Skip to content

พลิกปฐพี 102-2

ตอนที่ 102-2

จัดการกับเจ้าไม่ได้!

ท่านผู้เฒ่าตานสังเกตอาการของคุณชายเก๋ออย่างละเอียด สายตาหลักแหลมหรี่ลง ก่อนจะพยายามเก็บสายตาที่มีความตื่นตระหนกไว้และพูดกับท่านเก๋อว่า “บาดแผลในร่างกายของคุณชายเก๋อได้หายดีแล้ว เพียงแค่ต้องการเวลาพักฟื้น ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม”

เมื่อได้ยินคำพูดของตานเฉินจื่อ ในดวงตาของท่านเก๋อก็มีความปีติเกิดขึ้นในทันที

เขาประสานมือและพูดด้วยความขอบคุณว่า “ขอบคุณท่านผู้เฒ่าตานมาก หนึ่งล้านตำลึงทอง จะส่งตามไปทีหลัง ตอนนี้ยังมีอีกเรื่องที่อยากจะขอร้อง อยากให้ท่านผู้เฒ่าตานและหอสรรพสิ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้สักหน่อย”

ท่านผู้เฒ่าตานหรี่ตาลง รอคอยคำพูดต่อไปของเขา

ท่านเก๋อพูดว่า “ช่วยบอกข้าว่าเจ้าของโอสถนี้คือใคร เราสองพ่อลูกอยากจะแสดงความขอบคุณด้วยตนเอง”

“สำหรับเรื่องนี้…ข้าต้องถามเจ้าของโอสถก่อน” ตานเฉินจื่อฝืนรอยยิ้ม กำลังรู้สึกเจ็บใจ ความฉลาดหลักแหลมของมู่เกอเขายังจดจำได้ดี หลังจากที่วางแผนเรื่องทุกอย่างมาถึงตรงนี้ยังจะต้องเอาตัวเองไปส่งให้เขาถึงที่อีก นี่มันถือเป็นการรนหาที่ตายไม่ใช่รึไง?

“รบกวน ท่านผู้เฒ่าตานด้วย!” แต่ว่าเพราะไม่ทราบความเกี่ยวพันของเรื่องทั้งหมด เพียงเพราะเห็นตานเฉินจื่อตอบตกลง ก็ได้ส่งคนออกไปยกทองที่ได้เตรียมเอาไว้เข้ามาด้วยความดีใจ

เมื่อทองคำหีบหนึ่งที่ส่องแสงประกายถูกยกเข้ามา ทุกคนจึงได้สติและรีบถามผู้ดำเนินการงานประมูลและตานเฉิงจื่อ…

“โอสถนี่ยังมีอยู่หรือไม่? ข้าจะให้ 1 ล้าน 5 แสนตำลึงทอง!

“ข้าก็ต้องการ! ข้าให้ 1 ล้าน 5 แสน ไม่ ข้าให้ 2 ล้านเลย”

“หาเจ้าของโอสถให้พบ พวกเราต้องการซื้อโอสถ”

โอสถนี่ เป็นหลักประกันชีวิตของตนเองจะมีผู้ใดบ้างไม่อยากได้

ภาพบรรยากาศที่แฝงความอลหม่าน ทำให้ใบหน้าอันเหี่ยวย่นของท่านผู้เฒ่าตานแย่ลงกว่าเดิม เขากำลังคิดว่าหากพูดออกไปว่าโอสถนี้มีเพียงเม็ดเดียว จะถูกคนพวกนี้สังหารหรือไม่!

และอีกประการหนึ่งสิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังมากที่สุดก็คือ หากรู้ว่าโอสถเก้าชีวิตหวนคืนนี้วิเศษมากถึงเพียงนี้ เขาก็ควรจะสร้างภาพลักษณ์ไห้กับโอสถนี้ดีๆ สิ่งที่จะได้รับเป็นผลตอบแทนก็จะมากกว่า 1 ล้านตำลึงทองมิใช่หรือ

ไม่เห็นรึไงว่า พวกคนที่ถูกกระตุ้นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ในตอนนี้ได้เสนอราคาไปถึง 2 ล้านแล้ว

ผู้ดำเนินงานประมูลใช้เกียรติของตนเองยืนยันเลยว่า หากมีโอสถเก้าชีวิตหวนคืนอีกเม็ดต้องได้ราคาอันมหาศาลและเกินคาดแน่นอน!

น่าเสียดาย! ของดีที่มีอยู่ในมือ กลับให้พวกเขาขายออกไปในราคาที่ต่ำถึงเพียงนี้

ผู้ดำเนินงานประมูลและท่านผู้เฒ่าตานเก็บความรู้สึกของตนเองเอาไว้และท่านเก๋อที่ได้ประโยชน์ในเรื่องนี้ไป ในตอนนี้ก็กำลังเบิกบานใจ ไหนเลยจะยังเหลือท่าทีเคร่งเครียดดุดันเหมือนก่อนหน้านี้อีก?

“ข้าให้ 3 ล้านตำลึงทอง !”

“ข้าให้ 3 ล้าน 2 แสนตำลึงทอง”

 

ยังไม่ทันได้เห็นโอสถ ราคาก็เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าแล้ว

ภายในห้องมู่ชิงเกอที่เฉยชาหัวเราะทีหนึ่ง และพูดว่า “แคว้นลี่ของพวกเจ้ามีคนรวยเยอะจริงๆ” เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว นางที่เป็นถึงคุณชายคนหนึ่งของแคว้นฉิน กลายเป็นคนจนคนหนึ่งไปเลย

“ข้าให้ห้าล้าน! ใครจะกล้าแย่งกับข้าอีก!” เสียงอันเย่อหยิ่งดังมาจากห้องที่อยู่อีกฝั่ง

เสียงนั่น พวกมู่ชิงเกอล้วนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะนั่นก็คือคุณชายจูผู้ที่สนิทสนมกับเชื้อวงศ์แคว้นลี่นั่นเอง

ดูเหมือนว่า เขาจะถูกโอสถเก้าชีวิตหวนคืนดึงดูดเข้าเสียแล้ว เพียงพริบตาก็ได้เสนอราคาที่สูงมากถึงเพียงนี้ ทั้งยังออกปากข่มขู่

เพียงเสียงเดียวของคุณชายจู ทำให้รอบๆ เงียบลงในทันที

มีหลายคนอยากจะเปิดปากพูด แต่ก็ถูกคนข้างๆ ดึงชายเสื้อไว้

“คุณชายจูผู้นี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เย่อหยิ่ง ธรรมดาเสียแล้ว ข้าว่าคนในนี้จำนวนไม่น้อยต่างก็เกรงกลัวเขา” เว่ยกว่านกว่านเบ้ปากอย่างเหยียดหยาม

เหลียนเอ๋อรํยิ้มเยาะ “พวกเขาไม่ได้กลัวคุณชายจู แต่กลัวคนที่คอยหนุนหลังเขาอยู่ต่างหาก หากได้โอสถตอนนี้ พวกเขาก็กลัวว่าจะต้องมาทิ้งชีวิตเพราะเหล่าทหาร”

“คุณชายจูผู้นี้มีอำนาจอย่างนี้เลยหรือ!” เว่ยฉีถามอย่างตื่นตระหนก

เหลียนเอ๋อร์จึงพูดว่า “เขามีพี่สาวคนหนึ่ง ถูกเรียกตัวเข้าไปปรนนิบัติภายในวัง เป็นที่โปรดปรานมาก ได้ยินมาว่าพี่สาวของเขารักและตามใจเขามาก แม้จะต้องการดวงดาวบนฟ้า ก็จะหามาให้เขา”

“ที่แท้ก็ใช้อำนาจพี่สาว” เว่ยฉีหมดอารมณ์ในทันที

ไม่มีใครต่อรองราคาอีกต่อไป ใบหน้าอันเหี้ยมโหดของคุณชายจูฉายแววได้ใจ

และในขณะนี้เอง ก็พลันมีเสียงอันแฝงความเกียจคร้านดังขึ้น “8 ล้านตำลึงทอง”

ทันทีที่สิ้นเสียงนี้ ทำให้ทุกคนอึ้งจนอ้าปากค้างในทันที นี้มันต่างกัน 3 ล้านเชียวนะ เงินเยอะจนไม่รู้จะใช้อย่างไรหรือ

คุณชายจูที่อยู่อีกฝั่งใบหน้าได้ใจก็เปลี่ยน เป็นโหดเหี้ยมขึ้นในทันที

ภายในห้องของมู่ชิงเกอ ทั้งสามมองนางอย่างตื่นตระหนก ราวกับคิดไม่ถึงว่าเหตุใดนางจึงเสนอราคา โอสถนี้ไม่มีแล้วมิใช่หรือ อีกอย่างนางเป็นเจ้าของโอสถนี้ ยังจะไปร่วมสนุกอะไรอีก

“10 ล้าน!” ท่ามกลางความตื่นตระหนก สายตาของคุณชายจูฉายแววโหดเหี้ยมขึ้นอีกครั้ง

มู่ชิงเกอกระตุกมุมปาก พูดด้วยแววตาที่ทอประกายขบขันว่า “10 ล้าน 1 หมื่น”

ในห้องของคุณชายจูมีเสียงแตกหักของแก้ว ครู่หนึ่งก็มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งว่า “11 ล้าน”

“15 ล้าน!”

“18 ล้าน!”

“19 ล้าน!

“1…”

“คุณชาย เราไม่ได้มีเงินมากมายถึงเพียงนั้น” คนใช้ของคุณชายจูรีบขัดจังหวะของเขา โดยการกระซิบเบาๆ

แต่ทว่า คุณชายจูที่ถูกมู่ชิงเกอยั่วโมโห จะยอมหยุดได้อย่างไร ในตอนนี้ ไม่ใช่เพราะโอสถ แค่เพราะเสียหน้าไม่ได้! เสียหน้าไม่ได้! เข้าใจหรือไม่

เขาผลักองครักษ์ที่ยืนบังอยู่ข้างหน้าและกัดฟันพูดว่า “20 ล้านตำลึงทอง!”

“25 ล้านตำลึงทอง!” แต่ทว่าเสียงอันเย็นเยียบยังคงกัดเขาไม่ปล่อย

ทุกคนที่อยู่ข้างนอกอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก

แม้ว่าโอสถเม็ดนี้จะพลิกฟ้าพลิกปฐพีมากเพียงใด แต่หากซื้อด้วยเงิน 25 ด้านตำลึงทอง ก็ยากที่ตระกูลๆ หนึ่งจะรับไหว

ในขณะเดียวกันพวกเขาก็แอบฉงนใจเป็นอย่างมากว่า เศรษฐีที่ไหนกันที่กล้าแข่งความร่ำรวยกับคุณชายจู

พวกเขากลับไม่รู้ว่า มู่ชิงเกอไม่ใช่เศรษฐีอะไรและไม่ได้มีเงินมากมายถึงเพียงนั้น แต่ว่าเวลาเสนอราคากลับไม่มีความกดดันหรือภาระอะไร

แม้ว่าจะเสนอราคาถึง 100 ล้าน นางก็จะไม่แม้กระทั่งจะขมวดคิ้ว

เพราะไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้นางต้องการให้เจ้าคนแซ่จูได้เจอดีซะบ้าง จะได้รู้ว่าหากคุณชายโกรธขึ้นมาก็ไม่ใช่เล่นๆ

“30 ล้าน! ข้าจะวาง 30 ล้านตำลึงทอง! แก่นสมองของสัตว์ที่เก่งกาจมากกว่าสายเหลือง! เจ้ายังจะให้มากกว่านี้มั้ย” ท่านชายจูถูกกดดันจนตาแดง

ฟังออกว่านี่ถึงขีดจำกัดสุดๆ ของคุณชายตระกูลจูแล้ว ถ้ายังกดดันต่อไป เขาอาจจะยอมแพ้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!