Skip to content

พลิกปฐพี 115-3

ตอนที่ 115-3

ท่านมั่วโปรดออกไปเถิด!

ทั้งสองที่นอนกอดกัน ถูกความอบอุ่นจากแสงแรกของพระอาทิตย์ปกคลุมเอาไว้

ขนตาอันยาวงอนเป็นแพของมู่ชิงเกอสั่นหลายที ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

ความงัวเงียค่อยๆ หายไปจากดวงตาของนาง ทำให้นางเห็นทุกอย่างในห้องได้อย่างชัดเจน

ทันทีที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจของคนข้างๆ มู่ชิงเกอก็ตกใจและรีบหันกลับมามอง

สิ่งที่เห็นกลับเป็นใบหน้าอันงดงามหล่อเหลา ในระยะประชิดเช่นนี้ทำให้เห็นมู่ชิงเกอเห็นทุกอณูขุมขนของเขาได้อย่างชัดเจน

นางพลันตกอยู่ในภวังค์อย่างกะทันหัน ซือมั่วที่กำลังหลับใหล เจือไปด้วยความรู้สึกหนาวเย็นถึงขั้วกระดูก ราวกับจะกีดกั้นเขาออกจากโลกใบนี้ไม่ เหมือนเขาที่อยู่ในจินตนาการของนาง ตัวจริงของเขาคือ ผู้ใดกันแน่

ในแววตาของมู่ชิงเกอฉายแววสงสัย และเพ่งสายตามองใบหน้าของซือมั่วอย่างถ้วนถี่อย่างไม่รู้ตัว

“ข้านอนกับเขามาทั้งคืนเลยหรือ!” มู่ชิงเกออุทานในใจ ในค่ำคืนนี้นางหลับสนิทเป็นพิเศษและเมื่อตื่นมาแล้ว นางรู้สึกว่าพลังในตัวได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทันใดนั้น นางก็พลันสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและชายที่อยู่ตรงหน้า ในตอนแรก เขาเป็นดั่งดวงจันทร์ที่อยู่บนฟากฟ้า ส่วนนางก็เป็นดั่งแสงแรกของดวงอาทิตย์ระหว่างพวกเขาไม่ควรจะมาบรรจบกันได้ แต่กลับมาพบกันราวกับ ปาฏิหาริย์ ความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นที่เขามีต่อนาง รวมทั้งการที่เขารู้ทุกเรื่องราวบนโลกใบนี้ทำให้นางรู้สึกไม่ชอบใจ

ในขณะเดียวกันก็กำลังค่อยๆ คุ้นชินกับทุกอย่างในตัวของเขา และกำลังยอมรับในทุกสิ่งที่เป็นเขา

เขาเข้าสู่โลกของนางอย่างแตกต่าง และกลายเป็นที่พึ่งที่มั่นคงที่สุดของนาง ทำให้นางไม่อาจจะแยกแยะได้ว่าสิ่งใดคือความจริงและสิ่งใดคือความฝัน

แต่ทว่า ความรู้สึกเช่นนี้กลับไม่ใช่สิ่งที่มู่ชิงเกอชอบนัก

ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในขณะที่นางเองก็ยังไม่รู้ตัว มู่ชิงเกอได้เม้มริมฝีปากทั้งสองไว้แน่น

นางไม่เคยพึ่งพาใครเพื่อความอยู่รอด นางจะต้องสร้างตำนานด้วยตัวของนางเอง กลายเป็นผู้ที่เก่งกาจ และยืน อยู่ในจุดที่สูงที่สุดของโลกใบนี้

ในตอนนี้ซือมั่วที่เป็นดั่งที่พึ่งพิงได้ปรากฏตัวอยู่ข้างกาย นาง แต่ว่า สักวันหนึ่ง นางเองก็หวังว่าตนเองจะเติบโต จนส่งสูงดังเช่นนั้น ยืนเคียงข้างเขาในยามที่เขาต้องการ เพื่อทดแทนบุญคุณนี้

เก่งกาจมากขึ้น! ข้ายังต้องเก่งกาจให้มากกว่านี้! สาย ม่วงเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!

ความแน่วแน่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในดวงตาของมู่ชิงเกอ ราวกับก้อนหินกลางทะเล ที่ไม่ว่าคลื่นทะเลจะซัดแรงเพียงใด ก็ไม่อาจสร้างความสะเทือนได้เลยแม้แต่น้อย

“ขมวดคิ้วแน่นขนาดนี้ได้อย่างไรกัน” อยู่ๆ ซือมั่วก็ลืมตา ทั้งสองข้างขึ้น ในส่วนลึกของดวงตาเผยรอยยิ้ม แต่กลับไม่เหมือนคนเพิ่งตื่นเลยแม้แต่น้อย

มู่ชิงเกออึ้ง ในดวงตาอันสว่างกลับสู่สภาพปกติในทันที นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “แกล้งหลับสนุกหรือไม่”

ซือมั่วพูดพร้อมรอยยิ้ม “ข้าเห็นว่าเจ้ากำลังมองอย่างใจจดใจจ่อ จึงไม่อยากจะรบกวน”

อุทานอย่างเย็นเยียบคำหนึ่ง มู่ชิงเกอพลิกตัวลงเตียง พลันหันหลังให้กับชายหนุ่มเพื่อจัดเสื้อผ้าของตนเอง

ซือมั่วพยุงร่างของตนเองเอาไว้ มองร่างอันผอมบางและสง่างามพร้อมรอยยิ้มที่เผยอยู่ตรงมุมปาก เขาพูดขึ้นว่า “เมื่อคืนหลับสบายมาก ข้าไม่ได้รับความสบายใจเช่นนี้มานานแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นความชอบของเสี่ยวเกอเอ๋อร์ทั้งนั้น”

มู่ชิงเกอหยุดการกระทำลงอย่างกะทันหัน และกระจ่างขึ้นมา ‘แท้จริงแล้ว คนที่หลับสบายไม่ได้มีเพียงแค่นางคนเดียว!’

แต่ทว่า เพิ่งจะคิดได้เช่นนี้ มู่ชิงเกอก็พยักหน้าและเดินหนีออกไป

นางหันหลังกลับและพูดอย่างเย็นชาว่า “นอนอิ่มแล้วก็ไปได้แล้ว!”

อีกครู่หนึ่งโย่วเหอและฮวาเยวี่ยก็จะเข้ามาปรนนิบัติ นางไม่อยากจะให้ทั้งสองเห็นว่านางอยู่ร่วมห้องกับผู้ชาย

ในครานี้ซือมั่วไม่ปฏิเสธที่จะจากไป เพียงแต่ว่าคำพูดก่อนจากไปของเขา กลับทำให้มู่ชิงเกอโกรธจนแทบอยากจะฆ่าคน

“ข้ารู้ว่าเสี่ยวเกอเอ๋อร์เป็นคนขี้อาย ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ประเดี๋ยวกลางคืนค่อยมาใหม่”

“สมควรตาย!” มองเตียงที่ว่างเปล่า มู่ชิงเกอกัดฟันด่า

เมื่อความรู้สึกของมู่ชิงเกอกลับสู่สภาพปกติ และเดินออกจากไป ก็ไม่เห็นเงาร่างของซือมั่วอีกเลย ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน

เมื่อออกจากเรือน ก็ยังคงไม่เห็นซือมั่ว มู่ชิงเกอคิดทบทวนแล้วจึงรู้สึกว่าชายผู้นี้อาจจะไปทำธุระของตนเอง เพราะฉะนั้นนางจึงพาโย่วเหอและฮวาเยวี่ยออกจากเรือนชั่วคราวนี้

การสมัครเข้าเรียนในโรงโอสถได้เสร็จสิ้นแล้วในตอนนี้ รอเพียงอีกสองวันก็จะมีคนของโรงโอสถพาทุกคนไปเข้าเรียนภายในโรงโอสถ

สองวันนี้ ถือว่ามีเวลาเที่ยวเมืองซางจี่อให้สมใจ เมื่อมาถึงที่นัดพบกับพี่น้องตระกูลเว่ยเมื่อวาน ยังไม่ทันที่จะเดินไปไหนไกล มู่ชิงเกอก็เห็นทั้งสี่ที่นั่งอยู่ภายในศาลา

“มู่เกอ ท่านมาเร็ว!” เว่ยกว่านกว่านตาดีเป็นคนแรกที่เห็นมู่ชิงเกอเดินเข้ามาใกล้ จึงรีบเรียกอย่างตื่นเต้น

มู่ชิงเกอพยักหน้าและเดินเข้าไปในศาลา

นางปรากฏตัวพร้อมโย่วเหอและฮวาเยวี่ย ทั้งสี่ที่อยู่ในศาลาต่างลุกขึ้นมอง

เว่ยฉีเดินไปอยู่ข้างๆ นางและพูดว่า “มู่เกอมาได้ทันเวลาพอดี เรากำลังคิดว่าจะไปหาฟ่งอวี๋กุยเพื่อแก้แค้น”

“ใช่ คนผู้นั้นช่างเลวทราม จะปล่อยมันเอาไว้ใม่ได้!” สุ่ยหลิงเองก็พูดอย่างมีโทสะ พูดจบ นางพลันจ้องฟู่เทียนหลงแวบหนึ่ง

อีกฝ่ายก็จ้องนางแวบหนึ่งเช่นกัน แล้วพยายามรวบรวมความกล้าและพูดกับมู่ชิงเกอว่า “ขอโทษ” เสียงไม่ดังและราวกับแฝงความไม่จำยอม

มู่ชิงเกอกลับไม่ได้รู้สึกอะไร สุ่ยหลิงเองที่ยกขาขึ้นเตะฟู่เทียนหลงอย่างไม่พอใจ “ไม่มีความจริงใจเลยแม้แต่น้อย”

ทันใดนั้น ฟู่เทียนหลงก็หน้าแดง ทำได้เพียงตะเบ็งเสียง พูดกับมู่ชิงเกอว่า “มู่เกอ ขอโทษ!”

“ท่านก็เพียงแค่ถูกคนชั่วหลอกใช้เพียงเท่านั้น” มู่ชิงเกอยิ้มอย่างไม่ใส่ใจมากนัก

จากนั้น นางก็หันไปมองเว่ยฉีและพูดว่า “เจ้าคิดจะไปเอาความฟ่งอวี๋กุยหรือ อย่าลืมว่า ท่านพ่อของเจ้าคือเจ้าเมืองเมืองถัว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นถึงองค์ชายแห่ง แคว้นลี่”

“เป็นเช่นนั้นแล้วอย่างไรใครใช้ให้เขากล้าวางแผนปองร้ายท่านเช่นนี้!” เว่ยฉีพูดด้วยความโกรธ

เว่ยกวานกว่านเองก็พูดว่า “ใช่! เขาไม่เพียงปองร้ายท่าน ก็ยังแอบทำลายชื่อเสียงของข้า แม้ว่าท่านจะไม่อยากแก้แค้น ข้าก็จะแก้แค้น!” พูดจบ นางก็จ้องฟู่เทียน หลงอย่างโหดเหี้ยมครู่หนึ่ง

มู่ชิงเกอกวาดสายตามองทุกคนรอบหนึ่ง แล้วก็พอจะเข้าใจแล้ว

ดูเหมือนว่า เมื่อคืนหลังจากที่นางกลับไปแล้ว พวกเขาได้ ‘คาดคั้นเอาความ’ ให้ฟู่เทียนหลงเล่ารายละเอียดทั้งหมด

ฟู่เทียนหลงถูกเว่ยกว่านกว่านจ้องเขม็ง ก็รู้สึกไม่ชอบใจ เขาพูดเสียงเข้มว่า “เจ้านั่นโกหกข้าและยังหลอกใช้ข้า ข้าจะไม่ปล่อยมันเอาไว้เป็นแน่”

“แล้วพวกท่านจะตามหาเขาอย่างไร และจะแก้แค้นเขาอย่างไร” มู่ชิงเกอพูดพร้อมรอยยิ้ม

เว่ยฉีพูดพร้อมรอยยิ้มอันสดใสในทันที “ตอนที่ข้ามาที่นี่ ได้สืบจนรู้ว่า ฟ่งอวี๋กุยก็เป็นศิษย์รุ่นนี้ของโรงโอสถ ในวันนี้มันได้นัดศิษย์เก่าผู้หนึ่งไปพายเรือที่ทะเลสาบชุ่ย”

“แล้วจากนั้นล่ะ” มู่ชิงเกอถาม เว่ยฉียังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกเว่ยกว่านกว่านแทรกขึ้นมา “เราไปเปิดโปงความชั่วของมัน แล้วบอกทุกคนว่า มันอ้างตัวเป็นท่าน โดยการบอกว่ายาของท่านเป็นยาที่มันปรุงขึ้นเอง แล้วเรื่องเมื่อวานเราก็ต้องเปิดโปงทั้งหมด เพื่อให้มันอับอายจนเอาหน้ามุดดินไปเลย”

“เรามีพยาน!” สุ่ยหลิงกระชากคอเสื้อของฟู่เทียนหลงขึ้นมาพูดด้วยความโกรธ

ท่าทางมีศัตรูที่ต้องล้างแค้นคนเดียวกันของทั้งสี่ ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกขบขัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!