Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 323

บทที่

323 จ้งเซิง

ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งนับถือผู้ที่แข็งแกร่งมากเท่านั้น นักล่ารางวัลหลายคนที่ปกติแล้วเย่อหยิ่งทะนงตนกลับมองกู้ซีจิ่วด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใส ท่าทีก็แตกต่างกันมาก พูดจากับนาง อย่างสุภาพ

หลงซื่อจื่อยื่นดอกอสูรเหมันต์ที่กู้ซีจิ่วควรได้รับใส่มือเธอด้วยตนเอง ทั้งยังเพิ่มให้เธออีกสองต้น

กู้ซีจิ่วแบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจนมาตลอด เธอจึงส่งสองต้นกลับเข้าไปในมือหลงซื่อจื่อ “ไม่ต้องหรอก เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับข้าแล้ว”

ในเมื่อทุกคนปลอดภัย ก็ได้เวลารีบหลอมกลั่นโอสถแล้ว

ทั้งกลุ่มเดินทางอีกสิบกว่าลี้ หาสถานที่ปลอดภัยแห่งหนึ่ง แล้วจึงเริ่มเตรียมการเพื่อหลอมกลั่นโอสถ

สถานที่แห่งนี้กู้ซีจิ่วเป็นผู้หาพบ ลมไม่พัดผ่าน และค่อนข้างปลอดภัย

ซานซิงมองร่างกายที่ห่อหุ้มด้วยหนังหมีของเธอ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร สั่งให้พรรคพวกที่มีพลังวิญญาณธาตุนํ้าควบคุมนํ้า สร้างกระท่อมนํ้าแข็งหลังหนึ่งขึ้นทันที…

แม้กระท่อมนํ้าแข็งจะไม่อบอุ่นเท่าไหร่ แต่ก็ดีกว่าอยู่กลางแจ้งมากนัก แถมยังกันลมได้ ทำให้ไม่รู้สึกหนาวเย็นจนเกินไป

เห็นได้ชัดเจนมากว่าซานซิงทำเช่นนี้ เพื่อเตรียมไว้ให้กู้ซีจิ่วที่ขี้หนาว

กู้ซีจิ่วประสานมือขอบคุณพวกเขา แล้วถอดหนังหมีออก ปูบนพื้นเป็นเบาะรองนั่ง

เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าทุกคนที่นั่นองเธออยู่ จึงเลิกคิ้วนิดๆ รีบสำรวจร่างกายตนอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าเรียบร้อยดี ไม่รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง

“ซื่อจื่อ ข้าผิดปกติตรงไหนหรือ?” กู้ซีจิ่วถามออกไป เมื่อถอดหมวกคลุมถอดชุดหนังหมีอ้วนฉุนั้นออกไป เรือนร่างของนางเพรียวบางยิ่งนัก และเปิดเผยใบหน้าทั้งหมดออกมา

เส้นผมดำขลับรวบเป็นทรงหางม้าสูงทะมัดทะแมง ผิวพรรณสีนํ้าผึ้งดูสุขภาพดี รูปโฉมของนางอาจจะค่อนข้างธรรมดา แต่ดวงตาคู่นั้นสุกสว่างดุจดาวฤกษ์ ส่องประกายระยิบระยับชวนให้ลุ่มหลง ยามที่นางมองมาสามารถทำให้คนตะลึงจนแทบหยุดหายใจได้เลย

ลึกลับ สุขุมลุ่มลึก ราวกับมีความสูงศักดิ์ติดกายมาตั้งแต่กำเนิด

ชั่วชีวิตของหลงซื่อจื่อเคยพบเห็นโฉมงามมาไม่น้อย แต่บุคลิกเช่นกู้ซีจิ่วเพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรก ทำให้เขาตะลึงไปพักหนึ่ง

เมื่อกู้ซีจิ่วเอ่ยถาม เขาถึงได้สติแล้วกระแอมไอ “มะ…ไม่มีอันใดผิดปกติ แม่นางยอดเยี่ยมมาก ใช่แล้ว ข้ามีนามว่าหลงโม่เหยียน แม่นางเรียกข้าว่าโม่เหยียนก็ได้”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า “โม่เหยียน”

”มิทราบว่าแม่นางมีนามว่าอะไร?”

กู้ซีจิ่วใคร่ครวญเล็กน้อย ในที่สุดก็กล่าวนามหนึ่งออกไป “จ้งเซิง”

จ้งเซิง คล้ายกับคำว่ากำเนิดใหม่ เธอกำเนิดใหม่อีกครั้งจริงๆ

นามนี้ย่อมไม่เป็นที่รู้จัก ทุกคนต่างสบตากันแวบหนึ่ง ไม่เชื่อว่าเด็กสาวที่มีความสามารถระดับนี้จะไม่มีชื่อเสียงเลื่องลือ

“ดี ต่อไปนี้ข้าจะเรียกท่านว่าจ้งเซิง” หลงซื่อจื่อผู้นี้เป็นมิตรยิ่ง สนทนาพาทีกับกู้ซีจิ่ว

พวกเล่อเจียจวินสองคนย่อมถูกหมางเมินไป สองคนสบตากัน ต่างมองเห็นไฟริษยาลุกโชนอยู่ในดวงตาของอีกฝ่าย

เมื่อหลงซื่อจื่อออกไป เล่อเจียจวินจึงยิ้มนิดๆ พลางกล่าวกับกู้ซีจิ่ว “แม่นางจ้งเซิงออกไปเก็บสมุนไพรนี้ด้วยตัวคนเดียวช่างกล้าหาญเสียจริง”

“มิใช่ความกล้าหาญ เป็นความสามารถต่างหาก “กู้ซีจิ่วเริ่มเล่นสมุนไพร

“ความสามารถ? ในเมื่อแม่นางกล่าวว่ามีความสามารถในการเก็บเกี่ยวสมุนไพร ก็คงมีความสามารถหลอมกลั่นโอสถด้วยกระมัง?”

“แน่อยู่แล้ว”

“แม่นางช่างมีความสามารถรอบด้านนัก ไม่ทราบว่าทักษะการหลอมของแม่นางอยู่ในขั้นใด?”

กู้ซีจิ่ววางสมุนไพรในมือไว้ใกล้ๆ ยิ้มคล้ายมิยิ้มพลางกล่าว “แม่นางเล่อไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม เจ้าอยากพูดอะไร ก็พูดมาตรงๆ เถิด!”

เล่อเจียจวินชะงัก ค่อนข้างกระอักกระอ่าน กระแอมไอเบาๆ “เห็นว่าท่านมีฝีมือจัดการสมุนไพรได้อย่างเชี่ยวชาญ คิดว่าวิชาหลอมโอสถก็น่าจะไม่เลว มิสู้ท่านกับข้ามาประลองกันสักยกเป็นอย่างไร? จะได้คลายเหงายามหลอมโอสถด้วย”

กู้ซีจิ่วปฏิเสธทันควัน “การหลอมโอสถของข้ามิได้มีไว้เพื่อประลอง ไม่สนใจ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!