บทที่ 249
เขารู้สึกเหมือนถูกตีวัวกระทบคราด!
ใบหน้าของตี้ฝูอีใกล้เป็นสีเขียวคลํ้า แย้มยิ้มน่าสะพรึง “เจ้าคิดว่าข้าเหมือนสตรีรึ?!”
กู้ซีจิ่วค่อยๆ เพ่งพิศเขา สัญชาตญาณรู้สึกถึงความอันตราย “ไม่ นาย…ไม่เหมือนผู้หญิง”
สีหน้าตี้ฝูอีค่อยดีขึ้นมาหน่อย ถามอย่างมีนัยเคลือบแฝง “เช่นนั้น เจ้าคิดว่าความแตกต่างระหว่างข้ากับสตรีคืออะไร?”
กู้ซีจิ่วแทบไม่หยุดคิดเลย “ผู้หญิงไม่โรคจิตเหมือนนาย!”
ตี้ฝูอีตกตะลึง
“เด็กน้อย ตอนนี้มีวูบหนึ่งที่ข้าอยากจะบีบคอเจ้าให้ตาย!” เขาลูบลำคอระหงของนาง พลางรั้งนางเข้ามาใกล้อีกเล็กน้อย “มา บอกข้าหน่อยสิ เจ้ากล่าวว่าเขาสมชาย ชมเขาเสียสูงเทียมฟ้า ชอบเขาใช่หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วโต้แย้ง “ฉันไม่ได้ชมเขา ฉันพูดความจริงทั้งนั้น!”
นิ้วของตี้ฝูอีบีบรัดลำคอนาง “ข้าอยากบีบคอเจ้าให้ตายยิ่งกว่าเดิมแล้ว! เอาเถอะ พวกเราไม่พูดเรื่องนี้กัน ข้าจะถามเจ้า เจ้าชอบเขามากหรือไม่ หลงใหลเขาหรือเปล่า?”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้าดุจกลองป๋องแป๋ง “ไม่…ไม่ใช่ เขาแก่เกินไป! อันที่จริงเขาเป็น…เป็นชายในฝันของสาวๆ รุ่นแม่ เทียบกับเขาแล้วฉันเป็นหญ้าอ่อน…ฉัน…ฉัน…ฉันไม่ชอบวัวแก่…ถ้านับกันตามอายุแล้ว ฉันต้องเรียกเขาว่าอาด้วยซ้ำ ถึงแม้…ถึงแม้หนังสือพิมพ์และนิตยสารจะยังเรียกเขาว่าพ่อหนุ่มเฉิง แต่ความจริงไม่หนุ่มแล้ว… เขาอายุห้าสิบหกสบแล้ว…พวกเขาแปลกมากจริงๆ…เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าแก่แล้ว ยังชอบให้คนอื่นเรียกพวกเขาว่าพ่อหนุ่มอยู่ได้… ทำตัวเป็นวัยรุ่น…”
ตี้ฝูอีพูดไม่ออก เขารู้สึกเหมือนถูกตีวัวกระทบคราด!
เขามองนางอย่างอึมครึม “เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?”
กู้ซีจิ่วกะพริบตาปริบๆ งุนงงอยู่บ้าง “ฉัน…ฉัน…ตอนนี้ฉันเหมือนจะสิบสาม…หรือว่าสิบสองอยู่นะ?”
“ข้าไม่ได้ถามอายุปัจจุปันของเจ้า…เจ้าเคยอายุเท่าไหร่?” ตี้ฝูอีค่อยๆ ตะล่อม “เจ้าจำไม่ได้แล้วกระมัง?”
“ฉันเคย…” กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากเล็กๆ เอียงศีรษะครุ่นคิด จากนั้นก็ไม่รู้ว่าความคิดล่องลอยไปหนใดแล้ว “ฉันเคยชอบเขามาก…”
ม่านหมอกค่อยๆ ปกคลุมดวงตานาง “เปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างก็เพื่อเขา…แต่ว่า…เขาเป็นคนหลอกลวง! เสแสร้ง ทุกอย่างคือการเสแสร้ง!”
‘ฟุ่บ!’ กู้ซีจิ่วถือมีดไว้ไม่อยู่ ทำมันหล่นลงไป นางนั่งอยู่ตรงนั้น กำลังเบิกตากว้าง “ที่แท้ทุกอย่างเป็นการเสแสร้ง…”
ตี้ฝูอีตอบสนองว่องไว รับมีดนั้นเอาไว้ หลุบตามองกู้ซีจิ่ว
เขานึกว่านางร้องไห้ แต่นัยน์ตาของนางปราศจากน้ำตา ดวงตาคู่นั้นดำมืดยิ่ง มืดดำราวกับธารนํ้าวนเยือกแข็ง…
ตี้ฝูอีรู้สึกเหมือนมีอะไรเสียดแทงหัวใจแปลบๆ เขาถอนหายใจ กำลังจะกล่าวบางอย่าง ทว่ากู้ซีจิ่วกลับลุกพรวดพราดขึ้นมา ร่างกายโงนเงน “โยกเยกจัง! ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว…”
แล้วพลันหกคะเมนดิ่งลงไป…
ตี้ฝูอีตกใจยิ่งนัก!
สำแสงสีขาวเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากข้อมือเขาทันที เกิดเสียงดังพึ่บ ขณะไล่ตามนางที่ร่วงดิ่งลงไป เมื่อออกแรงดึง ร่างเล็กๆ ของกู้ซีจิ่ว ก็ถูกเขาดึงขึ้นมาอีกครั้ง!
“นี่เจ้ารนหาที่ตายหรือ?” ตี้ฝูอียื่นมือไปกดนางไว้ตรงนั้น
ไม่รู้ว่ากู้ซีจิ่วเสียขวัญหรืออึดอัด ใบหน้าเล็กๆ จึงขาวซีด ปากน้อยๆ ก็เม้มแน่น
“อึดอัดรึ? หรือว่ากลัว?” นํ้าเสียงตี้ฝูอีแฝงความยินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่นไว้ ยกมือขึ้นลูบศีรษะนาง “นี่เป็นความสูงหลายร้อยจั้ง ถ้าหล่นลงไปเจ้ากลายเป็นเนื้อบดทันทีแน่…”
“แหวะ…” กู้ซีจิ่วอาเจียนออกมาแล้ว!
ตี้ฝูอีอยู่ใกล้นางมาก อีกทั้งไม่ได้ระมัดระวัง เกือบถูกนางอาเจียนรดร่างแล้ว!
เคราะห์ดีที่ปฏิกิริยาเขาว่องไว ใช้แขนเสื้อกั้นไว้ได้ทันกาล ด้วยเหตุนี้แขนเสื้อของเขาจึงเลอะเทอะเปรอะเปื้อน…
ตี้ฝูอีตะลึงงัน!
สำหรับคนที่เป็นโรครักความสะอาดขั้นรุนแรงเช่นเขา เรืองนี้อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด เกินจะทนรับได้!
เขาร่ายคาถาทำความสะอาดต่อเนื่องกันหลายครั้ง ในที่สุดก็ทำให้แขนเสื้อที่เปียกแฉะสะอาดหมดจดได้
จู่ๆ อาชาเวหาเขาเดียวที่อยู่ใต้ร่างก็สะบัดอย่างรุนแรง เขาก้มมองแวบหนึ่ง เส้นโลหิตบนหน้าผากพลันเต้นตุบๆ!
กู้ซีจิ่วล้มคว่ำอยู่บนหลังอาชาเวหา กำลังอาเจียนจนหน้ามืดตามัว ขนสีขาวเปล่งประกายของอาชาเวหาเปียกเป็นวงกว้าง…
ในหี่สุดมันก็ทนไม่ไหว เชิดหน้ากู่ร้องลั่น จากนั้นหุบปีกทั้งสองข้าง พุ่งลงไปด้านล่าง!
มันพุ่งดิ่งลงราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ กู้ซีจิ่วที่แต่เดิมนอนคว่ำอยู่บนหลังมันไหนเลยจะทรงตัวอยู่?
ร่างกายพลันร่วงหล่นลงไปอีกครา!