Skip to content

ราชินีพลิกสวรรค์ 203

ตอนที่ 203

ความเคียดแค้นทั้งหมด ให้ข้าเป็นคนแบกรับไว้เอง

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้มู่ชิงเหยียนมองเห็นไม่ชัด ใบหน้าของคนที่ต่อสู้กับตัวเอง เป็นใบหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่ว่านางมองเขาออกด้วยท่าทางของเขา

ในตอนที่มู่ชิงเหยียนอุทานออกมาด้วยความตกใจ เจียงเฮ่าก็หยุดลงเหมือนกัน สบตากับ นางด้วยแววตาที่สงบนิ่ง

“จิ่งเยิ่ย ” มู่ชิงเหยียนพึมพำขึ้นมา ใจลอยเล็กน้อย

เสียงที่ดุดันของมู่เจิ้นเฟิงดังมาจากข้างหลังของนาง “เจ้านิ่งอยู่ทำไม”

มู่ชิงเหยียนตกใจ ในแววตามีความสับสน

เจียงเฮ่าเคลื่อนไหวแล้ว แต่กลับไม่ต่อสู้กับนางอีก แต่ว่าอ้อมผ่านตัวนางอย่างรวดเร็ว พุ่งไปจัดการมู่เจิ้นเฟิง

ตอนนี้ เจียงหลีที่สวมเสื้อเกราะเสวียนกัง ก็มุ่งไปจัดการมู่เจิ้นเฟิงจากอีกมุมหนึ่ง เหมือนกัน

แต่ทว่าในตอนนี้ มู่ชิงเหยียนก็เคลื่อนไหวแล้ว นางไปขวางหน้าเจียงเฮ่าด้วยความเร็ว ที่สุดของนาง ทำให้พลังวิญญาณที่รวมกันอยู่ของเจียงเฮ่าทะลุร่างของนาง

ปัง!

มู่ชิงเหยียนลอยไปในอากาศ กระอักเลือดออกมา ปะปนกับนํ้าฝน

เจียงเฮ่ามองมู่ชิงเหยียนที่ตกลงมาจากกลางอากาศราวกับถูกหักปีกอย่างไรอย่างนั้น เสียง ปังระเบิดอยู่ในหัวของเขา

ในขณะนั้น แววตาของเขาก็ปรากฏภาพที่เขาเย็นชาใส่มู่ชิงเหยียนที่พยายามเข้าหาเขา หลายต่อหลายครั้ง ตอนอยู่ที่เป่ยฝาง นางเข้าไปช่วยผู้อื่นอย่างไม่กลัวตาย

“หนึ่งชีวิตแลกกับหนึ่งชีวิตได้หรือไม่” มู่ชิงเหยียนร่วงลงกับพื้น มุมปากของนางยังคงมี คราบเลือดเหลืออยู่ มองเจียงเฮ่าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว

การตายของนางแลกกับชีวิตของเสด็จพ่อนางได้หรือไม่

แววตาของมู่ชิงเหยียนเต็มไปด้วยความวิงวอน รอยยิ้มที่น่าเวทนา นางไม่เคยรู้มาก่อน เลยว่าคนที่ตัวเองรักจะมีอีกหน้าหนึ่ง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจุดประสงค์ของเขาคือสังหาร เสด็จพ่อของตัวเอง

ที่ยิ่งไม่รู้ไปมากกว่านั้นคือวันหนึ่งพวกเขาจะต้องมาเป็นศัตรูกัน!

เจียงเฮ่ากำหมัดแน่น สั่นเล็กน้อย มองมู่ชิงเหยียนด้วยความเคร่งเครียด เขาติดค้างนาง หนึ่งชีวิต แต่ว่าถึงอย่างไรมู่เจิ้นเฟิงก็ต้องตาย!

เหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นของฝั่งนี้ กลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ของเจียงหลี และมู่เจิ้นเฟิงเลย

เพียงแต่มู่เจิ้นเฟิงไม่เพียงเป็นฮ่องเต้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาคือหลิงไซว่ขั้นสอง เจียงหลีต่อสู้ ด้วยก็ยังเหนื่อยไม่น้อยเลย

ลู่เจี้ยหายใจเข้า มองด้านหลังของเจียงหลีด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

พลังจิตที่ไร้รูปร่าง ปลดปล่อยพลังมาจากร่างกายของเขาอีกครั้ง กลายเป็นฝ่ามือใหญ่ ล่องหนมากมาย ภายใต้การมองไม่เห็นของผู้คน เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย

“เกิดอะไรขึ้น” มู่เจิ้นเฟิงตกใจนิดหน่อย

เขารับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณในตัวของเขาเคลื่อนไหวได้ไม่คล่องตัว แม้แต่วิญญาณยุทธ์ก็ ไม่เชื่อฟังเขา

“ออกมา!” เขาตะโกนด้วยความโกรธ พยายามปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ของตัวเอง แต่ แสงสีทองกลับมืดสนิท ดูแล้วก็เหมือนกับถูกวิญญาณยุทธ์ของเจียงหลีกดไว้อย่างไร อย่างนั้น

นอกพระราชวัง ทหารมากมายก็ใจจดใจจ่ออยู่กับการต่อสู้ที่กำหนดทุกอย่าง ท่ามกลางพายุฝน แสงสีทองเปล่งประกาย ทำให้คนยากจะจินตนาการถึงการต่อสู้ที่ดุเดือด แต่แปลกที่พวกเขากลับมองเห็นฉากนั้นได้อย่างชัดเจน ก็คือฉากที่สาวน้อยคนหนึ่งต่อสู้กับฮ่องเต้

“นี่… สาวน้อยคนนี้คือใคร”

“นึกไม่ถึงเลยว่าจะสู้อยู่กับฮ่องเต้สารเลวนั่น?”

“ช่างดูคุ้นตายิ่งนัก!”

“ต่อสู้กับกษัตริย์ของแคว้น อีกทั้งยังมีพลังยับยั้ง หลิงเจี้ยงต่อสู้กับหลิงไซว่ ข้ามขั้นไปมาก แต่กลับยังสามารถกดเขาได้นี่มันมหัศจรรย์จริงๆ!”

“อ่อ! ข้านึกออกแล้ว นางก็คือสาวน้อยหลิงเจี้ยงที่อายุสิบสามปีคนนั้น มีนามว่าเจียง หลี!”

เจียงหลี!

เจียงหลี!

ครู่เดียว ชื่อนี้ก็ถูกพูดผ่านปากของผู้คนมากมาย

“น่าชังนัก!”มู่เจิ้นเฟิงสู้จนรู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง ไม่สามารถใช้ทักษะพรสวรรค์ได้

ในใจของเจียงหลีก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ มองไปยังที่ๆ ลู่เจี้ยยืนอยู่ด้วยสัญชาตญาณ เขา จะทำอะไร ทำไมถึงต้องสร้างชื่อเสียงและอำนาจให้ข้าด้วย

“ฝ่าบาท ในตระกูลลู่มีเนี่ยนจงที่แข็งแกร่งบัญชาอยู่ รีบหนีกันเถิดขอรับ!” บนท้องฟ้า เสียงที่เหมือนดั่งฟ้าผ่าก็ดังขึ้นมา

ห๊ะ!

เนี่ยนจง!

นึกไม่ถึงว่าในตระกูลลู่มีเนี่ยนจงที่แข็งแกร่งอยู่

มู่เจิ้นเฟิงตกใจมาก เขาคิดดูแล้ว คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าตระกูลลู่จะมีเนี่ยนจง เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าในตระกูลลู่มีคนบำเพ็ญเป็นเนี่ยนซือแล้ว!

“ผู้ที่แข็งแกร่งท่านใดแอบช่วยตระกูลลู่อยู่ ข้ายินดีจะให้รางวัลเป็นสองเท่าเพื่อแลกกับที่ ท่านช่วยเหลือข้าปราบกบฏในวันนี้” มู่เจิ้นเฟิงตะโกนเสียงดัง

เขาเชื่อลึกๆ ว่าเนี่ยนจงที่แข็งแกร่งคนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่นี่

เจียงหลีหัวเราะเยาะ เกรงว่ามู่เจิ้นเฟิงคงจะนึกไม่ถึงว่าเนี่ยนจงที่ถามหา ก็คือลู่เจี้ยที่เขาดูถูก

“ของรางวัลสองเท่าอย่างนั้นรึ เช่นนั้นก็มอบราชวงศ์โฮ่วจิ้นให้ข้าเลยได้หรือไม่” เสียงที่ นิ่มนวลดังขึ้นมา

มู่เจิ้นเฟิงมองไปตามเสียง สายตาไปตกอยู่ที่ลู่เจี้ย ทันใดนั้นตาทั้งสองข้างของเขาหรี่ลง พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “คือเจ้า?”

สายตาของลู่เจี้ยมองไปยังเจียงเฮ่าและมู่ชิงเหยียนที่ต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ทั้งสองคนในตอนนี้ ก็มองเขาด้วยความตะลึง

หรือจะพูดว่าหลังจากในตอนที่เรื่องที่ลู่เจี้ยเป็นเนี่ยนจงแพร่ออกไป ทั้งพระราชวังเงียบ สนิท จนมีเสียงที่น่าเวทนาดังมาจากบนท้องฟ้า ผู้’อาวุโสคนหนึ่งของราชวงศ์ร่างขาดเป็น สองท่อนแล้วร่วงลงมากระแทกกับพื้น เมื่อน้ำสาดกระเซ็น ถึงได้ทำลายความเงียบที่ แปลกประหลาดนั้นลง

นายน้อยผู้สง่างามที่ป่วยออดๆ แอดๆ ของตระกูลลู่ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเนี่ยนจง!

เนี่ยนจงที่แม้แต่ราชวงศ์โฮ่วจิ้นก็ไม่มี?

มู่เจิ้นเฟิงตะลึงจนนิ่งไป คนของราชวงศ์ก็ตะลึงจนนิ่งไปเหมือนกัน และผู้คนที่ตามตระกูลลู่มาด้วย หลังจากที่ตกตะลึง ก็ดีใจเป็นอย่างมาก

ลู่เจี้ยก้าวเท้าออกมาอย่างช้าๆ เข้ามาใกล้อย่างสุภาพและสุขุม

เดิมเขาอยากให้เจียงหลีสังหารมู่เจิ้นเฟิง เพื่อพิสูจน์พลังอำนาจ แต่ว่าในตอนที่เขาเห็น เจียงเฮ่าและมู่ชิงเหยียนทะเลาะกัน เขาเปลี่ยนความคิด ความเคียดแค้นทั้งหมด ให้ข้าเป็นคนแบกรับไว้เอง

‘เงา’ ตามลู่เจี้ยอยู่ข้างๆ อย่างติดๆ

เนี่ยนซือมีพลังลึกลับที่แข็งแกร่ง แต่ร่างกายอ่อนแอ นี่เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้

และในขณะเดียวกัน เงาก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาเอง

ภายใต้พลังวิญญาณที่แข็งแกร่ง คนในพระราชวังตกใจและเพิ่งจะรู้ว่าเดิมทีตระกูลลู่ยัง ซ่อนหลิงจงไว้อีกคน!

มู่เจิ้นเฟิงจ้องลู่เจี้ยที่ค่อยๆ ใกล้เข้ามา สีหน้าเปลี่ยนทันที

ในตอนที่ลู่เจี้ยอยู่ห่างจากมู่เจิ้นเฟิงหนึ่งจั้ง[1] เขาหยุดลง เขามองเจียงหลี ทันใดนั้นก็ ประสานมือแล้วพูดว่า “ลำบากท่านอาแล้ว”

การถูกเรียกแบบนี้ ทำให้มุมปากของเจียงหลีกระตุกอย่างแรง ส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ มองมาทันที

ลู่เจี้ยก็ไม่สนใจ เพียงแต่หันกลับไปมองมู่เจิ้นเฟิง บนในหน้าที่สง่างามอย่างมาก พร้อม รอยยิ้มที่เย็นชา

“จะเป็นเจ้าได้อย่างไร” มู่เจิ้นเฟิงไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ตระกูลลู่ปกปิดได้ถึงขนาดนี้

ลู่เจี้ยยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าแล้วพูดว่า “คนที่จะสังหารท่าน คือข้าจริงๆ”

พูดจบ ตรงหน้าเขาก็มีคันธนูลอยอยู่กลางอากาศ บนนั้นมีลูกธนูสีทอง นี่คือพลังจิต ต่าง จากพลังวิญญาณ

ลูกธนูเล็งไปที่หว่างคิ้วของมู่เจิ้นเฟิง เขากลับตกใจและค้นพบว่าตัวเองไม่สามารถขยับ ตัวได้!

“เสด็จพ่อออ!” มู่ชิงเหยียนตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นตระหนก พยายามจะลุกขึ้นมา จากพื้นที่เต็มไปด้วยนํ้าฝน แล้ววิ่งไปที่นั้น

แต่ว่าเจี ยงเฮ่า เคลื่อนตัวมาขวางหน้านางไว้

และในขณะเดียวกัน ลูกธนูสีทองที่อยู่บนสายธนูนั้น กลับเล็งไปที่หว่างคิ้วของมู่เจิ้นเฟิง เรียบร้อย แล้วก็พุ่งออกไม่อย่างรวดเร็ว

………………………………

[1] จั้ง หน่วยความยาวของจีน 1 จั้ง เท่ากับ 3.33 เมตร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!