Skip to content

พลิกปฐพี 905

ตอนที่ 905

การเปลี่ยนแปลงของแดนมาร

สงครามฝั่งนี้ถูกควบคุม ดวงตาสีทองทั้งคู่ของมู่ชิงเกอตกลงบนร่างหลิงจิว เซ่อฉินและคนอื่นๆ ที่กำลังรบอย่างดุเดือด

คนหลายคนถูกนางมองจนนิ่งงัน ปล่อยศัตรูในมือออกอย่างรวดเร็วและมองนาง

“ฝั่งนี้มีพวกข้า พวกเจ้ารีบพาคนกลับไปที่แดนมาร ข้ากังวลว่า ครั้งนี้แผนร้ายของเผ่าอี้จะไม่ใช่เพียงแผ่นดินเทพ พวกเจ้าอยู่ที่นี่กันหมด แต่แดนมารว่างเปล่า” มู่ชิงเกอกล่าวเสียงเย็นเยียบ

คนหลายคนถูกนางพูดจนใจเต้น ชั่วขณะก็รู้สึกว่าสันหลังเย็นวาบ

“ขอรับ พระชายา”

เจ้าเมืองย่อยหลายคนรีบรวบรวมเผ่ามารที่เหลืออยู่ เปิดทางเชื่อมกลับไปแดนมารทันที

พวกเขามีจำนวนคนไม่เยอะ ทะลุสิ่งกั้นขวางไปไม่ยาก

ตอนนี้บนชั้นอากาศสูง ซือมั่วมัดร่างแยกของคนเผ่าอี้ผู้นั้นไว้อย่างแน่นหนาแล้ว เขาทุบตีทรวงอกคนเผ่าอี้พลังที่แข็งกล้ากระเพื่อมชุดดำของเขาขึ้นมา ซือมั่วเองก็ถือโอกาสคว้าชุดดำไว้ ดึงมันลงไป

การปลอมตัวบนร่างถูกซือมั่วดึงออก คนเผ่าอี้ผู้นั้นก็ถอยไปข้างหลังอย่างต่อเนื่อง

แต่ว่า ซือมั่วกลับไล่ตามโจมตี กดเขาแล้วตีต้อนจากชั้นอากาศสูงถอยไปจนถึงหน้าแท่นบูชา

ตอนนี้ ตัวประหลาดตัวเล็กผิวเขียวเหล่านั้นถูกกำจัดจนหมดเกลี้ยงแล้ว

ทั้งหมดนี้อาศัยเคล็ดวิชาเทวะของมู่ชิงเกอ ใช้ปัญญาเทวะสะกดไว้ให้ทุกคนโจมตีได้

ทว่า การสิ้นเปลืองพลังมหาศาลนี้ ตอนนี้แก้มของมู่ชิงเกอก็ขาวซีดเล็กน้อย โชคดีที่เครื่องประทินโฉมยังอยู่ มีชาดปกปิดทำให้ไม่มีใครมองความแตกต่างของ นางออก

นางถือทวนยืนขึ้น นำเผ่าเทพทั้งหมดล้อมแท่นบูชาไว้

คนเผ่าอี้ผู้นั้น ตกลงบนแท่นบูชา ใช้มือปิดหน้าไม่ยอมเผยโฉมหน้าที่แท้จริง

ซือมั่วตกลงข้างหน้ามู่ชิงเกอไม่ไกล ชุดดำที่ถืออยู่ในมือถูกเขาโยนทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี

“เหอะ มาถึงตอนนี้แล้ว ยังไม่กล้าเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอีกหรือ” มู่ชิงเกอกล่าว อย่างเหยียดหยาม

“บางที อาจจะเหมือนที่ราชาเทวะมู่พูด หน้าตาอัปลักษณ์เกินไป อายคนกระมัง” ราชาเทวะจงซานกล่าวต่อ

ชั่วขณะ ในกลุ่มคนก็ปรากฎเสียงหัวเราะเยาะที่คลุมเครือออกมา

มุมปากสีแดงสดของมู่ชิงเกอยกขึ้น กล่าวเสียงดัง “อยากหัวเราะก็หัวเราะออกมาดังๆ พวกเราเผ่าเทพ ยิ่งใหญ่เกรียงไกร กล้าทำกล้ารับ แต่ไม่คิดว่าเผ่าอี้ตรงหน้านี้จะปิดหัวปิดหาง ราวกับหนูที่อยู่ในท่อ”

นางพูดจบ ทุกคนก็ไม่กลั้นอีก หัวเราะร่าเสียงดังออกมา

เผ่าอี้มาบุกรุก เดิมพวกเขารีบไปรับศึก แต่ว่าตอนนี้สถานการณ์ศึกอยู่ในกำมือ แพ้ชนะตัดสินแล้ว ในใจพวกเขาย่อมเบิกบาน

คนเผ่าอี้ลึกลับที่ยังอวดดีก่อนหน้านี้ ดูท่าแล้วไม่ได้น่ากลัวเพียงนั้น

“วะฮะฮ่า…เผ่าอี้หรือ” หลังแขนเสื้อที่กำบังนั้น มีเสียงหัวเราะเยาะที่เย้ยหยันดังออกมา ในเสียงหัวเราะที่น่าสะพรึงกลัวนี้ของเขา เสียงหัวเราะในเผ่าเทพค่อยๆ

สงบลง

ทุกๆ คนต่างก็มองเขาอย่างใจจดใจจ่อ

“เผ่าข้า คือสายเลือดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สูงส่งที่สุด เผ่าฝู น่าขันที่พวกเจ้าเทพมารเหล่านี้ไม่รู้แม้กระทั่งว่าคู่ต่อสู้ที่รบกันมากว่าแสนปีเป็นใคร” ร่างแยกเผ่าอี้ที่ลึกลับ กล่าวเสียงเด็ดขาด

ในนํ้าเลียง เต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่เข้มชัน

เผ่าฝู

แววตามู่ชิงเกอจมดิ่ง จดจำชื่อที่สำคัญชื่อนี้ไว้

แท้จริงแล้ว แผ่นดินเทพมารขัดแย้งกับเผ่าอี้มานับแสนปี แต่กลับไม่รู้แม้แต่ความจริงของฝ่ายตรงข้าม ไม่มีอะไรให้น่าภูมิใจแล้วจริงๆ เพียงแค่เวลานี้ไม่อาจทำให้พลังแผ่วลงได้

ทวนเงินในมือมู่ชิงเกอกระทุ้งพื้น ส่งเสียงโลกหะกระทบกันที่ก้องกังวานออกมา นางหัวเราะอย่างเหยียดหยาม “สายเลือดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สูงส่งที่สุด เป็นเช่นเจ้านี่ เองหรือ ปิดหัวปิดหาง ล้มตั้งแต่หมัดแรก”

“เหอะ อย่าได้คิดจะใชวิธียั่วยุข้า” คนประหลาดผู้นั้นกล่าว

ซือมั่วยิ้มบางๆ กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “เหตุผลที่เจ้าไม่กล้าเผยโฉมหน้าแท้จริงมาโดยตลอดเป็นเพราะถูกพลังสะท้อนกลับครั้งก่อนยังไม่หายดี ซํ้ายังฝืนหลอมธงวิญญาณมาร ถูกจอมมารทำร้ายจนบาดเจ็บ โฉมหน้าร่างแยกถูกทำลายใช่หรือไม่”

มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว กวาดตามองแผ่นหลังของซือมั่วปราดหนึ่ง

คนอื่นเองก็ส่งความตกตะลึงออกไปจากแววตามองคนเผ่าอี้ผู้นั้น

สายตาของซือมั่ว ตกลงบนมือเขา กล่าวต่อ “มือของเจ้าเผยให้เห็นร่องรอยความแห้งเหี่ยว ชัดเจนว่า เป็นผลลัพธ์ที่ถูกไอมารล่วงลํ้า ของของข้าใช้ดีสินะ”

คำเลียดสีนี้ ยั่วยุคนประหลาดที่สุขุมสงบนิ่งมาโดยตลอด

เขาสะบัดแขนเสื้อของตนลงอย่างแรง เผยให้เห็นใบหน้าของเขา

เฮือก

ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเยียบ แม้แต่มู่ชิงเองก็ยังเก็บสายตาลงเงียบๆ

เอ่อ…โฉมหน้านี้ช่างทำให้คน…

“เจ้าทายถูกแล้วอย่างไร นี่เป็นเพียงแค่ร่างแยกร่างหนึ่งของข้าก็เท่านั้น” บนใบหน้าที่ไม่อาจเรียกว่าหน้าได้ดวงนั้นกล่าวอย่างดุร้าย

กระดูกครึ่งฝั่ง หนังเหี่ยวแห้งที่ถูกไอมารกัดกร่อนครึ่งฝั่ง ทำให้บนหน้าใบนี้ของเขาไม่เหลืออะไรอีกนอกจากความดุร้ายและน่ารังเกียจ

ส่วนเดียวที่ยังสมบูรณ์อยู่ก็คือริมฝีปากและคาง แต่เพียงแค่ส่วนที่รักษาเป็นอย่างดีส่วนนี้ กลับยิ่งขับความอัปลักษณ์ให้ใบหน้าทั้งใบ

“ร่างแยกเท่านั้นหรือ ข้าแปลกใจอย่างยิ่งจริงๆ เจ้าทิ้งร่างแยกหนึ่งร่างที่แดนมารแล้ว หากว่าวันนี้ ร่างแยกนี้ของเจ้าถูกทำลายที่แผ่นดินเทพอีก เจ้ายังจะมีร่างแยกใช้ได้อีกสักเท่าไร และอาการบาดเจ็บต่อร่างกายเจ้า จะเป็นอย่างไร” ซือมั่วพูดจบ ในดวงตาสีอำพันก็ยิงไอสังหารที่ดุดันแข็งกล้าออกมา พุ่งไปที่คนเผ่าอี้ผู้นั้นในชั่วพริบตา

ครั้งนี้ เขาลงมือสังหารแล้ว

การรับมือก่อนหน้านี้ก็เพื่อค้นข้อมูลจากร่างแยกร่างนี้ให้มากขึ้น ตอนนี้ร่างแยกนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว

ซือมั่วลงมือสังหาร ร่างแยกที่เสียหายหนึ่งร่าง ไหนเลยจะยังต้านแรงได้ไหว

“อ๊าก”

เสียงร้องโหยหวนเสียงหนึ่งดังออกมาร่างแยก ร่างนั้นถูกบดจนเป็นเถ้าถ่านภายใต้ฝ่ามือซือมั่วทันที

เมื่อเขาตาย เผ่าอี้ที่วางแผนจะเผาตายปล้นชิง บนแผ่นดินเทพเหล่านั้นนอกเก้าชั้นฟ้า…ไม่ ควรจะเรียกว่าเผ่าฝูต่างก็สูญหายไปจนหมดสิ้นเช่นกัน

“ดูท่าแล้ว เผ่าอี้เหล่านี้ล้วนแยกร่างออกมาจากเผ่าอี้บนเก้าชั้นฟ้า ตอนนี้พวกเขาหายไป ชัดเจนว่าเผ่าอี้ที่แฝงตัวเข้ามาบนเก้าชั้นฟ้าเหล่านั้นถูกฆ่าแล้ว” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยมองดูสนามรบที่ว่างเปล่าฉับพลันใน ประกายตาหงส์ตัดสินเหตุและผลออกมาทันที

บนเก้าชั้นฟ้า ซือมั่วตกลงข้างกายมู่ชิงเกอ

เพียงแต่ เขายังไม่ทันได้เปิดปาก เสียงที่ตกใจและเศร้าโศกของหลิงจิวก็ดังขึ้นมาจากรอยแตกช่องว่างที่ถูกเปิดออก “องค์ราชา โปรดกลับแดนมารด่วน”

ตาทั้งคู่ของซือมั่วหดลงทันที กล่าวกับมู่ชิงเกอ “เสี่ยวเกอเอ๋อร์ข้ากลับแดนมารก่อน เจ้าอยู่จัดการความเรียบร้อย”

พูดจบ เขาก็หมุนตัวผ่าช่องว่าง หายไปจากเก้าชั้นฟ้า

พิธีแต่งงานถูกเผ่าฝูรบกวน ตอนนี้เผ่าฝูถอยไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวกลับจากไป ดูท่าแล้ว อภิเษกสมรสวันนี้จะต้องไม่มีทางดำเนินต่อไปได้

มู่ชิงเกอไม่ได้เผยสีหน้าไม่มีความสุข เพียงแค่กล่าวด้วยท่าทีเย็นชา “แจ้งราชาเทวะทั้งหมด ราชาเฟิ่ง ราชาองค์ใหม่เผ่าภูติภูเขา ให้รอข้าในวังราชาเทวะ”

พูดจบ นางก็ยกมือดึงมงกุฎหงส์ผ้าคลุมบนศีรษะตัวเองลงกลับไปที่ตำหนักบรรทม ถอดชุดแต่งงานออก

พิธีแต่งงานไม่อาจดำเนินต่อ นั่นก็ทำได้เพียงรอ ทำลายแผนชั่วเผ่าฝูก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ขณะเดียวกัน ซือมั่วกลับไปที่แดนมาร แต่เมื่อปรากฎตัวกลับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่หนักอึ้งและกดดัน

รอบด้าน ล้วนแต่เป็นร่องรอยที่ผ่านการสู้รบอย่างดุเดือด บนพื้น ยังมีศพของทหารเผ่ามารนับไม่ถ้วน สายตาเขากวาดออกไป มองเห็นจี่ฝูที่นอนอยู่ในอ้อมอก หลิงจิว ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยโลหิต…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!