Skip to content

พลิกปฐพี 109-2

ตอนที่ 109-2

ฟ่งอวี๋กุยแย่แล้ว!

เว่ยหลินหลางหัวเราะเพราะคำพูดของลูกสาว สำหรับโอสถที่อยู่ในมือของฟ่งอวี๋กุยเขาไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะว่า สำหรับเขาแล้ว ทักษะทางยาของมู่ชิงเกอผู้ที่สามารถรักษาภรรยาของเขาได้เก่งกาจมากที่สุด และมากกว่าองค์ชายสามเป็นอย่างมาก

“ขอแสดงความยินดีกับองค์ชายสามที่สามารถหลอมโอสถเช่นนี้ได้ คนของแซ่เว่ยได้หายจากอาการป่วยแล้ว โอสถนี้ฝ่าบาททรงเก็บกลับไปก่อนเถิดเผื่อใช้ในยามจำ ป็น” คำพูดปฏิเสธนี้ ถือว่าเป็นการไว้หน้ามากที่สุดแล้ว

แต่ทว่า ในสายตาของฟ่งอวี๋กุย ก็ยังคงรู้สึกว่า เว่ยหลินหลางยังคงไม่รู้ว่าอะไรควรอะไรมิควร เขาได้ลดตัวลงมาตีสนิทหลายต่อหลายครั้ง กลับได้รับผลลัพธ์เช่นนี้ทุกครั้ง ฟ่งอวี๋กุยรู้สึกไม่พอใจ พลันพูดด้วยนํ้าเลียงอันเย็นเยียบว่า “ฮูหยินหายดีแล้วอย่างนั้นหรือ ถ้าเช่นนั้น อวี๋กุยก็จะไม่บังคับ แต่ท่านเจ้าเมืองเว่ยจะแนะนำผู้สูงศักดิ์และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถที่รักษาฮูหยินผู้นั้นให้ข้าหน่อยได้หรือไม่”

“ผู้สูงศักดิ์ที่ฝ่าบาทอยากจะพบได้นั่งอยู่ในที่นี่ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ” เว่ยกว่านกว่านยิ้มอย่างเย้ยหยัน

“อยู่ในที่แห่งนี้อย่างนั้นหรือ” ฟ่งอวี๋กุยขมวดคิ้ว พลันกวาดสายตาอีกรอบและก็ยังคงไม่พบอะไร ความรู้สึกราวกับโดนกลั่นแกล้งได้ปะทุขึ้นใจของเขา

เมื่อเขาไม่เห็น เว่ยหลินหลางจึงรีบพูดว่า “ฝ่าบาท ผู้ที่รักษาฮูหยินของแซ่เว่ยจนหายคือน้องมู่ผู้นี้”

เขา!

ฟ่งอวี๋กุยหรี่ตาลง มองมู่ชิงเกอที่ท่าทางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ จะเป็นเขาได้อย่างไร อายุของเขาเพิ่งจะเท่าไหร่เอง!

ดวงตาอันฉายความโหดเหี้ยมหรี่ลง ร่องตาเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ มู่ชิงเกอกลับดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร

ยังคงห่วงแต่ดื่มเหล้าและทานกับแกล้มเป็นครั้งคราว ค่อยๆ เก็บสายตาสอบสวนกลับมา ฟ่งอวี๋กุยเยาะเย้ยอย่างไม่อาจจะทนได้ว่า “ท่านเจ้าเมืองเว่ยแน่ใจแล้วหรือว่าฮูหยินหายดีแล้ว อย่าได้โดนคนโกหกหลอกลวง จนเสียชื่อเสียง”

“นี่  เจ้าหมายความว่าอย่างไร!” เว่ยกว่านกว่านกระโดดออกมาอย่างทนไม่ไหวอีกครั้ง เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับมู่ชิงเกอ เว่ยฉีก็ลุกขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ เพื่อแก้แค้นพร้อมกับน้องสาว “องค์ชายสามโปรดระวังคำพูด มู่เกอช่วยชีวิตท่านแม่ของเราเอาไว้ เป็นผู้มีพระคุณของจวนตระกูลเว่ย อีกทั้งงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ก็จัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณต่อเขา” ปฏิกิริยาของทั้งสอง ทำให้ใบหน้าของฟ่งอวี๋กุยมืดมนดั่งถ่าน

ในขณะนี้เอง เว่ยหลินหลางก็พูดขึ้นอีกครั้ง และมีจุดยืนเดียวกันกับลูกทั้งสองจึงพูดอย่างเคร่งขรึมและแน่วแน่ว่า “ใช่ องค์ชายสาม มู่เกอได้รักษาคนของเราให้หายดีแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ น้องมู่จะเป็นผู้มีพระคุณของจวนตระกูลเว่ยของข้าตลอดไป รวมทั้งเป็นแขกผู้มีเกียรติของเราด้วย”

พูดจบ เขาไม่รอให้ฟ่งอวี๋กุยตอบกลับ ก็พูดเสียงดังกับผู้คนในจวนตระกูลเว่ยว่า “ทุกท่าน แซ่เว่ยจะแนะนำน้องมู่ตั้งแต่แรก แต่ถูกขัดจังหวะ ในตอนนี้ แซ่เว่ยขอ ประกาศว่า น้องมู่ยังคงเป็นผู้มีพระคุณของข้า เว่ยหลินหลาง หากทุกท่านเห็นข้าอยู่ในสายตา ก็ต้องปฏิบัติกับเขาดั่งเป็นที่ปฏิบัติกับข้า”

“น้อมรับคำสั่ง!”

แม้ว่าในใจจะตื่นตระหนก และไม่กระจ่างมากเพียงใด แต่เพียงแค่คำสั่งเดียวของเว่ยหลินหลาง ทุกคนในจวนตระกูลเว่ยต่างก็คุกเข่าลง พร้อมประสานหมัดเพื่อคำนับมู่ชิงเกอที่นั่งอยู่บนที่นั่ง

ในวินาทีนี้ มู่ชิงเกอแม้จะอยากดูทุกอย่างอย่างห่างๆ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้แล้ว

เมื่อไม่รู้จะควรจะทำเช่นไร จึงเพียงค่อยๆ ลุกขึ้น แล้วพูดกับทุกคนที่ประสานหมัดคำนับนางว่า “ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ พี่เว่ยก็พูดเกินไป หากเราคุยกันได้เช่นนี้ ก็เป็นดั่งครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นทดแทนบุญคุณมากมายถึงเพียงนั้น”

อุปนิสัยของเว่ยหลินหลางคือให้ความสำคัญกับทุกความสัมพันธ์ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของมู่ชิงเกอก็ยิ่งซาบขึ้ง พูดต่อไปว่า “ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องของเราก็ ส่วนหนึ่ง แต่บุญคุณก็ไม่อาจจะลืมได้ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป อำนาจในทุกการกระทำ ทุกคำดั่งของท่านในจวนตระกูลเว่ยจะมีความสำคัญทัดเทียมกับข้า”

หลังจากที่สิ้นเสียงนี้ สีหน้าของฟ่งอวี๋กุยก็เย็นเยียบลงมากกว่าเดิม และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ท่านเจ้าเมืองเว่ย การจัดการนี้ของท่านจะเกินความจำเป็นไปหรือไม่”

“องค์ชายสาม การตัดสินใจของแซ่เว่ย ยังต้องให้องค์ชายสามอนุญาตก่อนด้วยหรือ” เว่ยหลินหลางถาม พลางขมวดคิ้ว

เมื่อสัมผัสได้ว่า ในคำพูดของเว่ยหลินหลางแฝงความโกรธ ฟ่งอวี๋กุยก็ขมวดคิ้วและกัดฟันและพูดว่าอย่างเย็นเยียบว่า “ท่านเจ้าเมืองเว่ยอย่าได้ล้อเล่นเช่นนี้เลย ข้าจะไปยุ่งกับการตัดสินใจของท่านเจ้าเมืองเว่ยได้อย่างไร เพียงแต่ว่า ฟ่งอวี๋กุยไม่อยากจะให้ท่านเจ้าเมืองเว่ยโดนคนนอกหลอก จึงได้เตือนด้วยความหวังดี”

“องค์ชายสาม กระหม่อมเคารพพระองค์ แต่น้องมู่ก็เป็นน้องชายของแซ่เว่ย รวมทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณของแซ่เว่ยไม่ใช่คนหลอกลวงหรือคนร้ายอะไร ขอให้ฝ่าบาทโปรดระวังคำพูดด้วย” นํ้าเสียงของเว่ยหลินหลางเย็นเยียบลง

คำพูดของเว่ยหลินหลาง ทำให้ใบหน้าของฟ่งอวี๋กุยกระตุกทีหนึ่ง

เว่ยฉีและเว่ยกว่านกว่านอยากร้องไห้แต่ก็ไม่สามารถร้องออกมาได้

คราวนี้ คนที่กำลังแอบรักได้กลายเป็นน้องชายของท่านพ่อ มีฐานะเป็นอาของพวกเขา แล้วพวกเขาควรจะทำอย่างไรดี

ท่าทางอันดื้อรั้นของเว่ยหลินหลาง ทำให้ในใจของฟ่งอวี๋ กุยเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ เขาไม่ได้เถียงต่อ เพียงแค่มองมู่ชิงเกอที่นั่งอยู่บนเวที แล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เจ้ามีทักษะด้านการปรุงยาอย่างนั้นหรือ ข้าดูแล้วเจ้าก็อายุเพียงไม่เกิน 16-17 ปี อายุเพียงเท่านี้ ทักษะการปรุงยาของเจ้าจะแน่แค่ไหนกันเชียว” ประเด็นได้ถูกเบี่ยงมาทางมู่ชิงเกอ เว่ยหลินหลางหรี่ตาและในขณะที่กำลังจะออกปากห้าม กลับเห็นมู่ชิงเกอส่งสัญญาณให้หยุด จึงรอดูทุกอย่างอย่างเงียบๆ

แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น การที่องค์ชายสามมาปะทะกับมู่ชิงเกอ ทำให้เขารู้สึกเป็นกังวล

สำหรับการจงใจหาเรื่องของฟ่งอวี่กุย มู่ชิงเกอกระตุกยิ้มอย่างขบขันนางก้มสายตาลงมองมือที่กำแน่นของฟงอวี๋กุย

โอสถที่อยู่ในกำมือนั้น ทำให้รอยยิ้มของมู่ชิงเกอซัดเจนกว่าเดิม

“ทักษะด้านการปรุงยาของข้าอย่างนั้นหรือ อืม เอาอย่างนี้ โอสถที่อยู่ในมือขององค์ชายสามเมื่อครู่นี้เป็นโอสถที่ข้าสามารถปรุงออกมาได้หม้อหนึ่งตลอดเวลา” ในนํ้าเสียงของมู่ชิงเกอแฝงความโหดเหี้ยม

เมื่อครู่นี้ ฟ่งอวี๋กุยเพิ่งจะบอกว่า เขาปรุงโอสถเม็ดนี้ออกมาอย่างยากลำบากถึงจะได้มาสักเม็ดมิใช่หรือ

ในตอนนี้ เขายังจะสงสัยในความสามารถด้านการปรุงยาของนาง ตอบเขาไปเช่นนี้ก็แล้วกัน

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร เจ้าบังอาจหัวเราะเยาะข้าหรือ!” เปลวเพลิงแห่งโทสะได้ปะทุออกจากสายตาของฟ่งอวี่กุยและจ้องมู่ชิงเกอเขม็ง

“มิบังอาจ” มู่ชิงเกอกระตุกยิ้ม เผยฟันขาวดั่งเปลือกหอย ใบหน้าอันงดงามดั่งดอกไม้ผลิบานชวนให้ตกตะลึง “ข้าเพียงแค่กำลังพูดความจริง”

แววตาตะลึงในความงามหายไปจากสายตาของฟ่งอวี๋กุยในทันที

แม้นหน้าตาจะงดงาม แต่คำพูดนั้น ช่างทำ ห้เขาอยากบีบมันให้แหลกละเอียด!

“ความจริงอย่างนั้นหรือ หึ เจ้ารู้หรือไม่ว่าโอสถนี้อยู่ในระดับใด แม้กระทั่งท่านอาจารย์โหลวยังไม่กล้ายืนยันว่า โอสถนี้ปรุงจากอะไรและมีปริมาณเท่าไหร่ เจ้ากล้าดีอย่างไร จึงได้พูดจาอวดดีเช่นนี้” น้ำเสียงของฟ่งอวี่กุย ทั้งเย็นเยียบและฉายความเย้ยหยัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!