Skip to content

พลิกปฐพี 126-3

ตอนที่ 126-3

รักเจ้าจนกลายเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาได้

ทันทีที่เข้ามาอยู่ในสวน โย่วเหอก็รายงานสิ่งที่ตนเองไปสืบมาต่อมู่ชิงเกอ “คุณชาย ข้าได้สืบจนกระจ่างแล้ว กองกำลังที่ลอบทำร้ายท่านได้ถูกกวาดล้างไปแล้ว คิดว่าผู้ที่ถูกคุณชายฆ่าไปในวันนั้นน่าจะเป็นผู้เก่งกล้าทั้งหมดของพวกเขาแล้ว ส่วนเตียวหยวนนอกจากจะติดต่อกับกองกำลังกลุ่มนี้แล้ว ยังสนิทสนมกับกองกำลังอีกสามกลุ่ม กองกำลังสามกลุ่มนั้น ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีฝืมือ ท่ามกลางกลุ่มกองกำลังทั้งหลาย ได้ข่าวว่าหัวหน้าของ พวกเขาเป็นมากกว่าสายคราม และยังมีอีกกลุ่มที่มีหัวหน้าเป็นถึงสายนํ้าเงินขั้นต้น”

มู่ชิงเกอหรี่ตาทั้งสองข้างลงและฟังอย่างตั้งใจ ข่าวที่โย่วเหอสืบมาสร้างความตะลึงให้กับนาง

นางคิดไม่ถึงว่า กลุ่มกองกำลังเร่ร่อนเหล่านี้จะมียอดฝีมือสายนํ้าเงินอยู่

ยอดฝีมือเช่นนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในที่ใดของแคว้นระดับสาม ก็สามารถสร้างเป็นตระกูลตระกูลหนึ่งได้เลย หรืออาจจะช่วยเสริมกำลังให้กับกองกำลังที่ใหญ่โตก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่า มาเป็นกลุ่มกองกำลังเร่ร่อนเช่นนี้ช่างน่าเสียดายเสียจริง

โดยเฉพาะมาเป็นกองกำลังเร่ร่อนที่เป็นพวกเดียวกับเตียวหยวน

สายตาของมู่ชิงเกอมืดมนลง นัยน์ตาเต็มไปด้วยไอสังหารอันเย็นเยียบ

“สามกลุ่มรวมกัน มีประมาณพันคน เป็นมากกว่าสายเขียวสามร้อยกว่าคน ที่เหลือ ส่วนมากเป็นสายส้มและสายแดง” โย่วเหอพูดเสริม

มู่ชิงเกอกระตุกยิ้มที่แฝงความขบขันตรงมุมปาก นางหมุนแหวนหยกในมือ พลางสั่งฮวาเยวี่ยและโย่วเหอว่า “เขียนจดหมายถึงมั่วหยางให้เขาส่งกำลังองครักษ์ที่อยู่ ใกล้เมืองซางจื่อมากที่สุดกลับมา ข้าจะกวาดล้างพันกว่าคนนั้นไม่ให้เหลือ”

เตียวหยวนคิดว่าตนเองสามารถปิดแผ่นฟ้าได้ด้วยฝ่ามือเดียวมิใช่หรือ ถ้าเช่นนั้น นางก็จะตัดมือที่อยู่ข้างนอกของเขาให้ขาดเป็นอันดับแรก!

โย่วเหอเงยสายตาขึ้น และรับคำว่า “รับทราบ” นางพูดต่อด้วยความงุนงงว่า “อีกฝ่ายมีสายนํ้าเงินขั้นต้น เรา…” ในตอนนี้ผู้ที่มีพลังเวทสูงสุดขององครักษ์เขี้ยว มังกรคือมั่วหยาง แต่ก็เป็นเพียงแค่สายครามเท่านั้น

“สู้ไม่ได้ก็ใช้นี่” มู่ชิงเกอขี้หัวของตนเอง “เอาแต่รังแกคนที่ด้อยกว่าจะน่าตื่นเต้นได้อย่างไร จะต้องคิดหาวิธีเอาชนะผู้ที่เหนือกว่าจึงจะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว”

นึกถึงตอนแรก ที่นางเป็นเพียงแค่สายเหลือง ก็ใช้ชีวิตแลกชีวิตฆ่าท่านผู้เฒ่าเป่ยหมิงที่เป็นสายม่วง ในตอนที่เป็นสายเขียว ก็ต่อสู้กับผู้อำนาจจากภายนอกโดยไม่มีโอกาสได้เตรียมใจเช่นกัน ในวันนี้องครักษ์เขี้ยวมังกร เพียงแค่เจอกับสายนํ้าเงินขั้นต้นเท่านั้น ยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะถอย

โย่วเหอเงียบ

มู่ชิงเกอพูดต่ออีกว่า  “ช่วงที่กองทหารเขี้ยวมังกรกำลังมา เจ้าทั้งสองรับผิดชอบค้นหาและรวบรวมข่าวสาร ความสำเร็จของภารกิจชิ้นหนึ่ง ส่วนมากล้วนพึ่งข่าวสารที่มีความถูกต้อง”

“รับทราบ! คุณชาย”

“รับทราบ! คุณชาย”

โย่วเหอและฮวาเยวี่ยรับคำ

“เอาเถิด พวกเจ้ามีอะไรก็ไปทำ ไม่ต้องสนใจข้า” มู่ชิงเกอยกมือขึ้นสะบัด นํ้าเสียงเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย

ราวกับว่า หลังจากที่กินอิ่มแล้ว นางยังอยากจะกลับไปพักสายตา

สุดท้ายแล้ว มู่ชิงเกอก็ไม่ได้พักสายตา

นางเข้าไปในช่องว่าง และทำการทดลองปืนของนางต่อ โครงสร้างของปืนไม่มีปัญหาอะไรแล้ว สิ่งที่ต้องจัดการคือ ปัญหาเรื่องลูกกระสุน นางอยากใช้แก่นสมองของสัตว์ที่มีพลังเวทมาสร้างเป็นกระสุน แต่ว่าใช้แก่นสมองหนึ่งแก่นสร้างกระสุนหนึ่งลูก ราวกับว่าจะสิ้นเปลืองเกินไป

“หากสามารถเก็บรักษาพลังงานจากแก่นสมองของสัตว์ที่มีพลังเวทเอาไว้ แบ่งใช้หลายครั้งก็คงจะดี เหมือนปืนรังสีของโลกอีกใบ ที่ใช้พลังงานในการเติมในแต่ละครั้ง แต่ใช้ได้นานมาก และจะต้องเพิ่มพลังการยิงให้มากขึ้น และมากที่สุด” มือข้างหนึ่งของมู่ชิงเกอถือแก่นสมองแก่นหนึ่งเอาไว้ แล้วพึมพำ

มีแนวคิดแล้ว แต่ต้องใช้เวลาค่อย ๆ ปรับแก้ และทำมันออกมา

นอกจากนั้นคือหากสามารถใช้แก่นสมองเป็นพลังงานได้ ชิ้นส่วนที่ใช้สร้างปืนกรีเนทลันเชอร์ก็ต้องดีกว่าเดิม ไม่เช่นนั้น เพียงใช้ไม่กี่ครั้งก็จะระเบิด เกิดอันตรายต่อคนของเราเองจะแย่

“สำหรับวัตถุดิบ สามารถให้องครักษ์เขี้ยวมังกรและกองทหารพันเพลิงช่วยหา ที่เหลือค่อยหาจากหอสรรพสิ่ง ก็คงไม่เป็นปัญหา” มู่ชิงเกอพึมพำเบาๆ อยู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นว่า  “เหมิงเหมิง”

“เจ้านายๆ ท่านเรียกเหมิงเหมิงผู้มีความอดทนที่สุดมี เรื่องอันใด” เหมิงเหมิงปรากฏตัวตรงหน้ามู่ชิงเกอในทันที

มู่ชิงเกอถามว่า “เหมิงเหมิง ที่นี่มีวัตถุดิบหลอมอาวุธดีๆ หรือไม่”

เหมิงเหมิงพยักหน้าโดยไม่คิด “แน่นอนว่ามี!”

มู่ชิงเกอตาเป็นประกายในทันที มีความสุขบางอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ทว่า คำพูดต่อไปของเหมิงเหมิง กลับทุบนางจากเมฆแห่งความสุขอันสูงสุดลงมาอยู่ใต้เหวลึก

“แต่ทว่า เหมิงเหมิงไม่สามารถแตะต้องได้” เหมิงเหมิงยื่นแขนอ้วนๆ ทั้งสองข้างออกมาโดยไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร พลันส่ายหน้า

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วแน่น “เจ้าจะแตะต้องไม่ได้อย่างไร ยาสมุนไพรเหล่านั้นเจ้าล้วนสามารถหยิบจับได้ตามใจมิใช่หรือ”

“นั้นเป็นเพราะว่า ยาสมุนไพรเหล่านั้นอยู่ข้างนอก เหมิงเหมิงสามารถแตะต้องได้ แต่ทว่า วัตถุดิบอาวุธถูกใส่กุญแจเอาไว้ในห้อง ข้าไม่สามารถเข้าไปได้ แน่นอนว่า ข้าเอาออกมาไม่ได้” เหมิงเหมิงพูดกับนิ้วก้อยอ้วนๆ ของตนเองอย่างไม่พอใจ

“เจ้าเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธมิใช่หรือ ในนี้มีที่ไหนบ้าง ที่ไม่สามารถไปได้” มู่ชิงเกอยังคงไม่เข้าใจ

ใครจะรู้ว่าเหมิงเหมิงกลับไม่พอใจมากกว่าเดิม

นางควํ่ามุมปากลง “หนูเป็นจิตวิญญาณแห่งอาวุธ แต่ความสามารถนั้นถูกผูกติดกับเจ้านาย!”

เอ่อ!

สีหน้าของมู่ชิงเกอดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมา พลัน ไอเบาๆ อย่างอึดอัดสองที ก่อนจะพูดว่า “เจ้าหมายความว่า เพียงแค่ข้าทะลวงขั้นพลังผ่านได้ เจ้าก็จะ เก่งกาจขึ้น และสามารถไปได้ไกลกว่าเดิมอย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว! เจ้านายโง่จังเลย! ยังไม่ทะลวงสู่สายม่วงอีก รอให้ท่านทะลวงสู่สายม่วงก็จะสามารถเปิดประตูห้องได้มากกว่าเดิม รวมทั้งวัตถุดิบหลอมอาวุธและทักษะ สงครามที่ท่านต้องการด้วยนะ!” เหมิงเหมิงพูดอย่างภาคภูมิใจ

กระตุ้น! ตั้งใจจูงใจนางชัดๆ กระตุ้นนาง!

มู่ชิงเกอสูดลมหายใจลึกๆ และรับปากกับเหมิงเหมิงอย่างแน่วแน่ว่า “วางใจเถิด ข้าจะพยายามฝึก!”

ออกจากช่องว่างก็กลางคืนแล้ว

มู่ชิงเกอเดินไปมาในเรือนรอบหนึ่ง พลันรู้สึกถึงความเย็นเยียบริ้วหนึ่ง

ถอดเสื้อคลุมออก มู่ชิงเกอเอนตัวลงบนเตียงนุ่ม ทันใดนั้นในใจก็มีความคิดที่ว่า ‘คืนนี้ เขาจะมาอีกหรือไม่’ ทันทีที่ความคิดเช่นนี้เกิดขึ้น ก็ถูกนางสลัดออกจาก หัวในทันที

“คิดอะไรอยู่! ไม่มาก็ดีแล้ว!” มู่ชิงเกอด่าตนเองและหันหน้าเข้าหาผนังห้อง หลับตาลงพยายามทำให้ตนเองหลับ

แต่ทว่า สุดท้ายในคืนนี้ นางก็นอนไม่หลับอยู่ดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!