Skip to content

พลิกปฐพี 95-4

ตอนที่ 95-4

สิ่งที่ติดค้างข้า ได้เวลาเอาคืนแล้ว!

คำพูดนี้ทำใหัมู่ชิงเกอหยุดฝีเท้าลง แล้วหันกลับไปมองเขาด้วยความสงสัย

ฉินจิ่นเฉินที่ยืนอยู่บนระเบียง แสงอาทิตย์ส่องสว่างลงบนตัวของเขา งดงามราวกับรูปสลัก เขาพูดว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่า รัชทายาทแคว้นถูเป็นคนอย่างไร”

รัชทายาทแคว้นถู เป็นความจริงที่ว่านางไม่ค่อยรู้จัก

ช่วงนี้ นางใช้กำลังทั้งหมดที่มีในการจัดการเรื่องราวภายในแคว้นฉิน จนไม่ได้ใส่ใจเรื่องราวของแคว้นเพื่อนบ้าน อีกประการหนึ่ง แคว้นถูเปลี่ยนรัชทายาทบ่อยครั้ง รัชทายาทที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่ง นางจะมีเวลาไปใส่ใจได้อย่างไร

ท่าทางของนาง ฉินจิ่นเฉินพอเดาออก

เขามองนางและพูดอย่างเนิบช้าว่า “รัชทายาทที่แต่งงานกับองค์หญิง ชื่อว่าเฮ่อเหลียนจ้าน อายุราว 40 ปีมี รูปร่างกำยำ ป่าเถื่อน นิสัยบ้าคลั่งและเจ้าชู้ได้ข่าวว่า ก่อนที่เขาจะได้ขึ้นเป็นราชทายาท เขามีนางบำเรอนับร้อย พอหลังจากที่ได้เป็นรัชทายาทแล้วก็ได้ใช้อำนาจในการแย่งชิงตัวหญิงสาวสามัญชนเข้าไปปรนนิบัติภายในวังหลวงอีกมากมายและสังหารตามใจชอบ อีกทั้งยังมีความชอบอีกประการหนึ่ง คือ เขาชอบอยู่กับพวกหมาป่า เวลานอนก็ต้องมีพวกนั้นอยู่ด้วย คนรอบข้างเขา จำนวนไม่น้อย ต่างก็กลายเป็นอาหารของพวกหมาป่า ส่วนพลังเวทของเขานั้น ได้ข่าวว่าเป็นสายครามขั้นสูงสุด”

สีหน้าของมู่ชิงเกอเคร่งขรึมมากขึ้นกว่าเดิม สายตาที่แวววับด้วยรังสีสังหาร ราวกับบาดลงบนเนื้อหนังของฉินจินเฉิน แล้วก็จากไปโดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

มองนางที่พรวดพราดเดินจากไปด้วยความเคืองใจ ฉินจิ่นเฉินก็กระตุกรอยยิ้มตรงมุมปาก พลันพูดพึมพำว่า “เจ้าปล่อยนางไปไม่ลงจริงๆ ด้วย ก็ดีไปรับตัวนางกลับมา แคว้นฉินไม่ต้องการความสงบสุขที่ต้องแลกด้วยความสุขของผู้หญิงคนหนึ่งเช่นนี้”

เจ้าฉินจิ่นเฉิน รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นอย่างดี ทว่ากลับเงียบมาโดยตลอด

มู่ชิงเกอกระโดดขึ้นหลังเพลิงรัตติกาลแล้วสั่งมั่วหยางว่า “เรียกองครักษ์เขี้ยวมังกรมารวมตัวกัน แล้วก็ไปแคว้นถูกับข้าทันที!”

หากนางรู้แต่แรกว่ารัชทายาทแคว้นถูเป็นคนเช่นนี้นางจะต้องห้ามฉินอี้เหยาไม่ให้ออกเรือน เพราะคนเช่นนี้ไม่มีทางจะทำให้ฉินอี้เหยามีความสุขได้

เพิ่งจะผ่านไปแค่คืนเดียว การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในวังหลวงแคว้นฉินก็ยังไม่ทันจะเสร็จเรียบร้อย มู่ชิงเกอก็นำองครักษ์เขี้ยวมังกรตามขบวนของฉินอี้เหยาไป

นางจากไปหลายวันแล้ว หากจะตามไปก็คงไม่ง่าย

โชคดีที่มู่ชิงเกอและองครักษ์เขี้ยวมังกรของนาง ต่างก็ขี่อยู่บนอาชาเพลิง ความไวจึงมากกว่าม้าธรรมดา ห้าวันหลังจากที่ออกเดินทาง ในที่สุดพวกเขาก็พบกับ คณะราชทูตและขบวนเจ้าสาวที่มารับฉินอี้เหยา ณ บริเวณชายแดนระหว่างแคว้นฉินและแคว้นถู

ขบวนที่คดเคี้ยวกำลังมุ่งไปยังเมืองหนึ่งที่ใกล้กับชายแดนของแคว้นถู

อีกไม่ถึงครึ่งวัน พวกเขาก็จะถึงที่หมาย

“ในที่สุดก็ถึงแล้ว! อากาศแคว้นของเราสบายกว่าเป็นไหนๆ” เฮ่อเหลียนป๋าที่นั่งอยู่บนหลังม้าในขณะนี้ในหัวสมองดิดเพียงแต่ว่าคืนนี้จะไปหาหญิงสาวแถวๆ นั้นมาปรนนิบัติเขา

“ท่านอ๋อง เราจะหยุดสงครามกับแคว้นฉินเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวของแคว้นฉินจริงๆหรือ” ชายหนุ่มร่างกายกำยำคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เขาพูดอย่างไม่พอใจ เฮ่อเหลียนป๋าหัวเราะอย่างเย็นเยียบ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือ รอจนรัชทายาทได้ขึ้นครองบัลลังก์เมื่อไหร่ ก็จะเป็นวันที่แคว้นถูของเราจะเหยียบแคว้นฉินให้จมดิน”

คนผู้นั้นได้ยินแล้วรู้สึกดีใจแต่พักนึงก็พลันพูดด้วยความ

สงสัยว่า “แต่ว่าสัญญาร่วมกัน…”

“สัญญาบ้าอะไรกัน! คนแคว้นถูของเราไม่เคยถูกสัญญาเพียงฉบับเดียวมัดมือมัดเท้า” เฮ่อเหลียนป๋าตะโกน สายตาสาดประกายความดูถูก ไม่ได้เห็นความสำคัญของสัญญาระหว่างสองแคว้นเลยแม้แต่น้อย

“ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงแคว้นฉิน ที่อยู่ในรถม้าคันหลัง…” ชายหนุ่มร่างกำยำเผยรอยยิ้มอันน่าขยะแขยง

เฮ่อเหลียนป๋าพูดพร้อมรอยยิ้มที่ฉายความกระจ่างในคำพูดของอีกฝ่ายว่า “หลังจากที่ข้าได้ลิ้มรสเสร็จแล้ว หากพวกเจ้าทำตัวดี แน่นอนว่าจะให้พวกเจ้าได้ลองลิ้มรสองค์หญิงแคว้นฉิน”

“ฮี่ๆ ถ้าเช่นนั้นก็ขอขอบพระทัยท่านอ๋องล่วงหน้าแล้ว” ใบหน้าสีดำของชายหนุ่มร่างกำยำผู้นั้นพลันมีสีแดงปรากฏขึ้นมา

ขบวนส่งตัวองค์หญิงของแคว้นฉิน เดินทางอยู่ตรงกลางของขบวน

เสื้อผ้าของคนแคว้นฉินจำนวนนับพัน ดูโดดเด่นท่ามกลางขบวน

โดยเฉพาะรถม้าคันที่มีผ้าสีแดงพันอยู่มากมายและ ถูกลากด้วยม้าใหญ่จำนวน 8 ตัว ราวกับเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดของขบวนทั้งขบวน

ภายในรถม้า ฉินอี้เหยาสวมชุดแต่งงาน บนหัวสวมมงกุฎหง์ร่อนใหญ่และหนักอึ้ง แต่งหน้าเข้มจัด ราวกับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่นิด ตั้งแต่ออกจากแคว้นฉิน

ภายในรถม้า เป็นเหมือนห้องห้องหนึ่ง ที่นอกจากนาง แล้วยังมีนางกำนัลที่ออกเรือนตามนางมาด้วย

“องค์หญิง ทรงพักผ่อนก่อนนะเพคะ” นางกำนัลมองนาง ถอดมงกุฎหงส์ที่นางสวมอยู่ออก ทำให้เห็นใบหน้าอันน่าเย้ายวนของนางชัดเจนมากยิ่งขึ้นริมฝีปากที่แดงก่ำ ทำให้ความเย็นชาของนางยิ่งดูเฉิดฉันมากกว่าเดิม ใบหน้าของนางเย็นชาและไม่ได้ตอบนางกำนัล ราวกับว่านางได้สูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว

นางกำนัลแอบถอนหายใจ และวางมงกุฎหงส์ไว้เป็นอย่างดี

ตั้งแต่ออกจากแคว้นฉิน องค์หญิงของพวกนางก็เย็นชา และสงบนิ่งเช่นนี้มาตลอดทาง พวกนางรู้สึกร้อนใจ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้

“อีกนานเท่าไหร่จึงจะถึงแคว้นถู” ทันใดนั้นเสียงอันสงบนิ่งได้ถามขึ้น

นางกำนัลรู้สึกดีใจและรีบหันกลับไป แล้วพูดว่า “องค์หญิงในที่สุดท่านก็ยอมพูดอะไรบ้างแล้วเรียนองค์หญิง คนของแคว้นถูบอกว่า ในคืนนี้เราจะถึงเมืองหนึ่งของแคว้นถูซึ่งใกล้กับแคว้นฉินมากที่สุดเพคะ”

“จะถึงในคืนนี้แล้วหรือ” สายตาของฉินอี้เหยามีความมืดมนปรากฏเพิ่มขึ้นหลายระดับ

นํ้าเสียงอันเย็นชา ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของเหล่านางกำนัล ทำให้นางเริ่มคิดถึงบ้านเมือง

ในสายตาของประชาราษฎร์แคว้นฉิน แคว้นถูเป็นที่ซึ่งทุรกันดาร ในตอนนี้ แคว้นฉินมีองค์หญิงผู้โดดเด่นและเพียบพร้อม แต่กลับต้องออกเรือนมาอยู่ในที่เช่นนี้ ผู้น้อยอย่างพวกนางรู้สึกทุกข์ใจแทนองค์หญิงของตนเอง แต่ทว่า พระบัญชาจากองค์ฮ่องเต้นั้นมิอาจขัดได้ แม้แต่องค์หญิงยังไม่สามารถต่อต้าน แล้วนับประสาอะไรกับผู้น้อยแบบพวกนางที่จะสามารถไปห้ามปรามได้

ขบวน ยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าแต่เริ่มช้าลง

บางทีอาจเป็นเพราะใกล้เข้าสู่แคว้นถู ขบวนจึงผ่อนคลายมากขึ้น กระทั่งการคอยระวังภัยก็ไม่มีแล้ว

ด้านหลังขบวนของฉินอี้เหยาเต็มไปด้วยฝุ่นที่ปลิวฟุ้งกระจาย ในที่สุดมู่ชิงเกอก็นำองครักษ์เขี้ยวมังกรตามมาทัน สิ่งที่เห็นตรงเบื้องหน้า คือขบวนที่ทั้งทอดยาวและคดเคี้ยว รวมทั้งรถม้าคันที่เต็มไปด้วยผ้าแดงที่โดดเด่น

“คุณชาย ขบวนของแคว้นถูอยู่ข้างหน้า” มั่วหยางพูด

สายตาอันเย็นเยียบของมู่ชิงเกอจ้องขบวนนั้น พลันพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “ฆ่า!”

เมื่อออกคำสั่งมาให้ฆ่า องครักษ์เขี้ยวมังกรก็พุ่งเข้าหาขบวนนั้นดั่งเสือที่ดุร้าย พวกเขาไม่เคยคิดถึงจำนวนคน และกำลังของอีกฝ่าย เพียงแต่ทำตามคำสั่งของมู่ชิงเกออย่างสุดความสามารถ

องครักษ์เขี้ยวมังกรผ่านหน้ามู่ชิงเกอไป ใบหน้าอันงดงามของนางฉายความเย็นเยียบ ราวกับได้มีนํ้าแข็งเข้าปกคลุมอีกชั้น ที่นางมา มิได้มาเพราะจะทำสงครามกับแคว้นถู แต่ว่ามาเพื่อชิงตัวฉินอี้เหยา

ฆ่าคนพวกนี้เสียและพาตัวฉินอี้เหยากลับไป เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด

หากในอนาคต————–

แคว้นถูกล้ามา นางก็กล้าฆ่า!

จะถือว่าแคว้นถูเป็นเพื่อนบ้านที่ดีไม่ได้อีกต่อไปแล้วสินะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!