บทที่ 88
ชักจะน่าสนใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…
บ่อนํ้าพุร้อนอันกว้างขวางกลับสู่ความสงบดังที่เคยเป็น องค์หญิงคนงามผู้นั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้สักพัก จู่ๆ มุมปากก็โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ แล้วขยับคราหนึ่ง เศษผ้าที่มัดนางไว้เหล่านั้นก็กลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตา แม้แต่เศษด้ายสักเส้นก็ไม่มีเหลืออยู่
นางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เสื้อคลุมสีแดงตัวใหญ่บนร่างลากเรี่ยไปกับพื้น ดั่งเปลวไฟที่กำลังลามเลีย
นางหลุบตาลงเล็กน้อย จู่ๆ ร่างกายก็สูงขึ้นมาในชั่วพริบตา จากเดิมที่สูงประมาณ 178 เซนติเมตร ขณะนี้กลับมีความสูงเต็มที่อยู่ที่ 182 เซนติเมตร!
โชคดีที่เสื้อคลุมที่นางสวมนั้นใหญ่มาก พอร่างกายนางขยายสูงขึ้น เสื้อคลุมนั้นก็ยังคงหลวมอยู่เหมือนเก่า เสื้อผ้ายังคงมีสภาพเดียวกับก่อนหน้านี้ วับๆ แวม เผยให้เห็นผิวขาวกระจ่างดั่งหยก
เพราะเสื้อคลุมที่หลวมจึงมองไม่ออกว่าหน้าอกนางนั้นมีส่วนโค้งนูนหรือไม่
หน้าตาของนางเองก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้งดงามปานเทพธิดา ทว่าตอนนี้กลับดูหยิ่งทระนงอย่างน่าเหลือเชื่อยิ่ง และมีเสน่ห์แบบเหลือร้ายอย่างน่า ประหลาด
แต่ว่าเดิมทีแล้วนางไม่ใช่ ‘นาง’! แต่เป็น ‘เขา’!
ถึงแม้ว่าเขาจะงดงามจนเกินบรรยาย ทว่าที่จริงแล้วกลับเป็นบุรุษ!
เขาเลิกคิ้วดกดำขึ้นเล็กน้อย แล้วยกฝ่ามือขึ้นมามอง นิ้วมือขาวสล้างดุจหยก เรียวยาวดั่งลำไผ่
เขายกมือขึ้นแตะมุมปากแล้วหัวเราะออกมาในทันใด…
ชักจะน่าสนใจยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…
จุดหยุดพักครั้งต่อไปของกู้ซีจิ่วคือสถานที่ที่ใครก็คิดไม่ถึง…จวนคุนอ๋อง
เมื่อเอ่ยถึงสถานที่นี้แล้ว คนในเมืองหลวงไม่มีใครที่ไม่รู้ ไม่มีใครที่ไม่ทราบ
เพราะผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่คือบุคคลที่ทรงอำนาจที่สุดในเมืองหลวง… องค์ชายสี่ในปัจจุบันนี้หรือก็คือคุนอ๋องหรงฉู่!
จวนคุนอ๋องนั้นมีอาณาเขตพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล มีเคหาสน์ใหญ่โตโอฬารตั้งตระหง่านทอดตัวยาวเหยียด ที่ไม่ทราบว่าลึกเข้าไปเพียงใด
องค์ชายหรงฉู่นั้นรักความหรูหรา ดังนั้นจวนของเขาจึงวิจิตรตระการตาที่สุดในหมู่องค์ชาย โอ่อ่าเสียยิ่งกว่าตำหนักขององค์รัชทายาทหรงเจียหลัวเสียอีก
องค์ชายหรงฉู่ค่อนข้างเจ้าชู้ข้างกายจึงมีอนุอยู่มากมาย แต่ละนางล้วนงามหยาดฟ้าทั้งนั้น มีคนลือกระทั้งว่าแม้แต่สาวใช้เทกระโถนให้เขาก็สวยแฉล้มแช่มช้อย
ถึงองค์ชายหรงฉู่จะยังมิได้ตบแต่งชายาอย่างเป็นทางการ ทว่าข้างกายกลับมีอนุอยู่หลายสิบนาง
โชคดีที่จวนของเขามีเรือนอยู่มากพอ มอบเรือนให้อนุคนละหลังแล้วก็ยังมีอยู่อีกเหลือเฟือ
เมื่อมีอนุอยู่มากมายย่อมเกิดการแก่งแย่งชิงดีกันภายใน ทุกเรือนต่างต่อสู้กันอย่างดุเดือดจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของที่นี่
ผู้ที่ชนะจะได้รับความโปรดปรานจากองค์ชายหรงฉู่อยู่หลายวัน ส่วนผู้แพ้บ้างก็ตกตาย บ้างก็ถูกส่งเข้าตำหนักเย็น
ตำหนักเย็นของจวนขององค์ชายหรงฉู่พิเศษกว่าตำหนักเย็นในความหมายดั้งเดิมอยู่เล็กน้อย
ตำหนักเย็นหลังนี้มองจากภายนอกแล้วไม่แตกต่างอะไรกับเรือนหลังอื่นๆ ในจวนคุนอ๋องเลย ทว่าภายในกลับเสมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง
ภายในนั้นเครื่องเรือนทั้งหมดล้วนทำจากหยกเหมันต์ กระทั่งเตียงด้านในก็ยังเป็นเตียงหยกเหมันต์ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาวด้านในนั้นก็จะหนาวเย็นราวกับเป็นห้องแช่แข็ง! ที่ยังไม่ได้กล่าวคือ ในตำหนักเย็นแห่งนี้ยังมีแมลงพิษอยู่จำนวนหนึ่งด้วย ตัวอย่างเช่นแมงป่องเพลิงเยือกแข็งที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ หากโดนมันกัดเข้าก็จะถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปสลักนํ้าแข็ง หรืออย่างหนูจิตวิญญาณเหมันต์ที่ถึงแม้จะเคลื่อนไหวได้ไม่เร็วนัก แต่ถ้าหนูจิต วิญญาณเหมันต์กัดโดนเนื้อแล้วก็จะไม่ปล่อยเด็ดขาด ยังมีมดตะนอยหิมะที่ชอบใช้ขาคืบคลานไปทั่วแล้วต่อยคน ทำให้คนที่ถูกต่อยมีตุ่มนํ้าพุพองขึ้นบนร่างกาย…
ทั้งสามชนิดนี้ล้วนเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงยิ่งนัก ทำให้คนที่ถูกส่งเข้ามาที่นี่ไม่สามารถรอดชีวิตออกไปได้
ถ้าไม่ถูกแช่แข็งจนกลายเป็นรูปสลักนํ้าแข็งก็จะถูกหนูจิตวิญญาณเหมันต์กัดกินทั้งที่ยังเป็นๆ อยู่ หรือไม่ก็จะถูกมดตะนอยหิมะต่อยจนทั้งร่างมีตุ่มนํ้าผุพองเน่าเปื่อยและตายไป…
หญิงสาวที่ถูกส่งมายังสถานที่นี้ล้วนอยู่รอดได้ไม่เกินสามวัน
สถานที่แห่งนี้คือสวนสนุกของเหล่าแมลงพิษ และเป็นสถานที่อันน่าหวาดกลัวที่สุดสำหรับอนุทั้งหลายในจวนคุนอ๋อง มีสาวงามสะคราญโฉมมากมายที่ก้าวเข้ามา ทว่ากลับไม่มีแม้แต่ร่างกายจะให้หามออกไป กระดูกหลายท่อนต้องกระจัดกระจายอยู่ที่นี่
ปกติแล้วสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามา บรรดาสาวใช้ และเหล่าองครักษ์ต่างก็พยายามเดินเลี่ยงสถานที่นี้ให้มากที่สุด แต่จุดแวะพักของกู้ซีจิ่วก็คือที่นี่