Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 147

บทที่ 147

หยกอย่างเจ้ามีขนงอกด้วยหรือ

ภายในสวนพืชพรรณไม้ดอกเขียวชอุ่มชุ่มชื่น สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดโชย เธอนั่งเอนกายพิงเสาอยู่ในศาลาหลังหนึ่ง ชมดอกไม้ใปพลางขบคิดเรื่องราวไปพลาง

ชั่วพริบตาเดียวที่นี่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน!

ลำแสงเจิดจ้าสายหนึ่งคล้ายจะปรากฏขึ้นมากลางอากาศ ดุจสายฟ้าแลบ พุ่งเข้าที่หว่างคิ้วเธออย่างจัง!

ลำแสงนั้นรุนแรงยิ่ง ยังไม่ทันแทงเข้าที่หน้าผากเธอแต่ สายลมโหมกระหน่ำที่นำมาด้วยนั้นกลับทำผิวหนังคนปริแตกแล้ว!

หากกู้ซีจิ่วหลบไม่ทัน คงต้องถูกเจาะทะลวงศีรษะอย่างแน่นอน ถึงแก่ความตายทันที!

กู้ซีจิ่วขยับจริงๆ! ต่อให้เธอไม่มีวิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาแล้ว แต่ปฏิกิริยาตอบสนองนั้นยังคงว่องไวยิ่ง พอเห็นท่าไม่ดี ก็หงายไปด้านหลังทันที ลำแสงนั้นส่งเสียงกึกก้องขณะเฉียดผ่านหน้าเธอไป

เธอกลิ้งหลุนๆ สิบแปดตลบ จากนั้นจึงดีดตัวขึ้นมาเหมือนปลาไนตัวหนึ่ง

ลำแสงนั้นแผดเสียงก้องพลางมุ่งมาอีกครั้ง…

กู้ซีจิ่วโยกซ้ายย้ายขวาเพื่อหลบหลีก

ใซ้วิชาตัวเบาชุดหนึ่งที่หยกนภาเพิ่งถ่ายทอดให้เธอเมื่อไม่นานมานี้ ประสานกับกำลังภายในที่เธอเพิ่งจะฝึกฝน แม้จะพอถูๆ ไถๆ หลบเลี่ยงไปได้ แต่ก็เป็นการหลบได้แบบทุลักทุเลยิ่ง หากประมาทเพียงเล็กน้อย ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกลำแสงนั้นเจาะทะลวง!

เคราะห์ดีที่ในเรือนมีผู้คุ้มกันลาดตระเวนอยู่ไม่น้อย เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็รีบวิ่งกระหืดหระหอบมาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเหล่าผู้คุ้มกันโผล่มา ลำแสงนั้นก็หายวับไปทันที เหมือนกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ขณะนี้กู้ซีจิ่วมอมแมมนัก ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าก็หลุดรุ่ย ท่าทางน่าอดสูยิ่งนัก เห็นได้ชัดว่าการหลบเลี่ยงนั้น เปลืองแรงเธอไปมากโขจริงๆ ผู้คุ้มกันเหล่านั้นก็มองเห็นลำแสงนั้นแวบๆ แต่พวกเขาไม่เห็นคนที่จู่โจมกู้ซีจิ่วเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคนต่างประหลาดใจ

ในโลกนี้คนที่สามารถพรางกายได้จริงๆ มีอยู่ไม่มาก คนที่พรางกายแล้วยังโจมตีผู้อื่นได้ยิ่งหายากนัก นับเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมืออีกที

คนประเภทนี้ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในระดับหัวหน้าสำนัก ทำไมจู่ๆ ถึงมาโจมตีกู้ซีจิ่วซึ่งเป็นเพียงสาวน้อยคนหนึ่งเช่นนี้ล่ะ? ทั้งยังใช้เคล็ดสังหารแบบนี้…

เกือบไปแล้ว! หากพวกเขามาช้าไปก้าวหนึ่ง เกรงว่าคุณหนูคงดับอนาถไปแล้ว!

ผู้คุ้มกันเหล่านี้ไม่กล้าเลินเล่ออีก ให้คนส่วนหนึ่งคุ้มครองกู้ซีจิ่วกลับห้อง ส่วนหนึ่งค้นหามือสังหารที่น่าสงสัยจนทั่วจวน และอีกส่วนหนึ่งรีบรุดไปแจ้งกู้เซี่ยเทียนซึ่งอยู่ข้างนอก ตระกูลกูโกลาหลขึ้นมาทันที เมื่อกู้ซีจิ่วกลับถึงห้องของตน เธอคล้ายจะขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว ยืนใจลอยอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง ถึงได้เริ่มอาบนํ้า เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ จัดการสภาพอันน่าอดสูของตนเอง

หยกนภารู้สึกข้องใจ ‘ถึงท่านจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาไม่ได้แล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ยังใช้ท่าเท้าพิเศษได้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงใช้วิชาตัวเบาที่เพิ่งเรียนรู้ ล่ะ? ถึงแม้วิชาที่เพิ่งเรียนรู้จะยอดเยี่ยมมาก แต่ยังไงท่านก็ยังใช้ได้ไม่คล่อง… หากท่านใช้ท่าเท้าชุดนั้นก็คงไม่น่าอดสูถึงเพียงนี้หรอก หลายครั้งที่ข้าเห็นลำแสงนั้น เฉียดผ่านแก้มของท่าน ข้าผวาเสียจนขนลุกชันไปหมดแล้ว!’

‘หยกอย่างเจ้ามีขนงอกด้วยหรือ?’ กู้ซีจิ่วเยาะเย้ยมัน

หยกนภา ‘…เอ้ท่านรู้อยู่แล้วชัดๆ ว่าประเด็นของข้าไม่ได้อยู่ตรงนี้!’

‘ชู่ว อย่าโวยวายไป มีคนแอบจับตามองพวกเราอยู่!’ หยกนภาเงียบไป ถึงอย่างไรมันก็เป็นหยกวิเศษ เพียงส่งประสาทสัมผัสออกไปเล็กน้อย ก็รู้สึกได้ว่ามีดวงตาคู่ หนึ่งแอบจ้องมองที่นี่อยู่จริงๆ!

แต่พอมันคิดจะตามหาดวงตาคู่นั้นกลับหาไม่เจอ. เห็นได้ชัดเจนมากว่าวิชาพรางกายของอีกฝ่ายล้ำเลิศ เป็นอย่างยิ่ง ลํ้าเลิศถึงขั้นซ่อนเร้นจากญาณหยั่งรู้ของหยกนภาอย่างมันได้!

โชคดีที่การสนทนาของมันและกู้ซีจิ่วล้วนเป็นการสนทนากันผ่านกระแสจิต คนนอกย่อมดูไม่ออก กระทั่งไม่เห็นกู้ซีจิ่วขยับปากเลยด้วยซํ้า

หยกนภาไม่ได้โง่ จึงจับจุดได้ในทันที ‘เมื่อกี้ท่านหลบหลีกอย่างทุลักทุเลแบบนั้นเพราะจงใจให้คนที่แอบจับตามองท่านคนนั้นเห็นสินะ?’

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!