Skip to content

พลิกปฐพี 896

ตอนที่ 896

คืนก่อนวันแต่งงาน

“นี่คือความคิดเด็กๆ ของเจ้า สิ่งที่พ่อแม่เฝ้ารอก็คือวันที่ลูกๆ แต่งงาน งานยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสตรีที่กำลังจะแต่งงานยิ่งได้รับความสำคัญจากตระกูลสามี” ซางหลันรั่วปรับเปลี่ยนความคิดอู้งานของมู่ชิงเกอ

“เรื่องใหญ่ในชีวิตคน ชั่วชีวิตมีเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว ย่อมสุกเอาเผากินไม่ได้” มู่เหลียนเฉิงเองก็กล่าว

มู่ซงและซางซุนหวางก็พยักหน้าติดต่อกัน

มู่ชิงเกอจนใจ ทำได้เพียงอ่อนข้อ

ในเก้าชั้นฟ้า พิธีอภิเษกสมรสของมู่ชิงเกอกำลังอยู่ในชั้นตอนเตรียมการสุดท้าย ในแดนมาร ซือมั่วก็กำลังรอคอยอย่างกระวนกระวาย

วังซานไห่แวววับใหม่เอี่ยม รอนายหญิงของมันเข้ามาอาศัย คนทุกชนชั้นในวังมาร คนทุกชนชั้นในแดนมาร ทำตามพระราชโองการราชา ครื้นเครงตลอดปี

มู่ชิงเกอกับซือมั่วหารือกันเสร็จเรียบร้อยก่อนแล้ว หลังแต่งงาน จะอาศัยอยู่ที่เก้าชั้นฟ้าและวังซานไห่ที่ละครึ่งปี

“องค์ราชา เหลือเวลาอีกเยอะ ท่านสวมชุดพิธีนี้เร็วไปแล้ว”

กู่หยาเห็นซือมั่วที่สวมชุดพิธีสีแดงเต็มยศก็กล่าวเตือนอย่างอดไม่ได้ ยังเหลือเวลาออกเดินทางไปเก้าชั้นฟ้าอีกสี่ห้าชั่วยาม นายท่านของตนคิดจะยืนรอเฉยๆ เช่นนี้หรือ

“แบบนี้สบายใจ” ซือมั่วให้คำตอบเขา

สบายใจ ใช่แล้ว

ตั้งแต่ที่กำหนดวันเวลาในพิธีแต่งงาน เขาก็เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย ความรู้สึกนั้น เหมือนยิ่งดีงามก็ยิ่งเต็มไปด้วยเรื่องให้เฝ้ารอ ยิ่งกลัวว่าจะเกิดการ เปลี่ยนแปลง ยิ่งกังวลว่าสุดท้ายจะไม่สำเร็จ

ความรู้สึกกระวนกระวายกว่าหมื่นปีเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เวลานี้ เขากลับสัมผัสจนถึงแก่นแท้

คำตอบของซือมั่วทำให้กู่หยาไร้คำพูดจะโต้ตอบ

ไม่เพียงแต่นายท่านของพวกเขารอคอยให้ฤกษ์มาถึง คนทั้งหมดในเผ่ามารที่กำลังจะมุ่งหน้าไปเก้าชั้นฟ้า อีกทั้งกลุ่มองครักษ์มารที่ยกสินสอดก็กำลังรอคอย เงียบๆ อยู่นอกตำหนักจื่อเฉินเช่นกัน

บนเอวคนเหล่านี้ต่างก็ผูกผ้าคาดเอวสีแดงเป็นสัญลักษณ์มองดูแล้วปีติยินดีอย่างถึงที่สุด

ซือมั่วยืนอยู่ในตำหนักใหญ่ของตำหนักจื่อเฉิน มองขบวนนอกตำหนัก นับเวลาในใจ ตอนนี้เองก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามาดึงดูดความสนใจของกู่หยา

เขาทอดสายตาออกไป พบว่าเป็นจี่ฝูผู้ถูกทิ้งให้คุ้มกันวังไท่ฮวง ไม่อาจไปเก้าชั้นฟ้าได้เดินเข้ามา

กู่หยาคิดครู่หนึ่ง ถอยออกไปในตำหนัก เหลือเพียงซือมั่วและจี่ฝู

“องค์ราชา” จี่ฝูเดินมาข้างหลังซือมั่ว เอ่ยปากกล่าว

ซือมั่วไม่ได้หันหลังกลับ ทั้งยังไม่ได้เอ่ยปาก

จี่ฝูกล่าวต่อ “องค์ราชา จี่ฝูไม่อาจไปเก้าชั้นฟ้า พร้อมพระองค์ได้ทำได้เพียงแสดงความยินดีแด่องค์ราชาและพระชายาที่นี่ก่อน”

ซือมั่วหมุนตัวช้าๆ มองเขาแล้วกล่าว “เจ้าอยู่คุ้มกันแดนมาร ข้าจึงจะวางใจได้”

“องค์ราชาโปรดวางใจ จี่ฝูไม่อาจปล่อยให้แดนมารเกิดช่องโหว่ใดๆ ได้” จี่ฝูรับปาก

“อืม แม่นํ้าเมิ่งหลานฝั่งนั้น ต้องดูแลให้มากหน่อย” ซือมั่วกล่าวเตือน

แววตาจี่ฝูสว่างวาบ เม้มปากพยักหน้า

เขาคือเจ้าเมืองย่อยที่ติดตามซือมั่วเข่นฆ่าโรมรันมาตลอด เป็นคนสนิทของซือมั่ว จะไม่เข้าใจความกังวลของราชาตนได้อย่างไร ราชาของเขา กังวลว่าเศษซาก เหล่านั้นของเผ่าอี้จะฉวยโอกาสก่อความวุ่นวาย ดังนั้นเขาจำเป็นต้องสร้างเสถียรภาพให้แดนมาร ต้องป้องกันการรุกลํ้าของเผ่าอี้ ต้องให้องค์ราชาแต่งงานอย่างสบายอกสบายใจได้ด้วยดี

“องค์ราชา…” ครู่หนึ่ง จี่ฝูลังเลเล็กน้อย ตัดสินใจเอ่ยปาก “ราชันย์โอสถจอมเทพท่านก็เคยทานมาแล้ว เคล็ดวิชาเทวะท่านก็เคยอ่านมาแล้วอีกทั้งยังเข้าสู่ชั้นที่สูงที่สุดในแสงแห่งวิถี หรือว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้บรรจุเข้าไปในความลับของชั้นบรรพเทพเลยหรือ”

จี่ฝูสงสัยอย่างยิ่ง ซํ้ายังรู้สึกไม่ยินยอมแทนซือมั่วเล็กน้อย

ราชาของเขา ไม่มีใครเทียบเท่าได้ในแผ่นดินเทพมารแล้ว เป้าหมายย่อมเป็นก้าวนั้นในคำเล่าลือ หรือว่าจะต้องหยุดอยู่ตรงนี้จริงๆ

ซือมั่วยิ้มบางๆ แววตาสงบนิ่ง มองจี่ฝูกล่าว “ก่อนหน้านี้ไม่ได้ ตอนนี้ไม่อยาก”

จี่ฝูมองเขาอย่างตกตะลึง ปากอ้าตาค้าง ความหมายในประโยคนี้ไม่ยากจะเข้าใจ

ส่วนกู่หยาที่เฝ้าอยู่ข้างนอก ก็ได้ยินประโยคนี้ของซือมั่ว เขาเข้าใจเช่นกัน ดังนั้นจึงขมวดคิ้วมุ่น

ในตำหนักใหญ่ นิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน

ครู่ใหญ่ จี่ฝูจึงกล่าว “ผู้น้อยเข้าใจแล้ว”

จากนั้นก็คำนับซือมั่ว โค้งตัวถอยออกไป

เก้าชั้นฟ้า

เก้าชั้นฟ้าวันนี้ แสงไฟสว่างไสวมากเป็นพิเศษ

แสงไฟเหล่านั้น คล้ายสว่างคล้ายมืดบนเก้าชั้นฟ้า ราวกับดวงดาวบนฟ้าก็ไม่ปาน

ในเมืองรองภายใต้การดูแลของเก้าชั้นฟ้าเหล่า นัน ทอดมองไปไกลๆ ก็แยกไม่ออกแล้วว่าตรงไหนคือท้องฟ้าที่มีดวงดาวจริงๆ

บนเก้าชั้นฟ้าสว่างดุจกลางวัน คนทั้งหมดต่างก็ยุ่งวุ่นวาย แต่บนใบหน้าล้วนมีความเบิกบานและยังมีการเฝ้ารอ

แม้ว่าจะยุ่ง แต่ทุกคนกลับยังคงทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่เกียจคร้านและวุ่นวายแม้แต่นิดเดียว

ในวังราชาเทวะ ประดับผ้าแดงแขวนโคมอยู่นานแล้ว

เดิมเป็นพิธีแต่งงานที่เรียบง่ายอย่างยิ่งจนถึงขั้นที่เกินจะบรรยาย ภายใต้การยืนกรานซํ้าๆ ของครอบครัวมู่ชิงเกอ ในที่สุดก็มีกฎระเบียบและการจัดวางแล้ว

มิเช่นนั้น หากทำตามแนวคิดของตัวนางเอง พิธีแต่งงานทั้งหมดสิ้นสุดลง เกรงว่าเมื่อตกสู่สายตาผู้คนแล้ว จะเหลือเพียงสองคำ…กระจอก

ในวังราชาเทวะ เหล่าสาวใช้เดินเข้าเดินออกตามคำสั่งของโย่วเหอ ฮวาเยวี่ย เสวี่ยหยาและเซวี่ยนหย่า ในมือต่างก็ถือของที่ต้องใช้ในพิธีแต่งงาน

และลึกเข้าไปในวัง ชูเนี่ยนกับมู่เสวี่ยอู่ก็อยู่กับมู่ชิงเกอ จัดแต่งชุดแต่งงานของนาง

ซางหลันรั่วก็หวีผมให้นางด้วยตัวเอง

“ชั่วชีวิตนี้ของข้า เรียกได้ว่าดีพร้อม แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าดีพร้อม ข้าตามหารักแท้ในชีวิตเจอ แต่กลับละอายใจต่อลูกของข้า ตามธรรมเนียม ข้าไม่ควรหวีผม ให้เจ้า แต่ว่าเจ้าดันเอาแต่ใจจะให้ข้ามาหวีให้ได้” ซางหลันรั่วถีอหวีไว้ในมือ หวีเส้นผมที่ทิ้งตัวลงดั่งนํ้าหมึก ของมู่ชิงเกอเบาๆ ช้าๆ กล่าวด้วยนํ้าเสียงซับซ้อน

นางควรจะหาหญิงชราผู้มีวาสนาดีที่สุดผู้หนึ่งมาหวีผมให้ลูกของนาง

มู่ชิงเกอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หันหน้าเข้าหากระจก มองความสับสนในดวงตาของมารดา ยิ้ม กล่าวอย่างไม่ถือสาเลยแม้แต่น้อย “ข้าไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ ข้ารู้แต่เพียง บุตรสาวออกเรือน สามารถทำให้ท่านแม่หวีผมให้ด้วยตัวเอง มู่ชิงเกอก็จะมีความสุขอย่างยิ่ง”

มู่ชิงเกอที่นางพูด คือเจ้าของร่างเดิมที่จากไปนานแล้ว ทั้งยังหมายถึงตัวนางเองด้วย

เพียงแต่ ความหมายแฝงในนี้ ซางหลันรั่วไม่มีวันเข้าใจ

“เจ้าเด็กคนนี้” ซางหลันรั่วส่ายหน้าอย่างจนใจ ภายในใจรู้สึกอบอุ่นกับคำพูดของลูกสาว ไม่สับสนอีกต่อไป ตั้งใจหวีผมให้ลูกสาว

แม้ว่าจะแต่งงาน มู่ชิงเกอก็ยังคงไม่ได้เลือกชุดแต่งงานที่ซับซ้อน ฟุ่มเฟือยใดๆ

ชุดแต่งงานของนาง ยังคงเหมือนบุคลิกในวันปกติของนาง กระชับ สง่าผ่าเผย เป็นอิสระ ทว่านี่ดูเหมือนชุดแต่งงานแบบเรียบง่าย แต่วัสดุที่ใช้กลับไม่ธรรมดา

พูดได้ว่า ชุดแต่งงานของมู่ชิงเกอมีตัวเดียวบนโลก

ด้ายที่เย็บชุดแต่งงาน คือขนเฟิ่งหวงที่ชูเนี่ยนเก็บรวบรวมมาจากป่าหวูถง เนื้อผ้าถักทอมาจากใยไหมที่พ่นออกมาจากตัวไหมดาวเดือน ไหมดาวเดือนนื้ลํ้าค่า อย่างถึงที่สุด ดูดส่วนที่ดีที่สุดของดาวเดือนแล้วตั้งท้องตัวไหมออกมา ทุกพันปีจึงจะพ่นใยออกมาหนึ่งถึงสองเส้น

และเครื่องประดับบนชุดแต่งงานต่างก็เป็นวัสดุหลอมศาสตราหายากที่รวบรวมมาจากตระกูลซางกว่าหมื่นปีก่อน ผ่านการตีซํ้าแล้วซํ้าเล่ากลายเป็นจิตวิญญาณ ถูกมู่เสวี่ยอู่หลอมละลายเข้าไปในชุดแต่งงาน

มู่ชิงเกอเปลี่ยนมวยผมเรียบร้อยแล้ว ใช้เครื่องประดับศีรษะที่ซางหลันรั่วทำขึ้น ก้าวเท้าเดินมาข้างหน้าชุดแต่งงาน

มู่ชิงเกอมองชุดแต่งงานบนชั้นวาง อารมณ์พรั่งพรูไปด้วยความซาบซึ้งที่ไม่มีสาเหตุชนิดหนึ่ง

แต่งงานหรือ

ชาติที่แล้วนางไม่เคยคิดมาก่อน ชาตินี้ยิ่งไม่เคยคิด

แต่วันนี้นางยังคงสวมชุดแต่งงาน เพื่อชายผู้เป็นที่รัก…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!