอยู่ค่ะ”

“ฉันชื่อแอนนา กิ๊บสันค่ะ จากบริษัทแจ็คสันคอเปอร์เรชั่นค่ะ วันนี้คุณสะดวกมาสัมภาษณ์ไหมคะ?”

“คะ” เมษางงๆ

“มิสบุญรักษ์คะ ฉันชื่อแอนนา กิ๊บสันค่ะ เป็นพนักงานจากบริษัทแจ็คสันคอเปอร์เรชั่นที่คุณสมัครงานไว้ วันนี้คุณสะดวกมาสอบสัมภาษณ์ไหมคะ” แอนนาถามอีกครั้งเมื่อปลายสายเงียบไป

“อ่อ…ค่ะๆ ฉันไปได้ค่ะ” เมษาพยักหน้ารับอย่างงงๆ

“โอเค งั้นบ่ายโมงตรงคุณมาพบฉันที่ล็อบบี้โรงแรม………นะคะ” แอนนาบอก

“ค่ะ” เมษารับคำอย่างงงๆ

“บ๊ายบาย” แล้วแอนนาก็วางสายไป

เมษามองโทรศัพท์อย่างงงๆ “ทำไมนัดสัมภาษณ์เร็วจัง? เพิ่งจะสมัครไปไม่ทันถึงชั่วโมงเลยอ่ะ”

เธอจ้องโทรศัพท์อย่างงงๆ อยู่อย่างนั้น

ทางด้านโอเวน พอแอนนาจัดแจงนัดสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วก็รีบส่งข้อความไปบอกเจ้านาย

มาร์คัสเปิดข้อความอ่านแล้วก็หันไปมองวิวนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด

ณ ล็อบบี้โรงแรม เมษามาถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง เธอนั่งรอที่โซฟา สั่งน้ำส้มมาดื่มรอเวลานัดหมาย

ก่อนเวลานัดหมายสิบนาที แอนนาก็เดินออกจากลิฟท์ไปที่ล็อบบี้ เธอกวาดสายตามองหาครู่เดียวแล้วก็พบหญิงสาวเป้าหมายนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยชุดสูทกระโปรงสีครีมอ่อน สวมรองเท้าคัทชูสีครีมเข้าชุดกับเสื้อผ้า แม้เสื้อผ้าที่สวมใส่จะไม่แพงแต่ก็ดูเรียบร้อยสมกับการมาสัมภาษณ์งาน เธอเดินตรงเข้าไปทัก “มิสบุญรักษ์ใช่ไหมคะ?”

เมษาเงยหน้ามอง “ค่ะ”

เธอรีบลุกขึ้นยืน

“ฉัน แอนนา กิ๊บสันค่ะ” แอนนายื่นมือให้พร้อมกับแนะนำตัว

เมษารีบจับมือทักทาย “สวัสดีค่ะมิสกิ๊บสัน”

แอนนายิ้มให้แล้วก็ปล่อยมือ “เชิญนั่งค่ะ”

“ขอบคุณค่ะ” เมษารอให้แอนนานั่งลงก่อน แล้วก็นั่งตาม

แอนนาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ “รอนานไหมคะ?”

“ไม่ค่ะ ไม่นาน” เมษาตอบแล้วก็ยื่นเรซูเม่ให้ “เอ่อ…นี่แฟ้มประวัติของฉันค่ะ”

แอนนารับไปเปิดอ่าน

เมษานั่งรอพลางจิบน้ำส้มไปด้วย

แอนนาอ่านจบแล้วก็ปิดแฟ้ม เงยหน้ามองหญิงสาวอย่างพิจารณา “คุณทำงานที่บริษัทเดิมมาสามปี ทำไมถึงลาออกคะ?”

เมษาอึกอัก “เอ่อ…คือฉัน…”

แอนนาจ้องหน้ารอฟังคำตอบ วางท่าทางขึงขังให้สมกับแผนการ

“เอ่อ…คือฉันลาออกเพราะ…”

“ฮัลโหล” โอเวนเดินเข้าไปทัก

แอนนารีบลุกขึ้นยืนต้อนรับ “สวัสดีค่ะบอส”

เมษามองผู้มาใหม่อย่างงงๆ “บอส?”

แล้วก็หันไปมองท่าทางของแอนนา

แอนนาหันไปแนะนำตัว “นี่บอสของฉันค่ะ มิสเตอร์โอเวน คร๊อบ”

เมษาลุกขึ้นยืนอย่างงงๆ “เอ่อ…สวัสดีค่ะมิสเตอร์คร๊อบ”

“สวัสดีครับมิสบุญรักษ์ เราเจอกันอีกแล้ว ยินดีที่ได้พบกันอีกครับ” โอเวนทักทายยื่นมือไปให้

เมษายื่นมือจับทักทายอย่างงงๆ

โอเวนปล่อยมือแล้วก็ผายมือเชิญ “เชิญนั่งครับ”

เขานั่งลงวางท่าสบายๆ อย่างเป็นมิตร

แอนนานั่งลงแล้วก็หันไปโบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟ

เมษานั่งลงตามสีหน้างงๆ

พนักงานเสิร์ฟเดินมายื่นเมนูให้

“ขอคาปูชิโน่ร้อนหนึ่งแก้ว แล้วก็ลาเต้ร้อนหนึ่งแก้วค่ะ” แอนนาสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองกับเจ้านาย

เมษามองหน้าโอเวนอย่างงุนงง

“เมื่อคืนเราพบกันที่ผับยังไงล่ะครับ คุณลืมแล้วเหรอครับ?” โอเวนพูดเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ

มาร์คัสยืนมองอยู่ห่างๆ

“ค่ะ ฉันจำได้” เมษาพยักหน้ารับ

“ผมรู้ว่าคุณกำลังหางานอยู่ พอดีว่าบอสของผมกำลังต้องการเลขาเพิ่ม คุณอยากจะร่วมงานกับเราไหมครับ?” โอเวนถามน้ำเสียงจริงจัง

“เอ่อ…” เมษายังงงๆ อยู่

“ช่วงทดลองงานเงินเดือนเริ่มต้นที่ห้าหมื่นบาท หลังจากผ่านทดลองงานแล้วบอสจะพิจารณาให้คุณอีกครั้ง” โอเวนบอก

“ห๊า! ห้าหมื่นบาท!” เมษาตกใจ

“ทำไมเหรอครับ? น้อยไปหรือว่ายังไงครับ?”

พนักงานเสิร์ฟยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วก็ถอยไป

เมษาพยายามตั้งสติ “ไม่ค่ะไม่ มันมากเกินว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก”

“โอเค ถ้างั้นคุณพร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ? พรุ่งนี้เลยได้ไหมครับ?” โอเวนรุกอย่างไม่ให้ตั้งตัว

แอนนาจิบกาแฟมองดูทั้งสองอย่างเงียบๆ

เมษาพยักหน้ารับอย่างงงๆ “ค่ะ ได้ค่ะ”

โอเวนยิ้มแล้วก็ยื่นมือไป “โอเค ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ ขอต้อนรับสู่แจ็คสันคอเปอร์เรชั่นครับ”

เมษาจับมือตอบอย่างงงๆ “ค่ะ ยินดีเช่นกันค่ะ”

โอเวนปล่อยมือแล้วก็บอกว่า “พรุ่งนี้เก้าโมงเช้าคุณมาพบแอนนาที่นี่นะครับ เธอจะเป็นคนสอนงานให้คุณเอง”

เขายกแก้วกาแฟดื่มรวดเดียวแล้วก็ลุกขึ้นยืน “เอาล่ะ ผมต้องไปแล้ว พรุ่งนี้พบกันครับ”

เขาโบกมือลา “บ๊ายบาย”

แอนนาโบกมือตอบ

เมษาโบกมือตอบอย่างงงๆ

โอเวนเดินออกไป พอเลี้ยวมุมเสาก็เจอกับมาร์คัส

“ทุกอย่างเรียบร้อยตามที่นายต้องการ” โอเวนบอก

“ขอบคุณ” มาร์คัสพยักหน้ารับรู้พลางตบบ่าคนสนิท สายตายังจับจ้องที่หญิงสาวเป้าหมายด้วยสายตาสงบนิ่ง

โอเวนเลี่ยงไปยืนอยู่ข้างหลัง คอยอารักขาตามหน้าที่

แอนนาหันไปมองหญิงสาวยื่นมือไปตรงหน้า “ยินดีที่ได้ร่วมงานค่ะ”

เมษาจับมือตอบอย่างงงๆ “ค่ะ เช่นกันค่ะ”

“โอเค พรุ่งนี้พบกันค่ะ” แอนนาบอกแล้วก็ลุกขึ้น

“เดี๋ยวค่ะ รอก่อนค่ะ” เมษาเรียก

“คะ”

“นี่ฉันได้งานแล้วเหรอคะ?” เมษาถามอย่างงงๆ

“ค่ะ” แอนนาพยักหน้า “พรุ่งนี้พบกันเก้าโมงเช้า อย่ามาสายนะคะบอสเกลียดคนไม่ตรงเวลามากที่สุดค่ะ”

“ค่ะ” เมษาพยักหน้ารับอย่างยังงงๆ

แอนนาเดินจากไปพร้อมกับแฟ้มเรซูเม่

เมษายังนั่งงงอยู่อย่างนั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอได้งานใหม่แล้ว แถมเงินเดือนดีกว่าที่เดิมตั้งเยอะ!

เธอหยิกมือตัวเองเพื่อเช็กว่าฝันไปรึเปล่า “อูย เจ็บง่ะ นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม”

เธอมองไปรอบๆ ยิ้มกับตัวเองแล้วก็เดินออกจากล็อบบี้อย่างดีใจสุดขีด

มาร์คัสมองตามจนหญิงสาวเดินลับตาไปแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องพัก

ระหว่างขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านเมษาก็ส่งไลน์บอกแม่และอิงฟ้าว่าได้งานใหม่แล้ว

ทั้งสองคนต่างก็ดีใจด้วย จึงนัดฉลองได้งานใหม่กันที่บ้าน แต่เพื่อนร่วมแก๊งคนอื่นๆ กลับไม่ว่าง

เมษาลงรถไฟฟ้าแล้วก็ต่อรถตู้ไปลงหน้าห้างสรรพสินค้าแวะซื้อของไปทำกับข้าวเลี้ยงฉลอง

เมื่อกลับถึงบ้านเธอก็เข้าครัวทำอาหารรอ

มาริสากลับมาถึงบ้านก็ได้กลิ่นกับข้าวหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน

“วันนี้ทำอะไรกินมั่งล่ะแองจี้?”

“ต้มยำกุ้ง ผัดบล็อกโคลี่ ยำมะม่วงปลาทอด แล้วก็ปอเปี๊ยะทอดค่ะแม่” เมษาตอบขณะกำลังเตรียมทำยำมะม่วง

“งั้นแม่ไปอาบน้ำก่อนนะ เออ…แล้วฟ้าจะมากี่โมงล่ะลูก?”

เมษาเหลือบมองนาฬิกา “คงอีกซักชั่วโมงมั้งคะ”

มาริสายิ้มแล้วก็เดินขึ้นบันไดไป

เกือบหนึ่งทุ่มอิงฟ้าก็ขับรถมาจอดหน้าบ้านเพื่อนรัก

เมษารีบเดินไปเปิดประตูรั้ว

“โหย…กว่าจะหลุดมาได้ รถโคตรติดเลยแก” อิงฟ้าบ่นพลางล็อครถ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!