Skip to content

พลิกปฐพี 26

ตอนที่ 26

ใช้เธอเป็นหนูทดลอง

“ศิษย์รัก ทำไมเจ้าเจออาจารย์แล้วไม่คารวะ” ในป่ามืดทึบแห่งนี้ราวกับคนตรงหน้าเป็นวิญญาณจริงๆ และตอนนี้กำลังจะฟื้นคืนชีพ

มู่เกอไม่สามารถขยับตัวได้ แต่แน่ใจว่าคนๆ นั้นกำลังค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้เธอ

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ…

เพราะแสงจากโคมไฟ ทำให้มู่เกอเห็นหน้าตาของคนในเสื้อคลุม แต่ว่าพอเห็นชัดแล้ว เธอก็สูดหายใจเย็นเยียบในใจอย่างอดไม่ได้มันช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน ม่เกอกล้าสาบานต่อสวรรค์ว่ารูปร่างหน้าตาของคนผู้นี้ถือว่าเป็นคนน่าเกลียดที่สุดในทั้งสองโลกเท่าที่เธอเคยเห็นมาเลย ใบหน้านั้นดูแย่กว่าผู้ที่ประสบอุบัติเหตุบนถนนเสียอีก ชวนให้คนรู้สึกเวทนา แม้ว่านิสัยเธอจะเย็นชา แต่พอเห็นใบหน้าน่ากลัวนี้เข้าก็อดที่จะหวั่นใจไม่ได้ หน้าตาน่าเกลียดนี้ไม่ได้เป็นมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นเพราะการกระทำบางอย่างที่ทำให้เป็นแบบนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยตุ่มที่มีหนองไหลออกมาไม่หยุด หน้าตาอันน่าเกลียดน่ากลัวของเขาไม่ได้อยู่ในนิยามของคำว่าคนตั้งนานแล้ว

“หึๆ อาจารย์ลืมไปว่าตอนนี้เจ้าขยับตัวไม่ได้” ท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงหัวเราะเบาๆ ดวงตาที่มองมู่เกอเต็มไปด้วยความเยือกเย็นโหดร้าย

ทันใดนั้นรอบตัวเธอก็มีแสงสีม่วงอ่อนๆ ส่องประกาย แสงสีม่วงพวกนั้นเหมือนจะมีหมอกสีดำแทรกปะปนมาด้วย

“ขั้นม่วง!” มู่เกอกะพริบตา ดวงตาใสกระจ่างนั้นมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ไหนบอกว่าขั้นม่วงมีน้อยมากไง ไหนบอกว่าในแคว้นฉินมีขั้นม่วงแค่คนเดียวแล้วก็เป็นเชื้อพระวงศ์ไง แล้วสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอนี่คืออะไรกัน

มู่ชิงเกอไอ้ตัวปัญหา! รู้หรือเปล่าว่าไปยุ่งกับคนแบบไหนเข้าแล้ว?

มู่เกอรู้สึกโกรธในใจ แต่แววตากลับยิ่งสงบนิ่งลง

“ลูกศิษย์ เจ้าเดินด้วยสองขาช้าเกินไป อย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลา ให้ข้าช่วยพาเจ้าไปจะดีกว่าไหม” พูดจบแสงสีม่วงที่มีหมอกดำปะปนอยู่ก็พัดเข้าหามู่เกอเหมือนมีชีวิต ม้วนตัวของเธอจนกลายเป็นรังไหมดิบรูปคนขนาดใหญ่ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทำให้เธอไม่สามารถโต้ตอบได้

มู่เกอที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในรังไหมดิบขนาดใหญ่ รู้สึกว่าร่างกายของตนเองลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็เริ่มเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว

มู่เกอไม่ได้รู้สึกถึงความลำบากแต่อย่างใด สิ่งเดียวที่เธอไม่ชอบใจคือเธอไม่สามารถขยับตัวได้

มู่เกอแอบนับเลขในใจ พอเธอนับถึง 129 เธอก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเธอลอยลงมาและกระแทกกับพื้นอย่างแรง

แสงสีม่วงหายไปในทันที ความเจ็บปวดแผ่ซ่านทันทีที่ก้นของเธอกระแทกลงกับพื้น

ตึง!

แม้ว่าก้นกบจะเป็นส่วนที่มีเนื้อเยอะที่สุดในร่างกาย แต่แรงกระแทกจากการตกลงมาจากกลางอากาศก็ทำให้มู่เกอรู้สึกว่าตัวของเธอได้ชาไปแล้วครึ่งหนึ่ง

“ที่นี่ที่ไหน”

พอสัมผัสกับความเย็นและพื้นที่ขรุขระ มู่เกอรู้สึกว่าร่างกายของตนเองสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว

สิ่งแรกที่ทำก็คือดูว่าตนเองอยู่ที่ไหน

ที่นี่เหมือนเป็นถํ้า อากาศที่เย็นและชื้น และผนังรอบๆ ซึ่งขรุขระ ทำให้มู่เกอแอบเดาในใจ

ไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะเป็นที่อยู่ของคนที่มู่ชิงเกอเรียกว่า ท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิง

มู่เกอตาเป็นประกาย สังเกตรอบๆ ด้วยใบหน้านิ่งๆ

ที่นี่เป็นถํ้าจริงๆ ด้วย บนถํ้ามีหินย้อยลงมามากมาย หินแหลมมีหยดนํ้าหยดลงพื้นตลอดเวลา ถํ้านี้ไม่ถือว่าใหญ่ มาก แต่ก็เกือบ 50 ฉือ

มู่เกอสังเกตความกว้างในถํ้าแล้วสายตาก็ไปหยุดที่เตาไฟอันหนึ่งในถํ้า ข้างเตาไฟมีชั้นวางของมากมายที่เต็มไปด้วยดอกไม้ใบหญ้า ซึ่งส่งกลิ่นหอมคล้ายกับยา

มู่เกอหรี่ตามอง มู่ชิงเกอเคยบอกว่า ที่นางนับถือคนประหลาดคนนี้เป็นอาจารย์เพราะเขาเป็นอาจารย์หลอมโอสถ ว่ากันว่าเขาสามารถปรุงยาที่สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายคนไร้ค่าอย่างนางได้

และสิ่งที่นางต้องทำก็คือคอยเป็นหนูทดลองให้กับท่านผู้ เฒ่าเป่ยหมิงจนกว่ายานี้จะประสบความสำเร็จ

มู่เกอตกใจ

คืนนี้ที่ท่านผู้เฒ่าเป่หมิงเรียกเธอมา คงไม่ใช่ว่าจะ…

เคร้ง!

ขวดกระเบื้องเคลือบสีดำสนิทใบใหญ่ถูกคนๆ หนึ่งโยนมาลงบนชุดผ้าไหมของมู่เกอ

เสียงอันเย็นชาของท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงดังขึ้น “นี่เป็นยาที่ข้าต้มขึ้นใหม่ กินมันซะ แล้วบอกปฏิกิริยาของร่างกายเจ้าให้ข้ารู้”

สายตาของมู่เกอปรากฎไอสังหารวาบผ่าน เธอเงยหน้าขึ้นมองท่านผู้เฒ่า เห็นเขานั่งอยู่บนที่นอนและไม่ได้มองเธอเลย ในมือถือขวดโปร่งแสงใบหนึ่ง ในนั้นมีแสงสีเขียวกลุ่มหนึ่งที่เหมือนกำลังต่อสู้ดิ้นรนกับอะไรบางอย่าง

ไม่รู้ทำไม มู่เกอรู้สึกว่าแสงสีเขียวนั้นเป็นวิญญาณของมู่ชิงเกอ เมื่อความคิดนี้แวบผ่านเข้ามาในหัว มู่เกอก็หัวใจกระตุกทีหนึ่ง แล้วมองท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงอย่างระมัดระวัง เหมือนหวังจะได้เห็นอารมณ์บางอย่างจากสีหน้าของเขา

แต่ว่าเสื้อคลุมสีดำปกปิดใบหน้าของท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงจนเห็นแค่มุมปากของเขาที่มีรอยยิ้มอันแปลกประหลาด

‘หรือว่าเขาจะดูออก’ มู่เกอแอบเดาในใจ

ท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงสามารถเห็นวิญญาณได้เป็นเพราะอะไรนั้น มู่เกอไม่รู้ ตอนนี้เธอเป็นห่วงว่าท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงจะทำอะไรมู่ชิงเกอ เขาจะรู้หรือเปล่าว่านั้นเป็น วิญญาณของมู่ชิงเกส่วนตัวเธอนั้น…

ตนเองยืมร่างคนอื่นในการเกิดใหม่ เป็นความลับที่มู่เกอจะเก็บไปจนตาย ถ้าคนตรงหน้ารู้ แต่ไม่พูดอะไรเลยแบบนี้ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

ในขณะที่มู่เกอเหม่อตาค้าง เสียงของท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่กลับโหดเหี้ยมกว่าเดิมหลายเท่านัก

“ยังนิ่งอยู่ทำไม คิดว่าอยู่ๆ ตัวเองสามารถฝึกเวทพลังได้ และกลายเป็นยอดฝีมือสูงสุดของขั้นพลังสีเหลืองแล้วจะหนีพ้นเงื้อมมือข้าไปได้รึ? หึ”

มู่เกอตาโตทันที

ความสามารถของเธอในตอนนี้ แค่พริบตาเดียวก็ถูกผู้เฒ่าเป่ยหมิงมองออกแล้ว

อยู่ๆ ก็มีลมเย็นพัดผ่าน เงาคนสีดำมาหยุดตรงหน้ามู่เกอ เธอหรี่ตา สายตาใส กระจ่างคู่นั้นมีเงาหน้าตาอันอัปลักษณ์ดวงนั้นสะท้อนอยู่

คางของเธอถูกบีบ ความรู้สึกเสียการควบคุมแบบนั้นกลับมาอีกครั้ง และม่เกอยังคงไม่ทันได้ป้องกันเหมือนเคย

ปากถูกบังคับให้อ้ากว้าง ขวดที่มียาอยู่ถูกเปิดออกและเทลงในปากเธอทันที

ยาเมื่อเข้าปากก็ละลายในทันที ส่งกลิ่นเหม็นยากจะบรรยายจนอยากอาเจียนออกมา

หลังจากที่มู่เกอกินยาในขวดนั้นเข้าไป ก็รู้สึกว่าคางที่ถูกจับอยู่นั้นเป็นอิสระ และโดนผลักอย่างแรง ข้างหูมีเสียงเย่อหยิ่งดังขึ้น “ฮึ ไม่รู้จักดีชั่ว”

มู่เกอล้มลงบนพื้นสายตาเยียบเย็นดั่งนํ้าแข็ง

ไม่พอ! ยังไม่พอ! ยังแข็งแกร่งไม่พอ!

“อุก…”

ทันใดนั้น ก็รู้สึกเจ็บที่ช่องท้องและลามไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วราวกับมีหนอนนับหมื่นตัวแหวกว่ายอยู่อย่างไรอย่างนั้น

‘ยาออกฤทธิ๋แล้ว!’

หน้าผากของมู่เกอเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอกัดฟันแน่น ม่ให้ ตนเองส่งเลียงใดๆ ออกมา

ความเจ็บปวดนั้น มู่เกอไม่กลัวและทนได้ แต่ว่ายานี้ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย มู่เกอเห็นกับตาว่าผิวบนหลังมือของเธอเริ่มเน่าส่งกลิ่นเหม็นและแน่ใจว่าทั่วร่างกายของเธอก็คงไม่ต่างจากนี้

‘นี่ไม่ใช่ยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอแน่ๆ แต่เป็นยาพิษที่เอาไว้ทรมานคน!’ แม้ว่ามู่เกอจะไม่มีความรู้เรื่องยา แต่ก็พอจะเดาออกถึงสรรพคุณที่ผู้เฒ่าเป่ยหมิงให้เธอกิน

‘บัดซบ! นี่ข้าจะต้องทนเห็นร่างกายตนเองเน่าตายไปกับตางั้นหรือ?’ มู่เกอโกรธและไม่ยินยอม

เสียดาย ที่เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิง เธอก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กทารกคนหนึ่งที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่เป็นไปตามที่เขาต้องการ

ทันใดนั้น ความเจ็บปวดในร่างกายเหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง นํ้าใสๆที่ไหลออกมาจากจุดตันเถียนของเธอไหลเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว บีบไล่ยาพิษที่อยู่ภายในร่างกายของเธอออกมา ความเจ็บปวดบรรเทาลงมาก และมู่เกอก็อึ้งที่เห็นเนื้อแขนที่เน่าเปื่อยของเธอกลับคืนสู่สภาพเดิมราวกับย้อนเวลา

เกิดอะไรขึ้น?

หรือว่านี่เป็นยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ?

มู่เกอแอบเดา

ทันใดนั้น มู่เกอก็พ่นเลือดสีดำเหนียวส่งกลิ่นเหม็นคาวออกมาจากปาก ความเจ็บปวดทั่วร่างสลายหายไป แต่มีพลังบางอย่างพุ่งเข้าสู่ตัวเธอ ทำให้การฝึกฝนของเธอก้าวหน้าขึ้นไปคืบหนึ่ง

แม้ว่าแค่คืบเดียวจะสามารถมองข้ามไปเหรอไม่นับก็ได้

แต่ก็ยังถือว่าก้าวหน้าขึ้นไปอยู่ดี มู่เกอไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงนี้

ตาทั้งสองข้างจ้องกองเลือดสีดำ กลิ่นนี้เธอคุ้นเคยมาก ในตอนที่ร่างกายของเธอได้รับยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ ในร่างกายของเธอเคยมีเลือดสีดำแบบนี้ออกมาและ จำนวนมากกว่านี้หลายสิบเท่านัก

แบบนี้นี้เอง เธอคิดมาตลอดว่านั่นเป็นสิ่งสกปรกที่ถูกขับออกมาจากร่างกายหลังจากที่ร่างกายอันไร้ค่าของมู่ชิงเกอได้รับการเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอ

แต่ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าเลือดดำพวกนี้เป็นยาพิษที่แฝงซ่อนอยู่ในตัวของมู่ชิงเกอ! ส่วนที่มา เกรงว่าคงจะหนีไม่พ้นท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงผู้นี้นี่แหละ

มู่เกอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงที่ยังไม่สังเกตเห็นเธอ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!