Skip to content

พลิกปฐพี 139-4

ตอนที่ 139-4

พวกรนหาที่ตาย!

“เจ้าอ้วน เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” มู่เหลียนหรงถามเบาๆ

เจ้าอ้วนเช่าหันกลับมาก็เห็นสายตาที่แฝงความห่วงใย ของมู่ซงและมู่เหลียนหรง

เห็นท่าทางอันผอมแห้งอ่อนแอของทั้งสองแล้ว เจ้าอ้วนเช่าก็กัดฟัน แล้วส่ายหน้า

“ท่านปู่มู่ ท่านอาเหลียน พวกท่านอย่าได้กังวล ลูกพี่จะต้องมาช่วยพวกเรา” เจ้าอ้วนเช่าปลอบใจ

มู่ซงกลับถอนหายใจ “ข้ากลับไม่อยากให้เขามา”

ในวินาทีที่คนที่ชื่อเล่อเทียนปิดผนึกพลังเวทของเขาเอาไว้ เขาก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา

มู่เหลียนหรงกัดริมฝีปากเบาๆ และพูดกับมู่ซงว่า “ท่านพ่อ ชิงเกอเป็นคนดีฟ้าคุ้มครอง ไม่เป็นอะไรหรอก หากยังมีชิงเกอ ตระกูลมู่ของเราจะยังไม่ถือว่าจบสิ้น”

มู่ซงถอนหายใจและพยักหน้า แล้วก็มองท่านพ่อของเจ้าอ้วนเช่าด้วยความรู้สึกผิด “น้องเช่า ทำให้เจ้าลำบากเสียแล้ว ตระกูลมู่ของเราทำผิดต่อตระกูลเช่านัก”

ท่านพ่อของเจ้าอ้วนเช่ากลับส่ายหน้าและพูดพร้อมรอยยิ้ม “ท่านแม่ทัพ ความตายเบาดั่งขนนก หนักอึ้งดั่งเขาไท่ซาน ตระกูลมู่ถูกใส่ความเช่นนี้ หากตระกูลเช่าของเราสามารถทวงความยุติธรรมและยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับตระกูลมู่ ก็ถือว่าตายอย่างคุ้มค่า!”

มู่ซ่งเผยยิ้มเศร้า สำหรับคำพูดของท่านพ่อของเจ้าอ้วนเช่า ในใจรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก ท่านพ่อของเจ้าอ้วนเช่าค่อยๆ เก็บรอยยิ้ม และพูดด้วยนํ้าเสียงอันเคร่งขรึมว่า “ท่านแม่ทัพ เมื่อเทียบกับพวกคนที่ต้องตายเพราะทวงความยุติธรรมให้กับตระกูลมู่แล้ว การที่ตระกูลเช่าของเรายังมีโอกาสเดินไปพร้อมกับท่านแม่ทัพอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว”

มู่ซงรู้สึกเจ็บใจ พลันเงยหน้าขึ้นถอนหายใจยาว

คนนับร้อย ค่อย ๆ เดินขึ้นแท่นประหาร พวกเขายืนหันหน้าเข้าหากำแพงตำหนัก สำหรับฮ่องเต้ผู้ที่เคยเคารพ ตอนนี้พวกเขากลับไม่ยอมคุกเข่าให้อีก

ท่ามกลางคนเหล่านี้ ล้วนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลมู่และตระกูลเช่า รวมทั้งข้าทาสบริวาร ไม่ว่าจะทำผิดหรือไม่ หากเป็นคนของสองตระกูลนี้ ล้วนถูกจับมาที่แท่นประหาร

ผู้ที่ไม่มีที่ยืนบนแท่นประหาร ล้วนยืนออกันอยู่รอบๆ

บนกำแพง เงียบสงบ กองทหารตระกูลมู่ที่ถูกมู่ซงบังคับให้หนีไป ตอนนี้ก็แฝง ตัวอยู่ท่ามกลางผู้คน กำลังรอโอกาสลงมือ แต่ทว่า สถานการณ์ตรงหน้า กลับเหนือความคาดหมายของพวกเขา อีกประการหนึ่ง ยังมีอีกสามคนที่แม้กระทั่งนายท่านก็ยังไม่สามารถสู้ได้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย

ในขณะนี้พวกเขาเห็นมู่ซงและมู่เหลียนหลงโดนดูถูก ในใจล้วนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ท่ามกลางประชาชน ทุกคนล้วนรู้อยู่แก่ใจ ไม่ว่าจะเป็นโทษของตระกูลมู่หรือการประหารต่อหน้าประชาชน ล้วนเป็นวิธีที่ต้องการกระตุ้นให้มู่ชิงเกอปรากฏตัว ที่ตระกูลเช่ายังมีชีวิตอยู่ ก็เป็นเพราะว่าเจ้าอ้วนเช่าเป็นสหายของมู่ชิงเกอ ทำให้ฉินจิ่นหยางรู้สึกว่าควรเอาตระกูลเซ่าเข้ามาด้วย จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่มู่ชิงเกอจะปรากฏตัว

ในตอนนี้ในใจเขาตื่นเต้นมาก อยากให้มู่ชิงเกอปรากฏตัวเสียตอนนี้ แล้วให้ท่านเล่อทั้งสามสังหารเสีย เช่นนั้น แคว้นฉินก็จะไม่มีตระกูลมู่อีกและราชวงศ์แคว้นฉิน ก็จะไม่มีเงามืดของตระกูลมู่คอยครอบงำอีกต่อไป!

ทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อแคว้นฉิน เพื่อราชวงศ์ เหตุใดเสด็จพี่ถึงไม่เข้าใจ

ฉินจิ่นหยางหันไปมองฉินจิ่นเฉิน เห็นว่าท่าทางของเขายังคงแนบนิ่ง ไร้ซึ่งความรู้สึก ฉินจิ่นหยางแอบส่งสายตาให้กับทหารข้างกายนายหนึ่ง ใบหน้าของอีกฝ่ายแฝงความลังเล สุดท้ายก็เดินหน้าไปก้าวหนึ่ง ท่ามกลางสายตาของฉินจิ่นหยางและพูดกับประชาชนที่อยู่ข้างล่างว่า “ตระกูลมู่ตั้งตัวเป็นใหญ่ ไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา คิดจะก่อกบฏยึดอำนาจ โทษนี้ใหญ่หลวงนัก! ตอนนี้ มู่ซง มู่เหลียนหรงได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้ มีเพียงมู่ชิงเกอที่กำลังหลบหนี ฮ่องเต้มีคำสั่ง ให้ถอดถอนตำแหน่งสืบทอดของมู่ชิงเกอ และตามหาตัวให้ทั่วทั้งแคว้น!”

“นายท่านมู่จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร”

“ใช่ๆๆ! หากไม่มีคุณชายตระกูลมู่ แคว้นฉินของเราก็ตกเป็นของแคว้นถูไปแล้ว มิเช่นนั้นจะสงบสุขเช่นนี้ได้อย่างไร”

“เราไม่เชื่อ!”

“เราไม่เชื่อ!”

“เราไม่เชือ!”

“เอาหลักฐานออกมา อย่าใส่ความคนดี! และห้ามหมิ่นเกียรติวีรบุรุษในใจของเรา!”

“ใช่! เอาหลักฐานออกมา! เอาหลักฐานออกมา!”

“หลักฐาน! หลักฐาน!”

“หลักฐาน!”

“หลักฐาน! หลักฐาน!”

ประชาชนไม่เชื่อคำพูดของคนในราชวงศ์เลยแม้แต่น้อย กลับยืนอยู่ข้างตระกูลมู่และสนับสนุนอย่างไม่มีการลังเล

มู่เหลียนหรงมองทุกอย่างอย่างซาบซึ้งใจ สุดท้ายก็หันมองท่านพ่อของตนเอง เมื่อเห็นนํ้าตาของท่านแล้วจึงปลอบใจว่า “ท่านพ่อ แม้วันนี้เราต้องตาย ก็ยังมี ประชาชนเหล่านี้ที่เชื่อในความบริสุทธิ์ของเรา”

มู่ซงพยักหน้าหลายที มองแผ่นดินที่เขารักและประชาชนที่เชื่อมั่นใจตัวเขาทำให้ความทุกข์ในใจของเขาได้รับการปลดปล่อย

บนกำแพงตำหนัก ปฏิกิริยาของประชาชน ทำให้ฉินจิ่นหยางโกรธจนหน้าเขียว

แต่ฉินจิ่นเฉินกลับท่าทางนิ่งสงบ ราวกับเดาออกแล้วว่าต้องเห็นภาพนี้

“ท่านเล่อ!” ฉินจิ่นหยางมองเล่อเทียน

เล่อเทียนมองชายร่างกำยำอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน พลันพยักหน้าให้กับเขา อีกฝ่ายลุกขึ้นทันที กระโดดขึ้นกลางอากาศ แล้วกระชากตัวประชาชนขึ้นมา

ตอนนี้ มีคนจำนวนเจ็ดแปดคนถูกกระชากขึ้นกลางอากาศ ตื่นตระหนกจนดิ้นรนถีบขาไปมากลางอากาศ

ชายร่างกำยำไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น พลันกำมืออย่างกะทันหัน ร่างกายเจ็ดแปดคนนี้ก็ระเบิดทันที และกลายเป็นกองเลือดเนื้อตกสู่พื้นดิน ทำให้ผู้คนที่อยู่ข้างล่างตกใจจนเอามือกุมหัวและหลบหนีอลหม่าน

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วจนทุกคนตอบสนองไม่ทัน

ชายร่างกำยำกลับบนกำแพงไป มองทหารที่ใบหน้าขาวซีดอย่างเย้ยหยันแวบหนึ่งและพูดอย่างเย็นเยียบกับเหล่าประชาชน “ต้องการหลักฐานหรือ นี่ไงคือหลัก

ฐาน”

วิธีการสังหารอันโหดเหี้ยม ทำให้ประชาชนโกรธแค้น แต่ไม่กล้าพูดออกมา

มู่ซงมองคราบเลือดท่ามกลางผู้คนด้วยความตะลึง และพูดกับประชาชนว่า “ทุกท่านกลับไปเถิด! เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เพราะมีคนชั่วต้องการกวาดล้างตระกูลมู่ของข้า การใส่ความย่อมไม่มีคำอธิบาย ทุกคนกลับไปซะ อย่าได้ทิ้งชีวิตเพราะตระกูลมู่อีกเลย”

ประชาชนตกอยู่ท่ามกลางความชุลมุน มีผู้หญิงและเด็กๆ จำนวนหนึ่งราวกับอยากหนีไปเพราะคำพูดของมู่ซง

แต่ทว่า ทหารที่อยู่รอบๆ กลับขวางทางเอาไว้ ไม่ให้เหล่าประชาชนจากไป

ฉากนี้ทำให้มู่ซงและลูกสาว รวมทั้งตระกูลเช่าและคนอื่นๆ โกรธเคืองมาก!

มู่ซงหันไปมองบนกำแพงแล้วตะโกนว่า “สิ่งที่พวกเจ้าต้องการคือชีวิตของตระกูลมู่ ประชาชนเหล่านี้เกี่ยวอะไรด้วย ปล่อยพวกเขาไป!”

ประชาชนจำนวนมากกลับไม่ยอมจากไป แต่ว่า สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้พวกเขาตะโกนด้วยความโกรธว่า “ปล่อยนายท่านผู้เฒ่า ปล่อยเราไป!”

เล่อเทียนมองฉินจิ่นหยาง ความหมายที่ต้องการสื่อชัดเจนอยู่ในสายตา

สีหน้าของฉินจิ่นหยางดูขาวซีด

สิ่งที่เล่อเทียนให้เขาพูด เขาไม่กล้าพูดจริงๆ หากพูดไปแล้ว สิ่งที่เขาจะสูญเสียคือหัวใจจากประชาชนทั้งลั่วตู

แต่ทว่า เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของเล่อเทียนมากกว่า

ลังเลพักใหญ่ ท่ามกลางการเร่งรัดของสายตาที่โหดเหี้ยมมากขึ้นเรื่อยๆ ของเล่อเทียน ฉินจิ่นหยางค่อยๆ ยืนขึ้น ตะโกนขึ้นฟ้าสุดเสียงว่า “มู่ชิงเกอ—– ตระกูลมู่

ของเจ้าให้ความสำคัญกับแคว้นมากที่สุดมิใช่หรือ จะปกป้องประชาชนแคว้นฉินมิใช่หรือ ตอนนี้ที่นี่ไม่เพียงแค่มีญาติที่เป็นสายเลือดเดียวกับเจ้า มีทั้งสหายสนิท รวมทั้งประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนของลั่วตู หากเจ้าไม่ปรากฏตัว พวกเขาจะต้องตายเพราะเจ้า!”

คำพูดของฉินจิ่นหยางทำให้ประชาชนที่ตกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายตกใจ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่า ฮ่องเต้ของพวกเขาจะพูดเช่นนี้ ถึงขั้นใช้ประชาชนของตนเองในการบีบบังคับขุนนาง!

ฉินจิ่นเฉินมองฉินจิ่นหยาง ในส่วนลึกของดวงตาแฝงความเจ็บปวดหัวใจ

พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปแล้ว ฉินจิ่นหยางกลับไม่ได้เป็นกังวลถึงเพียงนั้น เขาถูกสายตาที่แฝงเปลวเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนเผาไหม้อยู่ แต่เขากลับตะโกนเสียงดังว่า “ถึงเวลาแล้ว มู่ชิงเกอเจ้ายังไม่ออกมาอีกหรือ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!