№ 61 ค่ำคืนแห่งการเข่นฆ่า!
หลังจากตะลึงงันกันไปเช่นนั้นชั่วขณะ ทหารรับจ้างชุดดำทั้งสี่นายก็เผยแววตาหื่นกาม
“เป็นเธอ นึกไม่ถึงเลยว่าตัวจริงจะงดงามพราวเสน่ห์กว่ารูปวาดเสียอีก”
“ไม่เลวเลย จะฆ่าทั้งแบบนี้ก็น่าเสียดายแย่ ไม่สู้…”
อีกคนหนึ่งลูบคางพลางหัวเราะเหอะๆ แววตาดุร้ายพินิจมองเรือนร่างอรชรสีแดงฉานอย่างเปิดเผย
แม้จะรู้สึกว่าหญิงชุดแดงช่างงามเลิศภายใต้แสงจันทร์ และถึงแม้อีกสองคนจะคันหัวจิตหัวใจ แต่กลับยังต้องระวังตัวให้มากกว่าสองคนนั้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นท่าทางผ่าเผยใจเย็นโดยไม่ตื่นตระหนกตกใจของเธอ ก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ
ทหารรับจ้างนายหนึ่งผู้มีรอยแผลฉกรรจ์บนใบหน้า กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม “หญิงผู้นี้ท่าทีแปลกๆ อย่าได้นิ่งนอนใจไป นี่ยังเป็นภารกิจที่ต้องฆ่าให้ได้อยู่นะ”
“แค่สาวน้อยคนเดียว พี่สาม ท่านก็ให้ค่าเธอเกินไป” ทหารรับจ้างนายหนึ่งในพวกนั้นพูดอย่างดูถูก และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นสาวน้อยอ้อนแอ้นลอยละล่องอยู่กลางสายลมในค่ำคืน เขาก็หัวเราะเหอะๆ ขึ้นมา “ก็แค่สาวน้อยคนหนึ่ง ข้าคนเดียวก็กำราบเธอได้น่า”
ปลายเท้าเขาเหยียบไปบนกระเบื้องหลังคา และใช้พลังกระโดดขึ้นไปเผชิญหน้ากับเธอ
“จะฆ่าทิ้งก็น่าเสียดายนัก มาเล่นกับข้าซะดีๆ ก่อนเถอะ!” เขายิ้มอย่างชั่วร้าย ก่อนจะโน้มตัวยื่นมือออกไปจะจับตรงเสื้อบริเวณหน้าอกของเฟิ่งจิ่วที่กำลังนั่งอยู่บนหลังคาอย่างเกียจคร้าน
และในช่วงเวลานั้นเอง เฟิ่งจิ่วที่หรี่ดวงตาหงส์งามลงครึ่งหนึ่งก็มีแววเย็นเยียบฉายอยู่ในดวงตา พลันเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของอีกฝ่ายที่ยื่นมา แล้วใช้แรงที่มือหักมันลง
“แกร๊ก!”
“อ๊าก!”
เสียงกระดูกแตกหักตัดผ่านท้องฟ้ายามราตรีไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันรุนแรง มันทำลายซึ่งความเงียบสงัดในยามวิกาล…
แทบจะในเวลาเดียวกัน เฟิ่งจิ่วที่เดิมทีเคยนั่งอยู่อาศัยแรงลุกยืนขึ้นมา เธอยกเท้าขึ้นเตะด้วยความโหดเหี้ยม จนปลายเท้าที่ใช้พลังเร้นลับเคลือบแฝง เตะโดนตรงเป้ากางเกงของอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ
“อื้ม!”
เขาร้องไม่ออก มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเพราะหายใจไม่สะดวกนัก รวมถึงร่างกายที่เจ็บปวดจนต้องคดโก่งตัวขึ้นมาอย่างยากเกินทน สองขาที่สั่นไหวทรุดลงไปเป็นเสียงดังตุบ
“มีกำลังแค่นี้รึ?” เฟิ่งจิ่วส่งเสียงหึอย่างเย็นชา เธอคลายมือที่จับข้อมือเขาไว้ออก แล้วสับเปลี่ยนมาบีบที่ลำคอเขาแทน พอเสียงดังแกร๊ก คอเขาก็ถูกบิดหัก ก่อนจะผ่อนมือปล่อยร่างเขาร่วงลงไปในเรือน
“พี่สอง!”
เสียงอุทานหลายเสียงดังลอยออกมา สามคนนั้นมองเฟิ่งจิ่วอย่างโกรธเคือง ต่างตื่นตระหนกในฝีมืออันร้ายกาจของเธอ การเคลื่อนไหวที่ว่องไว ความเร็วเช่นนั้น ทำให้พวกเขาถึงกับไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบโต้ จึงทำได้เพียงเบิกตามองเธอฆ่าพี่สองจนตาย!
“ฆ่านางซะ!”
น้ำเสียงอันชั่วร้ายของชายที่ค่อนข้างสูงอายุช่างมีความดุดันโหดเหี้ยม พอพูดไปเช่นนั้น ก็ดึงพลังขึ้นมา เขากระโดดขึ้นไปประจันหน้าบนหลังคา กระบี่ยาวในมือมีกลิ่นอายพลังเร้นลับพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรง
“ระดับนักรบพลังเร้นลับขั้นกลาง?” คิ้วเธอเลิกขึ้นน้อยๆ เธอดูถูกพละกำลังของพวกเขาไปบ้างจริงๆ
พอขยับมือ มีดสั้นที่แหลมคมก็สะท้อนแสงกระหายเลือดที่เย็นเยียบอยู่ท่ามกลางค่ำคืน เธอหยัดตัวขึ้นทันใด เมื่อปลายดาบอยู่ห่างออกไปสามนิ้ว เธอก็เอี้ยวตัวออกด้านข้าง แล้วสะบัดมีดสั้นในมือไป ได้ยินเพียงเสียงอู้อี้ดังออกมา ดวงตาคู่นั้นของทหารรับจ้างที่อยู่ข้างกายเบิกโพลง ทั้งร่างเขาแข็งทื่อ ก่อนจะล้มตัวตรงลงไปด้านในเรือน
ฆ่าพี่ใหญ่ของพวกเขาได้ในหนึ่งกระบวนท่า?
สีหน้าเคร่งขรึมของอีกสองคนที่เหลือ มีความหวาดหวั่นท่วมท้นบนใบหน้า
แรงอาฆาตที่เอ่อล้นบนร่างหญิงสาว คละคลุ้งมายิ่งกว่าทหารรับจ้างจากตลาดมืดเช่นพวกเขาอีก ทำให้พวกเขาต่างขวัญหนีดีฝ่อกันอย่างไม่อาจควบคุม…
“รีบไปเร็ว!”
คนเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะฆ่าได้ หากยังไม่ไปอีก เกรงว่าชีวิตเล็กๆ ของพวกเขาก็ต้องจบเห่ลงที่นี่…
…………………………………….