Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 484

บทที่ 484

ข้าจะทำให้พวกเขาเสียใจที่ปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้! 1

ตี้ฝูอีไม่แปลกใจเลย “ด้วยคุณสมบัติของนาง หากไม่โดดเด่น ข้าคงสงสัยว่านางคือศิษย์สวรรค์เบื้องบนตัวปลอม”

มู่เฟิงถอนหายใจ “เช่นนั้นเกรงว่าฐานะยามอยู่ที่นี่ของแม่นางกู้และอวิ๋นซิงหลังคงจะต่างกันลิบลับ”

ตี้ฝูอีเงียบไปครู่หนึ่ง “กู้ซีจิ่วมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง?”

“นางไม่มีปฏิกิริยาใดเลยขอรับ แม่นางผู้นี้ช่างสุขุมเยือกเยือกโดยแท้ ยามกู่ฉานโม่พบนางคงคิดจะทำให้นางโกรธจนจากไปหรือไม่ก็ยอมถอยไปเอง จึงกล่าววาจาไม่น่าฟังกับนางมากมาย นางไม่มี ปฏิกิริยาใดเป็นพิเศษเลย หน้าไม่แดงหัวใจไม่เต้นรัว สงบนิ่งดั่งขุนเขา นางตอบโต้วาจาไม่น่าฟังทั้งหมดของกู่ฉานโม่เพียงประโยคเดียว เกือบจะทำให้กู่ฉานโม่โมโหจนตายแล้ว!”

“กล่าวว่าอย่างไร?” ตี้ฝูอีมีท่าทีสนอกสนใจอย่างที่พบเห็นได้ยาก

“นางกล่าวว่า ข้าคือคนที่เทพศักดิ์สิทธิ์ส่งมา ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านไม่ได้เห็นสีหน้ายามนั้นของกู่ฉานโม่ เขาโมโหนางจนหน้าแทบเขียวคลํ้าเลยขอรับ…”

ตี้ฝูอีหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ดูเหมือนเสี่ยวซีจิ่วจะเชี่ยวชาญด้านการยั่วโมโหคน

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ขอรับ ข้าน้อยเกรงว่ากู่ฉานโม่จะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนขัดแข้งขัดขาแม่นางกู้ และเล่นไม่ซื่อกับนาง กู่ฉานโม่พูดอีกว่าต่อให้เป็นศิษย์สังเกตการณ์ ก็ต้องเข้าร่วมการฝึกฝนอันทารุณ ระหว่างการฝึกฝนมีอันตรายถึงชีวิต หากว่านางสิ้นชีพอยู่ที่นั่นเขาคงไม่รับผิดชอบ…”

“นางไม่ตายหรอก…ไม่ช้ากู่ฉานโม่จะต้องเสียใจ…” ตี้ฝูอีหัวเราะเสียงแผ่ว

“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ท่านว่าอย่างไรนะขอรับ?” มู่เฟิงได้ยินไม่ชัด

“ข้าบอกว่าเจ้าควรไสหัวกลับมาได้แล้ว! มัวโอ้เอ้อะไร?”

มู่เฟิงพูดไม่ออก…

………………………….

เนินหินขรุขระแห่งหนึ่ง

วัชพืชแทบสูงเลยเข่า รอบข้างเต็มไปด้วยโขดหินขรุชระ

บนเนินหินขรุขระมีกองไม้กระจายเกลื่อนกลาด สถานที่แห่งนี้เปลี่ยวร้างอย่างยิ่ง

“แม่นางกู้ นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่นี่คือที่พักของท่าน” เด็กรับใช้ที่นำทางมากล่าวกับกู้ซีจิ่ว

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว มองอาคารโอ่อ่าที่อยู่ไม่ไกล แล้วมองดูสถานที่แห่งนี้ “เจ้าแน่ใจหรือว่าไม่ได้จำผิด? ที่แห่งนี้คนจะอยู่อาศัยได้หรือ?”

“อาจารย์ใหญ่กู่ของพวกเราแจ้งว่าห้องพักของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เรามีจำกัด ทั้งหมดเตรียมไว้สำหรับศิษย์อย่างเป็นทางการเท่านั้น ศิษย์สังเกตการณ์ทำได้เพียงสร้างที่พักด้วยตนเอง แม่นางกู้ ท่านพอใจในสิ่งที่มีเถิด อย่างน้อยท่านอาจารย์ใหญ่ก็ยังจัดสรรที่ผืนนี้ให้ท่าน ต้องทราบก่อนว่าสำนักศึกษาของพวกเราคือที่ดินทำเลทอง ตามปกติแล้วที่ดินสักส่วนก็มิอาจสิ้นเปลืองได้” เด็กรับใช้อีกคนเอ่ยขึ้น

บนใบหน้าเยาว์วัยของเด็กรับใช้ทั้งสองซ่อนเร้นความเหยียดหยามเอาไว้ไม่มิด เมื่อกล่าวคำพูดเหล่านี้จบพวกเขาก็หันหลังจากไปเลย

เมื่อห่างออกไป ก็ยังได้ยินบทสนทนาของพวกเขาได้

“เป็นเพียงศิษย์ที่ใช้เส้นสาย ยังคิดจะพักอยู่ในที่งดงามอีกหรือ? นึกว่าที่นี่ของพวกเราคืออาณาจักรเฟยซิงหรือไร?”

“ใช่แล้ว ศิษย์ที่ใช้เส้นสายน่ารังเกียจที่สุด…”

เด็กทั้งสองค่อยๆ ห่างออกไป ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหอยยักษ์กระฟัดกระเฟียด มันรู้สึกว่าจะสะกดกลั้นพละกำลังที่เอ่อท้นในร่างกายตนเอาไว้ไม่ได้แล้ว “เจ้านาย ต้องการให้ข้าใช้พิษมายาหลอนลวงของข้าเล่นงานพวกเขาทั้งหมดเลยหรือไม่? ข้าจะเขมือบพวกเขาซะ! ให้พวกเขารู้ว่าอย่าดูถูกผู้อื่น!”

“แง่ว แอ้วๆ!” เจ้าลู่อู๋ก็จะโดดออกมาเช่นกัน ดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง ท่าทางเหมือนมีศัตรูร่วมกัน

กู้ซีจิ่วกดเปลือกเจ้าหอยยักษ์ไว้ “อย่า ผู้คนที่อยู่ที่นี่ นอกจากเด็กรับใช้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้แล้ว คนที่เหลือล้วนเป็นยอดฝีมือพลังวิญญาณขั้นเจ็ดขึ้นไป เจ้าจะทำให้เขาเข้ามาสู่มายาหลอนลวงของเจ้าได้จริงๆ น่ะหรือ?”

“ไม่ลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรเล่า?” เจ้าหอยยักษ์ไม่ยอมแพ้

“แล้วไปเถอะ เจ้าอย่าทำให้พวกเขาเข้าสู่ภาพมายาของเจ้าเลย กลับกันหากพวกเขาจับจุดเจ้าได้แล้วเอาเจ้าไปตุ๋นแทนคงไม่ดีหรอก” กู้ซีจิ่วห้ามปรามมัน

“เจ้านาย ข้ารู้สึกว่าท่านชี้ชวนให้เห็นศักยภาพของผู้อื่น ทว่าดูถูกพลังอำนาจของตนอยู่บ้าง” เจ้าหอยยักษ์ไม่พอใจ

กู้ซีจิ่วยกยิ้ม “เจ้าหอยยักษ์รู้หรือไม่ว่าตีงูต้องตีให้ถูกจุด? บางครั้งบุ่มบ่ามไปก็ไม่ดี ข้าจะทำให้พวกเขาเสียใจที่ปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!