Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 304

บทที่ 304

หรือว่าถูกอะไรฉุดรั้งไว้?

โลกนี้มีพลังวิญญาณหลากหลายชนิด นอกจากทอง-ไม้-นํ้า-ไฟ-ดินแล้ว ยังมีรากฐานวิญญาณหายากอย่างธาตุสายฟ้ากับธาตุลมด้วย ทุกชนิดล้วนมีการฝึกฝนที่แตกต่างกัน และต้องการตำราที่ต่างกัน

กู้ซีจิ่วตรวจสอบดูแล้ว รากฐานวิญญาณในร่างเธอเป็นรากฐานวิญญาณคู่ หนึ่งเป็นรากฐานวิญญาณธาตุไฟที่พบเห็นได้ทั่วไป อีกหนึ่งเป็นรากฐานวิญญาณธาตุลมที่หายากยิ่ง ต้องใช้ตำราฝึกฝนแบบพิเศษ

ทั่วทั้งจวนแม่ทัพหาตำราประเภทนี้ไม่พบเลย กู้ซีจิ่วจำต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอก เธอจึงไปหาองค์รัชทายาทหรงเจียหลัว

องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวก็ไม่ตระหนี่กับเธอแม้แต่น้อย พาเธอไปที่หอเก็บตำราในวังทันที เธอค้นหาอยู่ที่นั้นตั้งครึ่งค่อนวัน ในที่สุดก็หามาได้สองเล่ม

หลังจากกู้ซีจิ่วอ่านดูแล้วก็ค่อนข้างผิดหวัง ตำราสองเล่มนี้ไม่ใช่ตำราพื้นฐาน แต่เหมือนจะเป็นตำราเคล็ดลับแขนงใหม่ มีแต่ต้องฝึกฝนถึงระดับกลางถึงจะอ่านได้

แต่เธอเป็นเพียงระดับเริ่มต้น ย่อมไม่เหมาะสมแน่ แต่ก็หาตำราเล่มอื่นๆ ที่เหมาะสมไม่ได้แล้ว

เธอทำได้เพียงนำตำราสองเล่มนี้กลับไปศึกษาดูก่อน คิดจะนำตำราที่ไม่สมบูรณ์ทั้งสองเล่มมาอนุมานเป็นฉบับพื้นฐานเอา

เมื่อวานเธอศึกษาอยู่ทั้งวัน ก็ศึกษาหาที่มาที่ไปไม่ได้

ความรู้สึกเหมือนนักเรียนชั้นมัธยมต้นที่ข้ามพีชคณิตระดับมัธยมต้นมาอ่านแคลคูลัสระดับมหาวิทยาลัย อ่านแล้วสับสนมึนงง

เธอจำต้องยอมแพ้ชั่วคราว แล้วเปลี่ยนมาฝึกฝนลักษณะพิเศษที่สอดคล้องกับรากวิญญาณธาตุไฟแทน

ตอนกลางวันวันนี้เธอฝึกฝนตลอดทั้งวัน รู้สึกว่าพลังวิญญาณของตนสมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อย นับว่ามีพัฒนาการบางส่วน

วันก่อนเธอได้พูดคุยกับองค์รัชทายาทหรงเจียหลัวที่เคยเข้าสู่ป่าทมิฬแล้วพักหนึ่ง ประเด็นหลักคืออยากเข้าใจสภาพแวดล้อมโดยรอบของสามยอดเขาป่าทมิฬ

ตอนที่องค์รัชทายาทหรงเจียหลัวเข้าไปในป่าทมิฬแห่งนั้น ระดับพลังวิญญาณอยู่ที่ขั้นหก เป็นระดับสุดยอดของอาณาจักรเฟยซิง นับเป็นยอดฝีมือที่ลํ้าเลิศ

แม้แต่เขาที่อยู่ในระดับนี้ก็แทบจะไปไม่ถึงพรมแดนยอดเขาที่สามแล้ว ไม่ได้เข้าไปแม้แต่ด้านในก็ประสบกับความยุ่งยากครั้งใหญ่ เกือบสูญเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัสแทบจะไม่รอดออกมา…

ตามที่เขาพูด ข้างในนั้นไม่เพียงมีสัตว์ร้ายที่ดุดันโหดร้ายยิ่งเท่านั้น ยังมีไอพิษอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งด้วย

หนองน้ำที่อำพรางตนเป็นทุ่งหญ้าเพื่อดูดกลืนคน ต้นไม้กินคน ฝูงมดกินคน…มีแม้กระทั่งอาณาจักรแห่งความฝันที่สามารถกินคนได้ เหมือนปีศาจอ๋าวโลหิตที่กู้ซีจิ่วพบเจอเมื่อหลายวันก่อน ก็พบเห็น ได้บ่อยมากในสถานที่แห่งนั้น

เมื่อองค์รัชทายาทแจกแจงเช่นนี้ ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เข้าใจป่าทมิฬแห่งนี้คร่าวๆ แล้ว ในใจยิ่งทราบแจ่มแจ้งว่าการฝึกฝนของนางจะล่าช้าไม่ได้

เมื่อไปถึงบนยอดเขาที่สามจริงๆ ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเธอได้ เธอต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น

ระยะเวลาครึ่งปีดูเหมือนจะนาน แต่สำาหรับเธอแล้วกระชั้นชิดอย่างยิ่ง

สำหรับจักรพรรดิซวนแล้ว ฐานะเช่นนี้ของกู้ซีจิ่วเป็นฐานะที่หาได้ยากนัก และเป็นที่หมายตาของอีกสองอาณาจักร เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน จักรพรรดิซวนจึงออกคำสั่งโยกย้ายกองทหารรักษา พระองค์กลุ่มหนึ่งไปอารักขาความปลอดภัยของจวนแม่ทัพโดยเฉพาะ ทั้งยังส่งยอดฝีมือของวังหลวงอีกสี่นายไปแฝงตัวอยู่รอบกายกู้ซีจิ่ว เตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน มีคนเหล่านี้คุ้มครองอยู่รอบกายกู้ซีจิ่ว เธอจึงปลอดภัยไม่น้อย แต่ลึกๆ ในใจของกู้ซีจิ่วยังมีความหวาดระแวงอยู่อีกชั้น หวาดระแวงหลงซือเย่!

ระแวงว่าเขาจะแอบมาลักพาตัวเธอไปที่เทือกเขาถามสวรรค์เพื่อเป็นเบี้ยรับเคราะห์ฟื้นคืนชีพให้คู่หมั้นเขา…

ผู้สูงส่งเฉกเช่นหลงซือเย่ ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ ยอดฝีมือที่จักรพรรดิซวนส่งมาอยู่รอบกายเธอเหล่านี้ไม่มีทางต้านทานได้ เธอก็ต้านทานไม่ได้เหมือนกัน

เธอระแวดระวังอยู่สามวัน ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เห็นเงาของหลงซือเย่เลย จึงเบาใจลงเล็กน้อย แต่ในใจก็ยังคงคลางแคลงอยู่บ้าง

ดูจากท่าทางของหลงซือเย่ในวันนั้น เหมือนจะยึดติดกับเธอ รู้สึกว่าไม่ตายไม่ยอมเลิกรา

แต่นึกไม่ถึงว่าตั้งแต่เธอถูกตี้ฝูอีนำตัวกลับมา หลงซือเย่ก็ไม่ได้โผล่มาเลย เขาถอดใจแล้วหรือ?

หรือว่าถูกอะไรฉุดรั้งไว้?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!