Skip to content

พลิกปฐพี 140-2

ตอนที่ 140-2

คนนอกแดน พวกเจ้าคิดจะก่อเรื่องหรือ

“ฝ่าบาท! ประชาชนไม่ได้ทำอะไรผิด ฝ่าบาทลากพวกเขาเข้ามาเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ฮ่องเต้ควรกระทำ! ฝ่าบาท ต้องการชีวิตของตระกูลมู่ก็เชิญตามสบาย เหตุใดจึงต้องทำร้ายประชาชนด้วย” มู่ซงพูดอย่างปวดใจ

คำพูดของมู่ซง ทำให้ประชาชนที่อยู่หน้าแท่นประหาร รํ่าไห้เสียงดังกว่าเดิม บนพื้น ยังหลงเหลือคราบโลหิต พวกเขาราวกับถูกความกลัวครอบงำจนไม่สามารถตั้งสติได้

ฉินจิ่นหยางหันมองมู่ซงด้วยสายตาอันเย็นเยียบ แล้วเยาะเย้ยว่า “มู่ซง ตอนนี้ตัวเจ้าเองยังเอาตัวไม่รอด ยังจะอยากเป็นคนดีก่อนตาย ข้าจะไม่ทำให้เจ้าได้สมตั้งใจ หรอก!”

คำพูดนี้ราวกับเด็กน้อย ทำให้มู่ซงรับรู้ถึงความโกรธแต่ไม่สามารถทำอะไรได้

ฉินจิ่นหยางหยุดสายตาบนประชาชนทั้งหนึ่งร้อยคนไม่สนใจเสียงสาปแช่งของคนจำนวนนับไม่ถ้วนและพูดกับพวกเขาว่า “พวกเจ้าจะโกรธจะแค้นก็ไปลงที่มู่ชิงเกอ เป็นเพราะเขาไม่กล้าออกมา จึงทำให้พวกเจ้าต้องทิ้งชีวิตไว้แบบนี้!”

พูดจบ อยู่ๆ เขาก็สูดลมหายใจ และตะโกนเสียงดังว่า “สาม—–!”

เสียงนับ ‘สาม’ ยังไม่จางหายไป ดาบที่ส่องประกายวาววับของเหล่าทหารก็ยกขึ้นสูง และเล็งไปที่คอของประชาชนที่คุกเข่าอยู่

ท่ามกลางพวกเขา มีคนจำนวนไม่น้อยขมวดคิ้ว ดาบในมือไม่ยอมฟันลง ในใจของพวกเขารอคอยให้ฮ่องเต้ของพวกเขาเปลี่ยนใจ

แต่ทว่า ในขณะนั้นเอง จากบนกำแพง ก็มีเสียงอันอำมหิตของฉินจิ่นหยางดังขึ้น “สังหารพวกมัน—–!”

เหล่าทหารกำดาบเอาไว้แน่น แอบมองหน้ากันเลิ่กลั่กไม่ยอมลงมือ

ประชาชนทั้งหนึ่งร้อยคน ร่ำไห้จนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางคมดาบ

และยังมีประชาชนอีกนับหมื่นที่ถูกทหารล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา พยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่กลับถูกบังคับให้ยืนเบียดกัน จึงไม่ได้ผลมากนัก

ฉินจิ่นหยางเห็นว่าตนเองออกคำสั่ง แต่กลับไม่มีใครทำตาม จึงเกิดความเย็นเยียบขึ้นในใจ

ในขณะนี้เอง เล่อเทียนก็อุทานอย่างเย็นเยียบข้างหลังเขา

ทันใดนั้น เขาก็ตะโกนอย่างโหดเหี้ยม “ข้าบอกให้พวกเจ้าฆ่าพวกเขา กล้าขัดคำสั่งหรือ”

“ฆ่าประชาชนไม่ได้นะ…”

ทหารเงยสายตาขึ้นมองมู่ซง ฝ่ามือที่กำมือเอาไว้แน่นเต็มไปด้วยเหงื่อ

สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ฉินจิ่นหยางโกรธแค้นมาก ความเกลียดชังในสายตาสาดฉายราวทำลายความเป็นมนุษย์ในตัวของเขา

เล่อเทียนมองชายหนุ่มที่ท่าทางนิ่งเรียบแวบหนึ่ง อีกฝ่ายรู้ตัว แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น เดินไปอยู่ข้างกำแพงวังหลวง พลันมองลงไปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ยอมฆ่าพวกเขา พวกเจ้าก็ต้องตายแทน เลือกเอาเอง”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เหล่าทหารก็ตัวเกร็งขึ้นมา ในสายตาฉายความลังเล ดาบในมือของบางคนลดลงเล็กน้อย ชายหนุ่มที่ท่าทางนิ่งเรียบมองเรื่องราวทั้งหมดด้วย ความเย้ยหยัน

ข้างล่างกำแพง อยู่ๆ ผู้นำทหารก็หันมามองฉินจิ่นหยาง พร้อมตะโกนว่า “ฝ่าบาท! พวกเขาเป็นประชาชนแคว้นฉิน ไม่ใช่กบฏแผ่นดินแต่อย่างไร ฝ่าบาททรงโปรดพิจารณาอีกครั้ง!”

ฉินจิ่นหยางมองเขาด้วยความเกลียดชัง

แต่ไม่ทันพูดอะไร ชายผู้ที่ท่าทางนิ่งเรียบก็สะบัดมือ แสงสีม่วงสาดออกมาและพุ่งเข้าหาผู้นำทหาร แล้วฟันหัวของเขาหลุดไปอย่างรวดเร็ว ศีรษะที่หลุดลงมา ลอยมาหยุดอยู่ข้างแท่นประหาร แม้กระทั่งตอนตาย ผู้นำทหารก็เบิกตากว้าง ในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

สถานการณ์ตกอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด

ครู่หนึ่ง จึงมีคนค้นพบด้วยความหวาดผวา “สายม่วง! เป็นยอดฝีมือสายม่วงอันพลิกฟ้า!”

ความหวาดกลัวกระจายไปท่ามกลางประชาชน การจู่โจมเมื่อครั้งที่ผ่านมาของชายร่างกำยำไม่ได้เปิดเผยระดับพลังเวท พวกเขาจึงไม่ได้คิดถึงสายม่วง ตอนนี้ ชายท่าทางนิ่งเรียบเพียงสะบัดมือ กลับทำให้พวกเขาเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน รอยยิ้มของชายหนุ่มผู้ที่สายตาแฝงความเย็นเยียบ มองเหล่าทหารและประชาชนที่อยู่อยู่ท่ามกลางความตะลึง แล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า “หากพวกเจ้าไม่สามารถเลือกได้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าเลือก”

ทันใดนั้น สายตาของเขาพลันฉายความโหดเหี้ยม “ตายพร้อมกันให้หมด!”

พูดจบ เขาก็กางนิ้วทั้งห้าออก บนนิ้วมือของเขามีเส้นด้ายบางๆ สีม่วงราวกับงูพิษจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา และมุ่งไปยังเหล่าหทารและประชาชนอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

มุ่ซงที่ยืนอยู่บนแท่นประหาร ก็มองด้วยความตะลึงเหมือนกับทุกคน แต่กลับไม่สามารถช่วยอะไรได้

ทำได้เพียงทนเห็นเส้นด้ายบางเหล่านั้น กำลังพุ่งเข้าไปที่หว่างคิ้วของทุกคน

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็มีเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น สายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งลงจากฟ้า ขัดขวางเส้นด้ายสีม่วงเหล่านั้นเอาไว้

สองพลังนั้นพุ่งเข้าหากัน เกิดเป็นเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งเหนือท้องฟ้าวังหลวง

พลังเวทสายม่วงของชายหนุ่มผู้ที่ท่าทางนิ่งเรียบ ถูกพลังนั้นโจมตีจนสลายหายไป

หลังจากที่คลี่คลายวิกฤติได้ สายฟ้าหายไป ท้องฟ้าก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง ฉากนี้ ราวกับเป็นเสียงคำรามจากท้องฟ้า ประชาชนล้วนคุกเข่าลงอธิษฐานให้สวรรค์คุ้มครองพวกเขา

การจู่โจมไม่สำเร็จ ใบหน้าของชายที่ท่าทางนิ่งเรียบจึงโหดเหี้ยมมากขึ้นและตะโกนออกไปอย่างเย็นเยียบ “แผนการร้ายอันใดของผู้ใด ไสหัวออกมา!”

เสียงดังออกไปราวกับคลื่น ลอยไกลออกไปเรื่อยๆ…

“ไสหัวหรือ คุณชายอย่างข้าทำไม่เป็น” ทันใดนั้น เสียงอันเย็นเยียบที่แฝงความเกียจคร้านและบ้าคลั่งดังเข้ามาจากบริเวณอันห่างไกล

เสียงนี้ ทำให้มู่ซงและมู่เหลียนหรงที่อยู่บนแท่นประหารสะดุ้ง

“ลูกพี่! ลูกพี่กลับมาแล้ว!” เจ้าอ้วนเช่าพูดเสียงหลง นํ้าเสียงทั้งตื่นเต้นและเป็นกังวล

“คุณชาย! คุณชายกลับมาแล้ว!”

“คุณชายกลับมาแล้ว พวกเรารอดแล้ว! ฮ่าๆๆ!”

“นี่มันเสียงของคุณชาย คุณชายกลับมาแล้วจริงๆ!”

“ในที่สุดคุณชายก็กลับมา! เรารอดแล้ว!”

ท่ามกลางประชาชน มีคนจำเสียงของมู่ชิงเกอได้ ความหวังที่ถูกทำลายลงของพวกเขา ถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้ง

เปลวเพลิงแห่งความหวังนี้ กระจายออกไปเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนจำนวนมากล้วนตะโกนอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “คุณชาย—–! คุณชาย——! คุณชาย—–!”

มู่เหลียนหรงพูดด้วยอย่างกังวล “ท่านพ่อ ชิงเกอนาง…”

มู่ซงอุทานคำหนึ่ง และพูดออกมาว่า “เอาเถิด เลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลมู่ของเราไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงก็ล้วนเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้ใต้หล้า! ไม่ว่าบทสรุปในวันนี้จะเป็นอย่างไร ปู่หลานทั้งสามแห่งตระกูลมู่ของเราก็ต้องเผชิญหน้าไปด้วยกัน!”

ในสายตาของมู่เหลียนหรงดูซาบซึ้ง นางกลั้นนํ้าตาเอาไว้ แล้วพยักหน้าอย่างรุนแรง

นางทอดสายตาไกลออกไป ความทุกข์ใจและความกังวลตลอดหลายวันนี้ ราวกับได้รับการปลดปล่อยอย่างแท้จริง หลานสาวของนางกลับมาแล้ว สายตาของมู่เหลียนหรงฉายความคิดถึง ราวกับมารดาที่รอบุตรกลับบ้าน

เสียงให้กำลังใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า

แต่กลับทำให้ใบหน้าของฉินจิ่นหยางที่อยู่บนกำแพง มืดมนลง

เขาต่างหากที่เป็นฮ่องเต้แคว้นฉิน แต่กลับไม่เคยได้รับการยอมรับเช่นนี้เลย

ทว่า เขาในตอนนี้ ท่ามกลางความเกลียดชังอันมหาศาล กลับมีความหวาดกลัวเกิดขึ้น ตอนนี้ เขาเพิ่งรู้ว่า แม้เขาจะต้องการให้มู่ชิงเกอกลับมาและตายต่อหน้าเขา แต่วินาทีนี้ที่มู่ชิงเกอปรากฏตัวจริงๆ เขาราวกับมีความกลัวอยู่บ้าง แต่เมื่อเขารับรู้ว่าเล่อเทียนยืนอยู่ข้างตนเอง ในใจก็รู้สึกโล่งและแอบคิดว่า มีทั้งสามอยู่ มู่ชิงเกอมีอะไรน่ากลัวกัน

“นี่คือมู่ชิงเกอหรือ” เล่อเทียนหรี่ตาทั้งสองลงแล้วถาม

ฉินจิ่นหยางพยักหน้า “เป็นเสียงของเขาไม่ผิดแน่”

เล่อเทียนยังไม่ทันได้พูดอะไรชายที่ท่าทางนิ่งเรียบก็พูดว่า “พี่รอง คนผู้นี้กล้าเหยียบหยามข้า ข้าจะสั่งสอนมัน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!