บทที่ 41
เป็นการประชันกับองค์ชายสี่อย่างซึ่งหน้าชัดๆ
ไม่ว่าองค์ชายหรงฉู่เสนอราคาสักกี่ครั้ง เขาก็จะเสนอเพิ่มทีละหนึ่งตำลึงตามหลังเสมอ ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกโมโหยิ่ง
ด้วยการก่อกวนของเขา สมุนไพรหลายชนิดที่เดิมทีใช้เงินเพียงสามสี่หมื่นตำลึงก็ได้มาครองแล้ว แต่องค์ชายหรงฉู่ต้องใช้เงินถึงแสนกว่าตำลึงถึงจะได้มาครอง ทำให้องค์ชายหรงฉู่โกรธจนกัดฟันกรอดๆ
แน่นอนว่า ด้วยการกระทำของคุณชายน้อยผู้นี้ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจจนถูกสายตาของผู้คนจับจ้อง
หลังจากที่กู้ซีจิ่วเห็นราคาที่แพงลิบลิ่วของสมุนไพรเหล่านั้นก็รู้ว่าหมดหวังที่จะซื้อสมุนไพรได้แล้ว ยามนี้จึงพิงราวกั้นเพื่อรับชมความครื้นเครงเสียเลย
เธอพินิจดูคุณชายน้อยผู้นั้น
เขาดูคล้ายจะเป็นคนขี้อายคนหนึ่ง ภายใต้สายตาที่จ้องมองมาอย่างสนอกสนใจของผู้คนใบหน้าขาวกระจ่างของเขาปรากฏสีแดงระเรื่อขึ้นมาจางๆ นัยน์ตาหลุบตํ่า ขนตายาวงอน ดูงดงามกว่าสาวทึนทึกที่ยังไม่ได้ออก
เรือนเสียอีก
คนผู้นี้แปลกมากจริงๆ กู้ซีจิ่วไม่รู้จัก เมื่อมองดูสีหน้าของคนเหล่านั้นที่อยู่รอบๆ แล้ว พวกเขาเองก็ไม่รู้จักเขาเช่นเดียวกัน
องค์ชายหรงฉู่เองก็เพิ่งเคยเจอคนที่ไม่รู้จักกาลเทศะเช่นนี้เป็นครั้งแรก แต่การเสนอราคาประมูลของที่นี่ไม่สามารถใช้ฐานะมาข่มผู้อื่นตรงๆ และไม่สามารถบังคับขู่เข็นผู้อื่นไม่ให้เสนอราคา เขาจึงทำได้เพียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันยิ่งกว่าเดิม
แต่หลังจากนั้นเขาก็จับแนวทางได้แล้ว ในเมื่อคุณชายน้อยคนนั้นเพิ่มราคามากกว่าเขาทีละหนึ่งตำลึงเขาเองก็จะเพิ่มทีละหนึ่งตำลึงด้วยเช่นกัน ไม่คิดจะเพิ่มทีละเป็นหมื่นๆ อีกแล้ว คิดไม่ถึงว่ายามที่เขาเพิ่มราคาขึ้นหนึ่งตำลึง คุณชายน้อยคนนั้นกลับเพิ่มราคา 10,000 ตำลึง ทำให้องค์ชายสี่ผู้นี้ดูเป็นคนขึ้งกไปเลย…
นี่เป็นการประชันกับองค์ชายสี่อย่างซึ่งหน้าชัดๆ!
ที่แท้แล้วคุณชายน้อย ผู้นี้เป็นใครกันแน่?
ไปกินดีหมีหัวใจเสือ[1]มาหรืออย่างไร? คนทั้งหลายเกิดคำถามขึ้นในหัวใจ กู้ซีจิ่วชมความครึกครื้นนี้อย่างชอบใจ พิจารณาคุณชายน้อยผู้นั้นอยู่เงียบๆ แล้วคาดเดาฐานะของคุณชายน้อยคนนี้
กล้าท้าทายองค์ชายสี่อย่างโจ่งแจ้งที่นี่ย่อมต้องไม่ใช่คนธรรมดาสามัญเป็นแน่ มีความเป็นไปได้เพียงสามประการเท่านั้น
หนึ่ง คุณชายน้อยผู้นี้เป็นคนขององค์รัชทายาท จงใจจะก่อกวนองค์ชายสี่
สอง คุณชายน้อยผู้นี้เป็นเพียงคนรวยรุ่นที่สอง[2]ที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินตํ่า ทั้งยังโง่เง่า
สาม คุณชายน้อยผู้นี้เป็นยอดฝีมือผู้สูงส่ง จึงไม่หวาดเกรงขั้วอำนาจใดๆ
กู้ซีจิ่วเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายน้อยผู้นั้นยังดูอ่อนเยาว์นัก ทั้งยังดูบอบบางถึงเพียงนี้ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นยอดฝีมือผู้สูงส่ง! ดังนั้นประการที่สามนี้ก็ตัดทิ้งไปได้
ประการที่สองนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เสียยิ่งกว่า ตระกูลชนขั้นสูงและผู้มั่งมีในอาณาจักรเฟยซิง จะมีสักกี่คนที่ไม่รู้จักองค์ชายสี่ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ลูกบ้านไหนจะกล้ามาแข่งขันประชันกับองค์ชายสี่ซึ่งๆ หน้ากันล่ะ? ถ้าไม่โง่ก็บ้าแล้ว!
ทั้งสองประการนี้จึงโยนทิ้งไปได้เลย เช่นนั้นก็เหลือความเป็นไปได้อยู่พียงอย่างเดียว คนผู้นี้เป็นคนของรัชทายาทหรงเจียหลัว ที่จงใจมาหาเรื่องก่อกวนองค์ชายสี่ผู้น่ารังเกียจคนนี้!
กู้ซีจิ่วสันนิษฐานได้ถึงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าองค์ชายสี่ผู้นั้นคงมีความคิดเช่นเดียวกันนี้อยู่ในใจ สายตาที่เย็นชาของเขาจึงเหลือบมองไปทางห้องรับรองขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัวอยู่หลายครั้ง!
จู่ๆ หัวใจของกู้ซีจิ่วก็กระตุกไหว!
ไม่สิ ยังมีความเป็นไปได้ประการที่สี่ด้วย!
อาจมีผู้สอดมือชักใยอยู่หลังม่านเพื่อทำให้องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวกับองค์ชายหรงฉู่ขัดแย้งกัน ดีที่สุดคือให้บาดหมางจนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ เมื่อนกกระสากับหอยกาบสู้กันเช่นนี้แล้ว เขาก็จะเป็นชาวประมงที่ได้ผลประโยชน์ถ้าอย่างนั้นผู้ที่บงการอยู่หลังม่านเป็นใครกัน
ขณะที่กู้ซีจิ่วกำลังใคร่ครวญอยู่เงียบๆ คุณชายน้อยผู้นั้น จู่ๆ ก็เงยหน้ามองมาทางห้องของเธอ สายตาของทั้งคู่ประสานกันพอดี คุณชายน้อยผู้นั้นแย้มยิ้มน้อยๆ กู้ซีจิ่วพลันใจเต้น!
คุณชายน้อยผู้นี้มีทั้งความหล่อเหลาและงดงามผสมผสานกันอย่างลงตัว ทว่าไม่ใช่ความงามจนถึงขั้นล่มเมืองได้ขนาดนั้น มีหลายคนในที่แห่งนี้ที่หล่อเหลากว่าเขา เช่นองค์ชายหรงฉู่ องค์ชายหรงเหยียน กับองค์ชายหรงเช่อยิ่งเทียบไม่ติด แต่เมื่อเขาคลี่ยิ้มนี้ก็คล้ายดั่งมีดอกท้อผลิบานสะพรั่งอยู่ทั่วทุกแห่งหน ทำให้จิตใจคนสั่นไหวโดยไม่เจตนา มีเสน่ห์เกินห้ามใจ!